“เท้ง” ชี้ต้องเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศ

กรุงเทพ ฯ 30 เม.ย.- “เท้ง” ปิดจ๊อบเสวนาภาษีทรัมป์ ชี้ ต้องหลีกเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศ ติง รบ. หากกู้มาแล้วต้องรับผิดชอบจนไม่เกิดภาระ ด้าน “ไหม” เชื่อ หากไม่ขยายเพดานเงินกู้ ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว จี้ รื้องบ 69 ได้แล้ว บอกตอนนี้ยังพอมีเวลา ปรับเข้าสถานการณ์


โรงแรมโนโวเทล แพลตตินัม ประตูน้ำ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังกิจกรรมโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน เวทีเสวนา หัวข้อ แนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2568 รับมือกำแพงภาษีและสงครามการค้า ว่า ข้อเสนอที่ได้ในวันนี้ จะเสนอแนะผ่านไปยังรัฐบาล และใช้กลไกคณะกรรมาธิการร่วมด้วย รวมถึงเชิญภาคส่วนอื่นๆ เข้ามาให้ความเห็น

สำหรับกรณีการกู้เงิน มองว่า ภายใต้วิกฤติแบบนี้ ไม่ได้ติดอะไร หากจะมีการกู้เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องดูว่านำไปลงทุนได้ถูกจุด หรือนำไปเยียวยาห่วงโซ่อุปทานหรือผู้ประกอบการในไทยได้หรือไม่ หรือใช้ไปเพียงกับการกระตุ้นการบริโภคอย่างเดียวเท่านั้น


การพูดคุยกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า มีตัวแทนจากหลายภาคส่วน ทั้งการทูตต่างประเทศ ภาคการเกษตร อุตสาหกรรมต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือจะต้องมีความชัดเจน ในการเข้าไปเจรจากับ สหรัฐฯ เพราะหากยิ่งเราเข้าไปเจรจาช้า แต้มต่อหรือไพ่ต่อรองของเรา จะยิ่งถูกทำให้น้อยลงเรื่อยๆ เพราะประเทศอื่น ๆ อาจจะ สามารถเจรจาได้สำเร็จไปก่อนแล้ว

นอกจากนั้น ตนยังมองว่า ควรมีเวทีหรือคณะทำงานแบบนี้ ที่มีตัวแทนจากหลายภาคส่วน เข้ามาร่วมออกแบบมาตรการและนโยบาย ในการรับมือร่วมกัน เพราะอย่างไรก็จะกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ดังนั้น รัฐบาลควรมีการสื่อสารให้ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นภาพตรงกันว่า จะดำเนินการอย่างไร ภาคเอกชนและภาคแรงงานในประเทศไทยจะต้องมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารสามารถใช้อำนาจในการทำคณะทำงานหรือทำเวทีร่วมกับภาคเอกชนหรือส่วนอื่นๆ แบบนี้ได้เลย ขณะเดียวกัน เราซึ่งอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ จะใช้กลไกสภา ทั้งการตั้งกระทู้ถาม หรือคณะกรรมาธิการต่างๆ เพื่อสร้างพื้นที่ให้มีการพูดคุยคู่ขนานกันไป


สำหรับข้อกังวลถึงผลกระทบต่างๆ นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราต้องพยายามหลีกเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศไทย ทั้งการส่งออกหดตัวจากผลกระทบที่เกิดขึ้น สินค้าต่างประเทศล้นทะลักเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ จนอาจเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้งในอนาคต

ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องเตรียมรับมือกันในตอนนี้ คือเตรียมมาตรการรับมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฉากทัศน์นั้นขึ้น รวมถึงการมองไปในระยะยาว ในพื้นที่ทางการคลังที่เหลืออยู่ หากมีการกู้แล้วรัฐบาลในสมัยหน้าๆ จะต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยเช่นเดียวกัน จะทำอย่างไรให้การกู้ในครั้งนี้ จะสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาและลงทุนได้อย่างถูกจุดมากกว่า

ส่วนหากมีการเยียวยาคู่ขนานกับการเจรจากันไปจริง คาดว่าจะเกิดผลชัดเจนในช่วงไหน เรื่องสงครามการค้าครั้งนี้ คงไม่ได้มีแค่ผลกระทบในระยะสั้น แต่หลังจากนี้ยังจะมีคำสั่งประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีก 2-4 ปี ในระยะยาวแน่นอน ซึ่งคงจะต้องมีการตั้งคณะทำงานในระยะยาวต่อไปในอนาคตด้วย

สำหรับหลักประกัน หากจะพูดในเชิงระบบงบประมาณ ณ ปัจจุบัน คงต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่า อาจจะยังยากอยู่ แต่ในฐานะนักการเมือง พรรคการเมือง หรือรัฐบาล คงต้องใช้ความรับผิดรับชอบต่อประชาชนเป็นหลักประกัน การกู้เงินใดๆ ที่จะเป็นหนี้ของลูกหลานในอนาคต เพื่อนำมาใช้ในการแก้วิกฤติ รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตของประเทศในอนาคต ก็ควรจะต้องใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดรับชอบต่อสาธารณะ และในเวทีวันนี้ เราได้มีข้อเสนอหลายๆ อย่าง ที่พร้อมจะส่งไปให้รัฐบาล ว่าควรใช้จ่ายอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกหลานในอนาคต

สำหรับกรณีล่าสุดที่ Moody”s ratings คงอันดับเครดิตของประเทศไทยประเภท Senior unsecured bond ที่ Baa1 แต่เปลี่ยนแนวโน้ม (Outlook) เป็น Negative จาก Stable นั้น นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวเสริมว่า เอาเข้าจริง เรตติ้งจะมีความสำคัญต่อเมื่อเรามีการกู้ยืมจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่การถูกประเมินเช่นนี้ก็ทำให้สะท้อนถึงความอ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงใช้คำว่า เป็นสิ่งที่กระตุกเตือน รัฐบาลให้กลับมาให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น แต่หากมีการกู้เพิ่มและทำให้ภาระหนี้สินประเทศเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้การประเมินในครั้งต่อไป จะนำไปสู่การที่เราถูกลดเรตติ้งจริงๆ ไม่ใช่แค่มีแนวโน้ม ในอดีตเราเคยถูกลดเรตติ้งในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์มาก่อน แต่ภายในหนึ่งปีหลังจากนั้น เราก็กลับขึ้นมาอยู่ในเรตติ้งเดิมได้

เพราะหากไม่ขยายเพดานเงินกู้ ก็ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ แต่ต้องใช้เม็ดเงินในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นกระตุกเศรษฐกิจกลับมา และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ดังนั้น ถ้าไม่ทำอะไรเลย เราก็ยังโดนอยู่ดี และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา เสี่ยงเดินทางนี้ อาจโดนปรับเครดิตเรตติ้งในระยะสั้น แต่ถ้ากลับมาได้เร็ว ก็เป็นทางเลือกที่เราอยากเปิดให้รัฐบาลลองแสดงฝีมือดู แม้จะเห็นว่าประชาชนส่วนหนึ่ง อาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจในการทำงานของรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงจำนวนเงินกู้ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า การขยายเพดานไม่ว่าจะ 75 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ คงไม่สำคัญเท่ากับในอนาคตเราจะมีวิธีการดึงเพดานที่เคยขยายไป กลับคืนมาได้เราจะไม่ เพราะยังมีเรื่องไทม์ไลน์ ที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง เพราะระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาล เหลือเพียงแค่ 2 ปี เราคงไม่สามารถดึงเพดานกลับมาเท่าเดิมได้ในระยะเวลาสั้นนี้อยู่แล้ว กลายเป็นว่าผู้ที่ต้องชดใช้หรือต้องรัดเข็มขัดมากขึ้น จะเป็นรัฐบาลหน้าต่อๆ ไป แต่ก็คงต้องทำเป็นสัญญาร่วมกันของนักการเมืองทั้งหมด ที่สลับกัน เพราะไม่รู้ว่าคราวหน้าใครจะต้องเป็นรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องยึดถือเรื่องนี้ให้มั่น ไม่ให้เหมือนสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่มีการขยายเพดาน และรัฐบาลเพื่อไทยที่เข้ามา ไม่ได้มีความพยายามจะรักษาวินัย อีกทั้งยังกู้ในยามที่ไม่จำเป็นต้องกู้ ไม่เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นอย่างตอนนี้

นางสาวศิริกัญญา เน้นย้ำถึงสิ่งที่สื่อสารตลอดเวลา ว่า ต้องรื้องบประมาณปี 69 ได้แล้ว ตอนนี้ยังพอมีเวลาที่จะเอากลับมาทำใหม่ แล้วค่อยเลื่อนการเข้าสู่วาระที่หนึ่งซึ่งจะเข้าสภาก็ได้ แต่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ก็ยังคงเดินตามแนวทางเดิม ไม่มีการแก้ไขงบ 69 เลย ส่งเข้าสภาไปทั้งๆ ที่ ยังไม่ได้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

ส่วนผลกระทบ เราก็เคยยกตัวอย่างให้ดูไปแล้วว่า พื้นที่ทางการคลังในตอนนี้เหลือไม่มากแล้ว แค่ประมาณ 2 แสนล้านบาท หากนำตรงนี้มาเป็นจุดตั้งต้น ก็อาจต้องพยายามรื้องบปี 68 เหลื่อมปี ซึ่งตนมองว่าตัวเลขไม่ใช่น่าจะถึงตามที่เลขาสภาพัฒน์เคยพูดไว้ น่าจะได้น้อยกว่านั้น และหากยังไม่มีการรื้องบปี 69 ก็จะยิ่งทำให้เงินที่สามารถใช้ได้จริงน้อยกว่านั้นมาก ซึ่งเราก็ยังเสนอว่า ควรใช้เงินส่วนหนึ่งในการปฏิรูปเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างในระยะยาวด้วย หากนำกรอบงบประมาณมาเป็นตัวตั้ง เราคงไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณเต็มที่ ตนจึงขอให้ปลดตรงนี้ออกไป และให้เป็นทางเลือกของรัฐบาลที่จะพาประเทศผ่านวิกฤติด้วย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]