“สมศักดิ์” แจงสร้างศูนย์แพทย์แผนไทยที่คีรีมาส ไร้ผลประโยชน์

รัฐสภา 30 พ.ค.-“สมศักดิ์” แจงสร้างศูนย์แพทย์แผนไทยที่คีรีมาส สุโขทัย ไร้ผลประโยชน์โยงเอี่ยว “สาธารณสุข” เล็งรับนักศึกษาแพทย์จาก ม.เอกชน-ต่างประเทศ แก้โรงพยาบาลรัฐขาดแคลนหมอ ยอมรับอาจทำให้นักศึกษาแพทย์โรงพยาบาลรัฐตกงาน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นวันที่สาม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขว่า ส่วนที่มีคำถามว่าศูนย์อาคารสาธารณสุขเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย ที่จะตั้งที่จ.สุโขทัย และมีการตั้งงบประมาณไว้ 140 ล้านบาทนั้น จริงๆ มีการตั้งงบประมาณไว้ 50 ล้านบาท แต่อีก 90 ล้านบาทเป็นงบประมาณผูกพันไว้สำหรับศูนย์อื่นๆ ที่สร้างไปแล้ว


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่ต้องไปตั้งที่ อ.คีรีมาส จ.สุโขทัย เพราะ อ.คีรีมาส เป็นเขาสมุนไพรตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และการที่บอกมีการตั้งรางวัลจำนวน 60 ล้านบาทนั้น ก็ไม่ใช่การตั้งรางวัลแต่เป็นการประชาสัมพันธ์กับแต่ละโรงพยาบาลที่ให้เลิกใช้ยาฝรั่ง แต่ให้มาใช้ยาแผนไทย

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่เพื่อนสมาชิกตั้งคำถามถึงการเชื่อมต่อระบบบริการสุขภาพดิจิทัลหรือ Thailand health Atlas ใช้ได้หรือไม่ ทำไมจึงไม่มีในเล่มงบประมาณขาวคาดแดงนั้น ขอเรียนว่า เรามีและมีการตั้งงบประมาณไว้ 17.55 ล้านบาท อยู่ในเล่มที่ 11 หน้า 70 บรรทัดที่ 4 อยู่ในโครงการใหญ่ Health data hub


นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้สึกประทับใจที่สมาชิกส่วนใหญ่ชื่นชมการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขมากกว่าตำหนิ เพราะตนพยายามตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถโดยเฉพาะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยในปี 2569 กระทรวงสาธารณสุข มีวงเงินงบประมาณ 372,662.11 ล้านบาท ประกอบด้วย 10 กรม วงเงิน 175,286 ล้านบาท 6 หน่วยงานในกำกับ 2,352 ล้านบาท กองทุน 195,022 ล้านบาท ซึ่งแบบออกเป็นวงเงินตามนโยบาย 242,477 ล้านบาท แยกเป็น 8 ส่วน คือ 1.โครงการพระราชดำริ 1,303 ล้านบาท 2. ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ 160,241 ล้านบาท 3.สุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติด 1,140 ล้านบาท 4.คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ 37,792 ล้านบาท 5.สนับสนุนการดำเนินงาน อสม. 30,418 ล้านบาท 6.กลุ่มเปราะบางและพื้นที่พิเศษ 7,606 ล้านบาท 7.เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ 335 ล้านบาท 8.บริการจัดการทรัพยากรสาธารณสุข 3,638 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีวงเงินอื่นๆ จำนวน 130,184 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานตามภารกิจพื้นที่ประจำ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีคนวิพากษ์วิจารณ์กองทุน 30 บาทรักษาทุกที่ มีโอกาสล้มละลายภายใน 3 ปี ตนอยากบอกว่าหากปล่อยปะละเลยโดยเฉพาะบางอย่างที่มองเห็นแล้ว มันอาจจะเป็นอย่างที่ถูกวิจารณ์ แต่ตนเห็นว่าปัญหาอื่นเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือโรค NCD เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลของหลักประกันสุขภาพสำหรับการใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ กรณีผู้ป่วยนอก ปี 2567 พบว่า มีผู้ป่วยโรคนี้เข้ารับการรักษา 220 ล้านครั้ง โดยเป็นผู้ป่วย NCD 167 ล้านครั้ง หรือ 76% ถ้าเราแก้ไขปัญหานี้ได้ ปัญหาอื่นเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว เพราะงบประมาณสูง โดยในปี 2560 ใช้งบประมาณ 62,138 ล้านบาท หรือ 48 % ของงบประมาณภาพรวมนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ และปี2567 ใช้งบประมาณ 79,537 ล้านบาท หรือ 52 % ของงบประมาณภาพรวม เฉพาะหากจัดการเรื่องนี้ได้งบประมาณกองทุนจะเหลือเฟือ ซึ่งหากจัดการกับโรคเบาหวาน และการฟอกไต จะลดงบประมาณไปได้ 44,000 ล้านบาท จะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล และช่วยให้แพทย์มีเพียงพอ จึงต้องทำให้ อสม.มั่นคง ซึ่งตนมั่นใจว่ามาตรการนับคาร์บ ภายใน 2 ปี คนป่วย NCD เข้าโรงพยาบาลจะน้อยลง แต่คนที่ป่วยอยู่แล้วคงรักษาแบบประคับประคอง

ส่วนที่มีการตั้งงบประมาณ โครงการนับคาร์บ 1,200 ล้านบาท นั้นมีกิจกรรมจำนวนมาก เช่น การส่งเสริมความรู้ประชาชน อบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อบรมเสริมศักยภาพ อสม. และหาเครื่องสนับสนุนการทำงานของ อสม. เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องเจาะน้ำตาล ระบบเก็บข้อมูล


พร้อมกันนี้นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ว่า พื้นที่ที่ขาดแคลนแพทย์ ได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่พิเศษ ทั้งจังหวัดบึงกาฬ แม่ฮ่องสอน และตาก บางพื้นที่ เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษ ขั้นต่ำตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป พร้อมทั้งรับนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอกชนและจบจากมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศที่แพทยสภายอมรับได้ จึงอยากไปถึงแพทย์ทั่วประเทศว่าหากเริ่มรับแล้วจะต้องรับไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้แพทย์จากมหาวิทยาลัยรัฐต้องเสียสิทธิ์ แต่เพื่อแก้ปัญหาจึงจำเป็นต้องประกาศพื้นที่พิเศษ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่กรณีที่มีการเอ่ยชื่อบุคคลที่นามสกุลเดียวกับตน เป็นหลานชายตนนั้น พ่อเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน เขาชื่อมหาคุณ เทพสุทิน เป็นเจ้าของร้านตำหรับไทย ขอเรียนว่าเขาไม่มีธุรกิจ ธุรกรรมอะไรกับกระทรวงสาธารณสุขเลย แม้แต่บาทเดียวก็ไม่ได้ทำธุรกิจกับกระทรวงสธารณสุข แต่คอยช่วยตนตั้งแต่สมัยที่มีโควิดเข้ามา เขาแนะนำตนในเรื่องฟ้าทะลายโจร เดี๋ยวฟ้าทะลายโจรจะขึ้นราคา หากเราไม่มีฟาวิพิราเวียร์ก็ให้สต็อกฟ้าทะลายโจร

“อย่าไปคิดเลยว่ามหาคุณจะได้ประโยชน์จากกระทรวงสาธารณสุข เขาเป็นร้านตำหรับไทย เปิดร้านมาแล้ว 20 กว่าปี ปัจจุบันมี 80 กว่าสาขาทั่วประเทศ ทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี อยู่ม.6 เคยฝึกงานอยู่บู๊ท 4 เดือนก่อนที่เจ้าของเขาจะขายให้มหาคุณในราคา 7 หมื่น แต่ตอนนี้เขาอายุ 40 กว่าปี มีธุรกิจตำหรับไทย 80 กว่าสาขา” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ใช้สิทธิ์ซักถามว่า โครงการ NCD ที่เป็นโครงการใหม่ของท่าน ทำให้งบประมารไปจมอยู่ตรงนั้นเยอะ มีงบ 1,200 ล้านบาทนั้น จะนำไปอบรมทั้งหมดหรืออย่างไร ขอให้ช่วยชี้แจง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ความจริง 1,200 ล้านบาทนั้นไม่พอ โครงการโรค NCD แค่ 2 โรค 4.4 หมื่นล้านบาท และมีทำให้มีโรคอื่นๆ ตามมาอีก ย้ำว่าในจำนวน 1,200 ล้านบาทนั้นไม่เพียงพอ เพราะยังมีเรื่องของเครื่องมือต่างๆ และการบันทึกข้อมูลด้วย ทั้งนี้ WHO ยังไม่สามารถดำเนินการได้ มีเพียงประเทศไทยที่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาฟัง นพ.วาโย อภิปราย เพราะมีงานที่เซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งจะมาตอบคำถามอีกครั้งในวันที่ 31 พฤษภาคม หรืออาจจะขอส่งเป็นเอกสารให้ นพ.วาโย หากต้องการ.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]