สว.สำรอง บุก กกต. ร้องให้ชี้แจง “เลขาฯ แสวง” ละเว้นหน้าที่

กกต. 2 เม.ย.- สว.สำรอง บุก กกต. ยื่นจดหมายฉบับที่ 7-8 เรียกร้องให้ชี้แจง “เลขาฯ แสวง” ละเว้นหน้าที่ เปิดหีบบัตรเลือก สว.


กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 7 และ 8 ถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และ กกต. เพื่อขอทราบผลการดำเนินการกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และขอให้มีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนเพื่อตรวจสอบความสุจริต

โดยตามหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 7 ได้อ้างถึง สว.สำรอง นำเรียนหารือและขอทราบผลการดำเนินงานจาก กกต. จำนวน 4 ประเด็นดังนี้ 1.การดำเนินการพิจารณาข้อบกพร่องที่เป็นความผิดทางวินัยของนายแสวง จะดำเนินการอย่างไร และจะมีผลประการใด 2.การพิจารณาดำเนินการทางวินัยของคณะกรรมการไต่สวนคณะที่ 19 ได้ดำเนินการแล้วหรือไม่ อยู่ในขั้นตอนใด และมีผลเป็นอย่างไร 3.ตามที่มีการขอทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายนายแสวง ในรอบการประเมินที่ผ่านมาล่าสุดผลเป็นอย่างไร เพราะยังไม่มีคำตอบจากทาง กกต. และ 4.เพื่อให้การสืบสวนไต่สวนเกี่ยวกับการร้องคัดค้านการเลือก สว.2567


ที่ผ่านมา มีความ ชัดเจนแล้วว่ามีการใช้โพย (ใบสั่ง) ประกอบในการลงคะแนนในวันเลือกรอบประเทศ ดังนั้นการที่จะทำให้การสืบสวนไต่สวนเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม รวมทั้งดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงขอยืนยันให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง ในฐานะเลขาธิการ กกต.ไว้เป็นการชั่วคราว

อีกทั้งตามหนังสือเปิดผนึกฉบับที่ 8 ได้อ้างถึง สว.สำรอง นำเรียนหารือและขอทราบผลการดำเนินงานจาก กกต. จำนวน 3 ประเด็นดังนี้ 1.ขอให้นำสำนวนการสืบสวนไต่สวนที่เป็นเครือข่ายเกี่ยวกับการจัดทำโพยการเลือก สว.รวมเป็นสำนวนเดียวกัน รวมทั้งขอเสนอให้นำสำนวนการร้องคัดค้านที่ พล.ต.ท.คำรบ กับคณะ รวม 112 คน ได้ร้องเรียนไว้ที่คณะสืบสวนไต่สวนที่ 18 ซึ่งมีการสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องไว้ส่วนหนึ่งแล้ว เป็นสำนวนหลักในการที่จะพิจารณาดำเนินการ แล้วสืบสวนสอบสวนพยานอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อมูลที่มีสาระสำคัญจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

2.ขอให้มีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนที่มีการเก็บไว้ที่ กกต. จำนวน 40 หีบ ที่ใช้ในวันเลือกรอบประเทศ พร้อมทั้งเปิดภาพที่บันทึกในกล้องซีซีทีวี ให้สาธารณะชน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปได้ตรวจพิสูจน์และนำผลข้อมูลการเลือก พร้อมทั้งบัตรลงคะแนนมาเปรียบเทียบกับโพยจัดตั้ง ที่ได้มีการยึดมาได้ทั้งหมด ว่ามีหมายเลขตรงกันอย่างชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นว่าหมายเลขในโพยจัดตั้งทั้งหมดได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม 3.คณะสว.สำรอง ยังคงยืนยันขอให้ทางสำนักงาน กกต. และกกต.ปรับปรุงฝ่ายประชาสัมพันธ์ และฝ่ายสื่อสารองค์กร เพื่อให้มีการสื่อสารกับผู้ที่มาติดต่อและสังคมภายนอกและประชาชนทั่วไปให้กว้างขวางมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


ด้าน พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า วันนี้เราจะมาทวงถามการดำเนินการการยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 -6 มีความคืบหน้าอย่างไร รวมถึงการให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง ผลการดำเนินงานพิจารณาตรงนี้อยู่ในขั้นใด รวมถึงขอทราบผลการประเมินว่าการทำงานที่ผ่านมาของนายแสวงเป็นอย่างไร อีกทั้งยังไม่ได้รับคำตอบใดจากทาง กกต. รวมถึงการสืบสวนถึงแม้ว่าจะมีทางดีเอสไอมาร่วมสืบสวนด้วยแต่ทิศทางในการดำเนินการในเรื่องของสำนวนต่าง ๆ นั้นยังไม่มีความชัดเจนที่จะเป็นการเปิดเผยจากทาง กกต.

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า ข้อสำคัญคือเรื่องการเปิดหีบบัตรลงคะแนนที่มีการเก็บไว้จำนวน 40 หีบ ให้มีการตรวจสอบแต่ผ่านมาระยะเวลา 9 เดือนแล้วยังมีการดำเนินการแต่อย่างใด เราจะมีการออกมาเรียกร้องเช่นนี้อยู่อีกเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการเปิดหีบตรวจสอบ อีกทั้งที่ผ่านมาเราได้ใช้วิธีส่งจดหมายเปิดผนึกและบางครั้งก็เป็นการส่งจดหมายปิดผนึก ถึงคณะกรรมการ กกต. เพราะยังไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยจากทาง กกต.เลย ย้ำว่าหากจะมีการตอบรับ ครั้งหน้าเราจะมาเรียกร้องอีก

เมื่อถามว่าหลังจากนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า จะมีการฟ้องร้องการทำงานของกกต.โดยตรงหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เราได้มีการฟ้องร้องแล้ว เมื่อช่วงที่ผ่านมาคณะ สว.สำรอง ก็ได้ไปฟ้องร้องที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยได้ฟ้องนายแสวงโดยตรง เพราะทำหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 32 และพ่วงด้วยมาตรา 157 อีกทั้งคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มีการนำเรื่องที่ตนได้ร้องเรียนไปสืบสวนและไต่สวนเพิ่มเติม และคงจะมีการเรียกตนเข้าไปชี้แจง

เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องของ สว. ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ สิ้นสุดลงหรือไม่พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบคำร้องของ สว.แล้ว จึงได้เกิดข้อสงสัยว่า สว.ใช้สถานะอะไรในการยื่นร้อง แต่มาตรา 185 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดไว้ชัดเจนว่า สส. และ สว. ต้องไม่ใช้สถานะของตนเอง แทรกแซงฝ่ายบริหารหรือฝ่ายราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่นดังนั้น การยื่นร้องครั้งนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 111 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่ การขาดคุณสมบัติการเป็น สว.ทันที

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า กรณีการเปิดหีบบัตรลงคะแนน เราได้มีการเน้นย้ำมาตลอด แต่ยังไม่เคยมีคำตอบใด ไม่ว่าจะหีบบัตรลงคะแนนหรือกล้องซีซีทีวี ทางนายแสวงจะต้องเก็บหลักฐานไว้ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการเลือก สว.ซึ่งต้องดำเนินการตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และการที่เราได้ขอให้เรียกร้องเปิดเผยข้อมูลบัตรลงคะแนนนั้น ไม่ใช่การกระทำเกินหน้าที่ของนายแสวง รวมถึงตนได้ทราบอีกว่าทางคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ร่วมกับ กกต.ก็มีแนวคิดที่จะให้ทาง กกต.เปิดหีบตรวจสอบเช่นกัน หลังจากได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลไว้แล้ว เชื่อว่าสุดท้ายจะมีการเปิดหีบบัตรลงคะแนนเพื่อตรวจสอบ โดยใช้เวลาหนึ่งวันก็เพียงพอที่จะตรวจสอบและเรียนเชิญสื่อมวลชนมาตรวจสอบด้วยเช่นกัน

เมื่อถามอีกว่าได้มีการยื่นคำร้องมา 9 เดือนแล้วที่จะขอเข้าพบ กกต.มีจุดประสงค์ได้หรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เราอยากจะสอบถามความจริง จากทางเราเองและสื่อมวลชน แต่ไม่เคยได้รับคำตอบกลับมา มีเพียงคำแค่อยู่ในการดำเนินการ นับถอยหลังไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบกลับว่าเรื่องของเราได้รับการยกคำร้อง ซึ่งตรงนี้เราอยากได้คำอธิบาย

เมื่อถามอีกว่ากรณีประธาน กกต.ชี้แจ้งว่าจะให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวงไม่ได้ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า มีกรณีของ พ.ต.อ.มนัส นครศรี ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ ได้ขอให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการคดีวินัยนายแสวง ซึ่งการที่จะกล่าวหาได้ต้องมีมูลและหลักฐาน หลังจากนั้นตามมาตรา 53 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีการระบุไว้ว่าหากพนักงานผู้ใดมีความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และหากมีข้อสงสัยใดให้สามารถตั้งกรรมการคดีวินัยทันที เพราะฉะนั้น กกต.จะต้องมีการดำเนินการตามข้อกล่าวหา และมีการระบุไว้ว่าหากมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ก็ต้องมีการพักงานบุคคลที่โดนกล่าวหานั้นด้วย ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ก็อยู่ที่คณะกรรมการไต่สวน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]