เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งตรวจสอบอาคาร-สำรวจความเสียหาย

กทม.1เม.ย. – บกปภ.ช. ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการตรวจสอบอาคาร โรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์ ผลกระทบ และการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว โดยได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบอาคาร โรงพยาบาล และบ้านเรือนประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการกลับเข้าไปในที่พักอาศัยและทำงาน และตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวบนบกบริเวณประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้ประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รับรู้แรงสั่นสะเทือน และหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยปัจจุบัน มีรายงานพื้นที่รับรู้แรงสั่นสะเทือนรวมจำนวน 63 จังหวัด และมีพื้นที่ได้รับความเสียหายจำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลําพูน ลําปาง แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และชัยนาท รวม 104 อำเภอ 278 ตำบล 416 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 591 หลัง วัด 68 แห่ง โรงพยาบาล 94 แห่ง อาคาร 11 แห่ง โรงเรียน 62 แห่ง สถานที่ราชการ 29 แห่ง และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 34 ราย (กรุงเทพมหานคร 33 ราย จ.นนทบุรี 1 ราย) และผู้เสียชีวิต 19 ราย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร


ในส่วนของการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนของกรุงเทพมหานคร ด้านการแก้ไขสภาพการจราจรในพื้นที่ ปัจจุบัน (1 เม.ย. 68) ลดการปิดเส้นทางจราจรบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอาคารถล่มเหลือเพียง 1 เส้นทาง คือเส้นทางสายกำแพงเพชร 2 เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยในการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนออกมาจากอาคาร สำหรับการให้บริการรถไฟฟ้า วันนี้ทุกสายเปิดให้บริการตามปกติ ยกเว้นสายสีชมพู ซึ่งยังต้องมีการตรวจสอบรางจ่ายไฟฟ้าที่สถานีมีนบุรีเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้จัดรถขนส่งมวลชน ของ ขสมก. ให้บริการประชาชน จนกว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูจะกลับมาให้บริการได้ตามปกติ ในส่วนการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารถล่ม วันนี้จะยังคงใช้เครื่องจักรกลหนักในการปฏิบัติการควบคู่กับการปฏิบัติงานของทีมค้นหาและกู้ภัย ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของการตรวจสอบอาคาร ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบไปแล้วทั้งสิ้น 355 แห่ง และจะเร่งตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบความเสียหายของอาคารบ้านเรือนเบื้องต้นด้วยตนเองได้ผ่าน Traffy Fondue ซึ่งมีวิศวกรอาสาคอยตรวจสอบและประเมินความเสียหาย รวมถึงให้คำแนะนำประชาชน

นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองยังได้สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของอาคาร โดยแบ่งอาคารออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นอาคารของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกรมโยธาฯ ได้เร่งตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ (31 มี.ค. 68) ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 73 แห่ง กลุ่มที่ 2 ได้แก่ อาคารที่มีทางเชื่อม อาคารสูง คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า อาคารของภาคเอกชน ซึ่งเป็นอาคารที่ต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีตามปกติ จึงได้ประสานให้เจ้าของอาคารแจ้งผู้ตรวจสอบเข้าดำเนินการ โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอสามารถประสานมายังกรมโยธาฯ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ และกลุ่มที่ 3 ได้แก่ อาคาร บ้านเรือน ตึกแถวของประชาชน ซึ่งกรมโยธาฯ ได้ประสานและดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานครในการตรวจสอบความปลอดภัย ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด ได้สั่งการให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดเร่งตรวจสอบอาคาร โดยเน้นไปที่กลุ่มอาคารที่คนจำนวนมากใช้ปฏิบัติงานหรือใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงพยาบาลที่มีผู้ใช้บริการและผู้ป่วยพักรักษาตัวเป็นจำนวนมาก

ด้านการดูแลสภาพจิตใจของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้มีการดูแลเยียวยาจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในรูปแบบ On site On call และ On air โดยในส่วนของ On site ได้มีการจัดทีมเยียวยาจิตใจ ดูแลสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัวและญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ ครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงครอบครัวและญาติผู้เสียหายอย่างใกล้ชิด ณ พื้นที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลที่พักรักษาตัว และภูมิลำเนาของครอบครัว ในส่วนของ On Call ได้เปิดสายด่วน 1323 และ 1667 เพื่อรับฟัง ให้คำแนะนำ และดูแลสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ และในส่วนของ On Air ได้ขอความร่วมมือไปยังสื่อต่าง ๆ เพื่อช่วยเผยแพร่ข้อมูล รวมถึงงดการแชร์ภาพผู้เสียชีวิต และงดสอบถามความรู้สึกจากญาติผู้ได้รับผลกระทบ


ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารถล่มในเขตจตุจักรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ USAR ปภ. ปฏิบัติงานรวมทั้งสิ้น 77 นาย และได้ส่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนการปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัย ร่วมกับทีมค้นหาและกู้ภัยของกรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม รวมถึงทีมค้นหาและกู้ภัยจากนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น จีน อิสราเอล สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเม็กซิโก ที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยทีม USAR ปภ. จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง และประสานการปฏิบัติงานกับทีมค้นหาและกู้ภัยที่ร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด

นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กล่าวว่า สำหรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยารายงานมีแผ่นดินไหวตาม (Aftershock) รวมทั้งหมด 236 ครั้ง โดย Aftershock ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่มี Aftershock รุนแรงที่ก่อให้เกิดการสั่นไหวรุนแรงแบบที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวหลัก (Mainshock) ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 อีก ดังนั้น ขอให้ประชาชนคลายความกังวลใจที่มีต่อสถานการณ์ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือประชาชน ขอให้หน่วยงานทุกภาคส่วนเร่งตรวจสอบความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบอาคารบ้านเรือนประชาชน ทั้งในส่วนของอาคารสูง อาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย อาคารของหน่วยงานรัฐ รวมถึงโรงพยาบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้แก่ประชาชนในการกลับเข้าทำงานและพักอาศัยในพื้นที่ ตลอดจนการตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยขอให้มีการเร่งตรวจสอบและจัดทำบัญชีความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังในทุกพื้นที่ที่ประสบภัย รวมถึงติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด หากประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM .312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]