ไทย-อินโดฯ หารือเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ-ปธน.อินโดนีเซีย หารือเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก ฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ยกระดับเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ปูทางความร่วมมือไทย-อินโดนีเซียในทุกมิติร่วมกัน


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ร่วมหารือทวิภาคีเต็มคณะ ภายใต้กลไกหารือระดับผู้นำ (Leaders’ Consultation) ครั้งที่ 1 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีอินโดนีเซียเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 20 ปี ถือเป็นโอกาสอันดีในการเน้นย้ำถึงมิตรภาพอันยาวนานระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน


ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน ตลอดจนยินดีต่อการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ซึ่งจะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ระหว่างกัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เชื่อมั่นว่า การหารือระหว่างกันภายใต้กลไกหารือระดับผู้นำ (Leaders’ Consultation) จะช่วยผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้คืบหน้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยอินโดนีเซียพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการหารือระดับผู้นำร่วมกันในครั้งต่อไป พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีและคณะเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

สำหรับการหารือร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้


  1. ความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – อินโดนีเซียเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนว่า ทั้งสองประเทศกำลังก้าวไปสู่ความร่วมมือในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการหารือระดับผู้นำไทย-อินโดนีเซีย เป็นครั้งแรกในวันนี้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในระดับผู้นำให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายควรพบปะกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสานความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมทั้งผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศร่วมกันจัดทำแผนยุทธศาสตร์ (Plan of Action) ที่มีเป้าหมายชัดเจน เพื่อสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
  2. ความร่วมมือด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายพร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ (Online Scam) การค้ามนุษย์ และยาเสพติด ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศควรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ฝ่ายอินโดนีเซียแบ่งปันข้อมูลการสอบสวนชาวอินโดนีเซียที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งไทยได้ให้ความช่วยเหลือจากเมียนมาอย่างปลอดภัย เพื่อขยายผลการสอบสวนต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันผลักดันการจัดทำความตกลงเกี่ยวกับการโอนตัวนักโทษ โดยไทยพร้อมยกร่างความตกลงระหว่างกัน

ด้านประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับการให้ความช่วยเหลือชาวอินโดนีเซียที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ อินโดนีเซียพร้อมร่วมมือกับฝ่ายไทยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน

ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ความร่วมมือระหว่างกองทัพ ทั้งในด้านการเพิ่มการฝึกร่วมกันและความร่วมมือด้านการศึกษา

  1. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและอินโดนีเซียยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันได้อีกมาก โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย – อินโดนีเซีย ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรกภายในปีนี้ เพื่อเป็นกลไกหลักในการเพิ่มปริมาณการค้า ลดอุปสรรค และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ไทยและอินโดนีเซียมีการลงทุนระหว่างกันเป็นจำนวนมาก โดยภาคเอกชนไทยสนใจขยายการลงทุนในอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ฝ่ายอินโดนีเซียช่วยคุ้มครองและสนับสนุนการลงทุนของเอกชนไทย รวมถึงแก้ไขปัญหาอุปสรรคของภาคเอกชนไทยในอินโดนีเซีย ตลอดจนเชิญชวนภาคเอกชนอินโดนีเซียให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย (BOI) ของไทยกับคณะกรรมการประสานงานการลงทุนของอินโดนีเซีย (Indonesian Investment Coordinating Board: BKPM) ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย พร้อมให้การสนับสนุนภาคเอกชนไทยในอินโดนีเซีย และเชิญชวนภาคเอกชนไทยร่วมลงทุนในกองทุน Danantara ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (sovereign wealth fund) ที่รัฐบาลอินโดนีเซียชุดปัจจุบันตั้งขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซีย โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนไทยในการเข้าไปแสวงหาโอกาสการลงทุนในอินโดนีเซียเพิ่มเติมต่อไป

  1. ความร่วมมือด้านการเกษตร การประมง และความมั่นคงทางอาหาร นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการค้าข้าว โดยไทยพร้อมจำหน่ายข้าวเพิ่มเติมให้กับอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของอินโดนีเซีย พร้อมทั้งผลักดันให้มีการเปิดตลาดสินค้าเกษตร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ปศุสัตว์ และผลไม้สด รวมถึงสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง Halal Task Force ระหว่างกัน เพื่อประสานมาตรฐานสินค้าฮาลาลของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการจัดตั้ง Working Group สองฝ่าย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนในอุตสาหกรรมประมง เพื่อส่งเสริมการทำการประมงอย่างยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียขอบคุณไทยที่สนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของอินโดนีเซีย โดยพร้อมมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทยต่อไป รวมถึงเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านความยั่งยืนและพลังงานสะอาด

  1. ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและอินโดนีเซียมีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น โดยนายรัฐมนตรีเสนอให้ทั้งสองฝ่ายทำการตลาดร่วมกัน สำหรับการท่องเที่ยวเรือสำราญและเรือยอร์ช การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การแสดงสินค้า และนิทรรศการระดับนานาชาติ (MICE Tourism)

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการเตรียมเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างเมืองสุราบายา – กรุงเทพฯ และเมืองเมดาน – กรุงเทพฯ ของสายการบิน Lion Air และเส้นทางระหว่างเมืองเมดาน – ภูเก็ต ของสายการบิน AirAsia โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะช่วยสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมเสนอให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจัดทำแคมเปญร่วมกันสำหรับเส้นทางการบินใหม่เหล่านี้ และสำรวจความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางการบินเพิ่มเติมระหว่างเมืองน่าเที่ยวของทั้งสองประเทศต่อไป

  1. ความมั่นคงของมนุษย์ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่ลงนามร่วมกันในวันนี้ จะเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน โดยเฉพาะโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรเร่งสรุปบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารและยาให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ตลอดจนเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเพื่อศึกษาต่อที่อินโดนีเซีย
  2. ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะการผลักดันการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจต่อรองของอาเซียนท่ามกลางความผันผวนของการเมืองและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน และที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองฝ่ายควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการเจรจากับสหรัฐฯ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนบทบาทนำของอาเซียนในเรื่องเมียนมา โดยไทยพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับประธานอาเซียน เพื่อนำสันติภาพกลับคืนสู่เมียนมา โอกาสนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยืนยันว่า อินโดนีเซียพร้อมให้การสนับสนุนไทยในการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS อย่างเต็มรูปแบบ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานของไทยและอินโดนีเซีย จำนวน 1 ฉบับ คือ บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข (Memorandum of Understanding Between The Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand and The Ministry of Health of the Republic of Indonesia on Health Cooperation) โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และ H.E. Mr. Sugiono รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นผู้ลงนามฝ่ายอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซียและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่าง ๆ เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพและระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ความมั่นคงด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเงินการคลังด้านสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]