“ชยพล” อัด นายกฯ ปล่อยทหารใช้ IO แทรกแซงการเมือง

รัฐสภา 25 มี.ค.-“ชยพล” อัด นายกฯ ทรยศประชาชน ปล่อยทหารใช้ IO แทรกแซงการเมือง ใช้ภาษีปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ของนายพล ด้าน “พิเชษฐ์” สั่งหยุดอภิปราย หลังประท้วงวุ่น ก่อนวินิจฉัย ให้อภิปรายต่อได้ แค่ปิดสไลด์

นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนขออภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ให้บริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป เพราะนายกคนนี้ ถือเอาผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม มีพฤติกรรมโกหกหลอกลวง เป็นนั่งร้านให้กลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิบัติต่อระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ตนเองและบิดาได้กลับมามีอำนาจ เหมือนอภิสิทธิ์ชน


“นายกรัฐมนตรีตระกูลชินวัตรคนนี้ ถึงกับทรยศต่อประชาชนแล้วหันไปสยบยอมต่อฝ่ายอำนาจนิยม ยอมละทิ้งการปฏิรูปกองทัพ ยอมปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการเมือง ปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐไปคุกคามประชาชน ปกปั่นสร้างความแตกแยกเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย จนยากจะเยียวยา” นายชยพล กล่าว

นายชยพล กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญที่กองทัพใช้เพื่อแทรกแซงการเมือง คือปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือที่เรียกว่า IO ความขัดแย้งในสังคมเป็นเรื่องปกติ แต่มีหลายครั้งก็เกิดขึ้นจากการปลุกปั่น ขบวนการเหล่านี้มีเป้าหมายก็เพื่อการสร้างกระแสสังคมผิด ๆ สร้างความหวาดกลัวสร้างความเกลียดชังนำไปสู่สถานการณ์ที่ผู้อยู่เบื้องหลังได้ประโยชน์ แต่ที่แย่กว่านั้นคือกระบวนการ IO ของกองทัพไทยใช้ภาษีของประชาชนและกลไกของรัฐมายุยง ปลุกปั่น ประชาชนให้เกิดความขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ของนายพลบางกลุ่มให้มีข้ออ้างมาแทรกแซงการเมืองไปเรื่อย ๆ ขบวนการ IO กลับเติบโตและเลวร้ายกว่าเดิม


นายชยพล เปิดเผยว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 มีการจัดโครงสร้างปฏิบัติการ IO ขึ้นมาใหม่ ให้ทุกข์เหล่าทัพรวมศูนย์ไปอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมโดยมีไซเบอร์ทีมที่ตั้งขึ้นมาใหม่ คอยรับผิดชอบปฏิบัติการ IO กระบวนการ IO นี้ สุขสบายและเติบโตอย่างน่ากลัวภายใต้นายกที่ชื่อแพทองธาร จากที่ตนได้ติดตามไซเบอร์ทีมนี้ประชุมกันทุกวันพุธหรือพฤหัสบดี ซึ่งสถานที่ประชุมห่างจากสภาฯไป 2 กิโล และมีพลเอกธรรมนูญ วิถี รองผอ.ศปก.ร่วมฯ คอยบัญชาการทีมไซเบอร์โดยตรง ซึ่งเอกสารส่วนใหญ่ตนได้มาจาก เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่รับไม่ได้ กับปฏิบัติการที่สูญเสียกิตติภูมิของกองทัพ

โดยจุดที่น่าสนใจที่สุดของการอภิปรายครั้งนี้ นายชยพลเปิดเอกสารของ กอ.รมน. ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ขณะที่มีนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นั่งเป็นผู้อำนวยการอยู่โดยตำแหน่ง เอกสาร “ประมาณการภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รอบ 1 ปี ห้วง 1 ต.ค. 67 ถึง 30 ก.ย. 68” ในประเด็นการประมาณการภัยคุกคามต่อสถาบันฯ หัวข้อ 4.1.2.1 ได้มีการระบุถึง “กลุ่มบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบันฯ” อยู่ด้วย โดยในหัวข้อนี้ได้กล่าวถึงบุคคล 3 คน ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า, และนายอนุทิน ชาญวีรกุล 

“สุดท้ายก็ไม่มีใครรอด เพราะสำหรับนายพลบางกลุ่ม เขาต้องการผูกขาดความจงรักภักดีไว้กับกองทัพฝ่ายเดียว  ส่วนคนอื่นนั้น ถ้าไม่ถูกใช้ประโยชน์ชั่วครั้งชั่วคราว ก็ถูกมองว่าบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบันฯ นี่คือตัวอย่างของความเลวร้ายจากการที่ท่านนายกแพทองธารยอมปล่อยให้กลไกของกองทัพไม่ถูกกำกับควบคุมโดยรัฐบาลพลเรือน ปล่อยให้มีมือมืด ใช้ทรัพยากรของกองทัพเข้าแทรกแซงการเมือง ” นายชยพล กล่าว


ซึ่งระหว่างการอภิปราย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ใช้สิทธิ์ประท้วงว่า ตนพยานต้องไล่ดูเอกสารที่นำเสนอ หากเป็นเอกสารจริง ถือเป็นเรื่องใหญ่และหากเป็นเอกสารเท็จ เรื่องก็จะยิ่งใหญ่ไปกว่าเพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ โยงไปถึงการกระทำผิดของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ซึ่งต้องเป็นเรื่องจริง หากไม่ใช่เรื่องจริงตนคิดว่าประธานและตนรับมือไม่อยู่

ด้านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ประธานในที่ประชุม กล่าวว่าเมื่อสักครู่ตนได้เตือนสมาชิกไปแล้ว ว่าแต่เราเอกสารลับของกองทัพออกมาแล้ว นำชื่อนายทหารมาตัดแปะ จึงเป็นห่วงว่า หากมีการดำเนินคดีหรือแจ้งความขึ้นมา เป็นความรับผิดชอบของท่าน

นายชยพล รับทราบและได้อภิปรายต่อ และได้ขึ้นสไลด์โชว์เอกสาร ทำให้นายพิเชษฐ์ เตือนอีกครั้ง พร้อมขอเอกสารหลังอภิปรายเสร็จ จะให้หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วง ประธานให้ควบคุมการประชุมให้เป็นกลาง เพราะกรณีนี้เป็นปฏิบัติการที่ไม่สมควร ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ผู้อภิปราย กล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการกระทำบังอาจของคนกลุ่มนั้น ที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือผู้อภิปรายกำลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ด้านนายพิเชษฐ์ ได้วินิจฉัยว่า เป็นการเอ่ยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น จึงไม่ให้เอ่ยอีกหากเอ่ยถึงอีก จะไม่ให้อภิปรายต่อ

นายชยพล จึงอภิปรายต่อและมีการกล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอกจำนวนมากทำให้นายพิเชษฐ์ ท้วงอีกครั้ง ว่าการเอ่ยถึงชื่อบุคคลภายนอกที่ไม่อยู่ในห้องประชุมได้รับความยินยอมหรือไม่ เป็นเรื่องเสียหายเยอะ พร้อมถามว่าจะหยุดอภิปรายดีหรือไม่ แล้วท่านจะรับเรื่องนี้ไม่ไหว

นายประยุทธ์ ศิริพานิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง ถึงการขึ้นภาพในสไลด์ และการอภิปรายให้อยู่ในประเด็น

นายพิเชษฐ์ จึงสั่งให้หยุดอภิปราย พร้อมบอกว่าจะรับผิดชอบเอง ทำให้สมาชิกฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นประท้วงประธาน ให้เวลาสมาชิกอภิปรายต่ออีก 10 นาที แต่ห้ามขึ้นภาพสไลด์

หลังจากนั้นนายชยพลเปิดหลักฐานประเด็นหัวข้อที่มีการทำปฏิบัติการ IO ซึ่งได้แก่การส่องคดีทักษิณอ้างป่วยเรื้อรังเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ชกมวยอยู่เมืองนอก กลับไทยแล้วป่วย ขึ้นชื่อเป็นบุคคลสาธารณะทำไมตรวจสอบไม่ได้ นักโทษเทวดาลอยหน้าลอยตาในสังคม

นายชลพล ยัง อภิปรายสรุปทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนได้เรียนรู้จากครอบครัวและโรงเรียนเตรียมทหาร คือ การเป็นทหารที่ดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรีและการทำเพื่อประชาชนนั้นเป็นอย่างไร ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและมีศักยภาพเพียงพอจะเผชิญกับภัยความมั่นคงยุคใหม่ และทหารน้ำดีส่วนใหญ่ในกองทัพก็อยากเห็นกองทัพไทยที่ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ พวกเขาอึดอัดที่เห็นนายพลบางกลุ่มหาผลประโยชน์จากกองทัพนำกองทัพไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองจนทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพตกต่ำลง พวกเขาไม่สบายใจที่มีนายพลบางกลุ่มมักแอบอ้างเรื่องสถาบันฯ เพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี ได้อำนาจ ได้งบประมาณ โดยไม่ต้องรับผิดชอบว่าพฤติกรรมการแอบอ้างของตนเองนั้น จะส่งผลกระทบต่อสถาบันฯ ในระยะยาวอย่างไร  

เรื่องเหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับคนเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะถ้าเรามีนายกฯ ที่มีสำนึกประชาธิปไตย เห็นความสำคัญของการปฏิรูปกองทัพ เราจะมีกองทัพที่ดีต่อชาติ ประชาชน และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่นางสาวแพทองธาร กลับเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน ละทิ้งการปฏิรูปกองทัพ เมื่อไรที่นายพลบางกลุ่มสามารถสร้างสถานการณ์จนสุกงอม พวกเขาก็พร้อมที่จะก่อรัฐประหารอีกครั้ง ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ให้บริหารบ้านเมืองได้อีกต่อไป.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]