“ณัฐชา” ซัด “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ”

รัฐสภา 24 มี.ค.-“ณัฐชา” ถลก “รัฐบาล” ไม่จริงใจแก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ” ชี้อนุมัติงบเพิ่ม 98 ล้านบาท ก็เหมือนซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง ถาม “เพื่อไทย” หัวใจคือนายทุนหรือไม่ เหตุครอบครัวนายกฯ ใกล้ชิดกับครอบครัวของกลุ่มทุน ส่อเอี่ยวนำเข้า พร้อมเปิดคลิปเทียบ “นอกทำเนียบ-ในทำเนียบ” สะท้อน ความไม่ใส่ใจ

นายณัฐชา อินไชยสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายว่า นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ เจนวาย ที่ขึ้นมาบริหารงานกว่า 194 วัน รับตำแหน่งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคลียร์ทางสะดวก รับมือ รับหน้า ในช่วงวิกฤติการจัดตั้งรัฐบาลไว้ให้แล้ว เพื่อให้นางสาวแพทองธาร ได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตระกูลชินวัตรอีกหนึ่งคน แต่เป็น 194 วัน ทีมประชาชน ต้องทนทุกข์ทรมานานลำบากยากเย็น ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ไม่เหมือนคำโฆษณาชวนเชื่อเมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง ที่เคยเปรยคำโฆษณาชวนเชื่อ กับประชาชนอย่างสวยหรู แต่สุดท้าย เมื่อได้ขึ้นมาบริหารงานกลับล้มไม่เป็นท่า


นายณัฐชา กล่าวหานางสาวแพทองธารว่า ขาดภาวะความเป็นผู้นำ ขาดความรู้ ขาดเจตจำนงค์ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ และประชาชน ทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อมั่นของประเทศ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ทำบ้านเมืองผิดพลาดทั้งด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม จงใจเอื้อผลประโยชน์ ให้กับตนเอง พวกพ้อง และกลุ่มทุน

นายณัฐชา ยกคำกล่าว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเคยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ในยุคสมัยนี้ มีการบริหารผิดทิศผิดทาง จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็น ในนามีสารเคมี ส่วนในน้ำมีหายนะครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งกำลังทำลายกลืนกินทุกสิ่งมีชีวิตในทุกแหล่งน้ำของประเทศ ในการระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งนับเป็นอาชญากรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้เกิดความเสียหาย สูญเสียอาชีพ ทรัพย์สิน ความมั่นคงในชีวิต มองไม่เห็นอนาคตของเกษตรกร และประชาชนคนไทย หมดสิ้นซึ่งหนทางในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เหลือแต่บ่อที่มีแต่ผักบุ้ง ที่บ้านนี้เมืองนี้ไม่ช่วยอะไรเขาเลย ตัวเลขความเสียหายดิ่งสูงขึ้น ณ ตอนนี้ประเมินมูลค่าคร่าวๆ ที่ 26,432 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมมูลค่าทางอ้อม ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และการขาดดุลการค้า แล้วเราจะให้ลูกหลานคนรุ่นหลัง ต้องรับชะตากรรม ที่น่าอับอายแบบนี้ต่อไปหรือ


“แม้เงินหมื่นที่ท่านนายกรัฐมนตรี แจกออกไปหวังจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้กลายเป็นอาหารอันโอชะของปลาหมอคางดำกันหมดแล้ว เพราะชาวบ้านหวังจะนำเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นทุนต่อยอด แต่ในแหล่งน้ำธรรมชาติทุกสาย กลับมีปลาหมอคางดำ แทรกซึมไปทั้งหมด”

นายณัฐชา ย้ำว่า สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด ไม่ใช่แค่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่คือความเงียบของรัฐบาล ที่นิ่งนอนใจและปล่อยให้ประชาชน ต้องสู้กับวิกฤตครั้งนี้อยู่เพียงลำพัง พร้อมยกตัวอย่าง กรณีเรือน้ำตาลล่ม ที่มีการรวมตัวกัน 6 หน่วยงาน ที่ออกมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้กับชาวบ้าน คือ กรมควบคุมมลพิษ กรมประมง สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอยุธยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอยุธยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง เพื่อฟ้องร้องหน่วยงาน และสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งหมด นี่คือกรณีเทียบเคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การแก้ปัญหาแทบไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเลย

นายณัฐชา มองว่า ขณะที่กรณีปลาหมอคางดำ กลับไม่มีหน่วยงานใดเลย ที่จะกล้าออกมาปกป้องทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาลของประเทศชาติ ไม่มาต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชน ทั้ง ๆ ที่ในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 นายกรัฐมนตรีต่างรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นถึงความเสียหาย ที่ส่งผลกระทบในทางเศรษฐกิจ และภาระงบประมาณแผ่นดิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ พร้อมทั้งได้หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ แต่ภายใต้วาระแห่งชาตินี้กลับไม่มีอะไรอยู่เลย แม้แต่ความจริงใจต่อเกษตรกร และอนาคตของประชาชนชาวไทยทุกคน


นายณัฐชา ชี้ว่า นี่คือสิ่งสะท้อนว่าไม่มีความจริงใจเลย เนื่องจากการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเอาจริงเอาจังชั่วครั้ง ชั่วคราว ทำ ๆ เลิก ๆ มา ๆ หาย ๆ จนกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมา เพราะความจริงแล้ว ต้องเริ่มจากการที่รัฐบาลมีความกล้า หาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้เป็นอันดับแรก ชดเชยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วให้เต็มประสิทธิภาพ ใช้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ทุกกลไกต้องทำงานอย่างเต็มที่ แค่นั้นก็จบ แต่มาถึงวันนี้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่ทำอะไรเลย

“ท่านกลัวอะไร ทำไมถึงไม่กล้าสั่งให้ตามล่าหาความจริง รื้อเรื่องนี้มาตรวจสอบ หาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน หรือหากท่านเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรที่อาจจะไปกระทบกระทั่งกับกลุ่มทุนผู้ที่ช่วยตั้งไข่รัฐบาลนี้มา ก็ช่วยเห็นใจประชาชน โดยการหยิบเอารายงานของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่พิจารณาเรื่องนี้แล้วมาใช้ ไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถพิเศษใด ๆ เพียงแค่นำรายงานเล่มนี้ เข้าคณะรัฐมนตรี แล้วสั่งการอ้อม ๆ ได้เลย ซึ่งผู้ที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการครั้งนี้ คือนางสาวแพทองธาร

นายณัฐชา ย้ำว่า ในรายงานผลการศึกษา ระบุชัดเจนด้วยพยานหลักฐานทั้งหมดว่า เราพบการขออนุญาตนำเข้าปลาหมอคางดำมาในราชอาณาจักรไทยเพียงรายเดียว นั่นคือ “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF” พร้อมไล่เรียงไทม์ไลน์เรื่องทั้งหมด

“หากมันฉลาดถึงขนาดว่ายข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงประเทศไทย เพราะคิดว่าพ่อและเพื่อน ๆ ของมันบินมาอยู่ที่นี่ แต่มันก็คงจะไม่รู้ถึงขนาดว่ายมาที่ตำบลเดียวกัน อำเภอเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน เพราะถ้ามันเก่งขนาดนี้ ฉลาดขนาดนี้ว่ายมาหาพ่อมันที่มาเป็นสัตว์วิจัยได้พิกัดตรงเป๊ะขนาดนี้ ก็จับมันแกงให้นายกรัฐมนตรีแพทองธารทานไปเลย จะได้ฉลาดและเก่งแบบไอปลาหมอคางดำฝูงนี้”

นอกจากนี้ นายณัฐชา ยังขอเรียกร้อง 4 ข้อ ที่รับมาจากชาวบ้าน ดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบผู้หากระทำความผิด 2.กำจัดปลาหมอคางดำให้หมดภายใน 1 ปี 3.ประกาศเขตภัยพิบัติทันที และ 4.ให้หน่วยงานรัฐฟ้องผู้กระทำผิดมาชดเชยเยียวยา ซึ่งไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง ไม่ได้เกินความสามารถของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และน้ำหนักของฟิวเจอร์บอร์ดข้อเรียกร้องนี้ ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากไปกว่าช่อดอกไม้ ที่ท่านรับในวันนั้นเลย ทำไมถึงจะมารับไปดำเนินการ แก้ไขให้พวกเขาไม่ได้

ระหว่างการอภิปราย ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายกล่าวเท็จว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำอะไรเลย รับแต่ช่อดอกไม้ ทั้งที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งจะอนุมัติงบประมาณ และทำอีกหลายมาตรการ ท่านควรจะเรียบเรียงเรื่องของท่าน และขอให้ประธานในที่ประชุมควบคุมเรื่องการใส่ร้ายด้วย

นายณัฐชา จึงกล่าวย้ำว่า ได้พูดถึงเรื่องงบประมาณแล้ว โดยเปรียบเทียบว่า เหมือนเอาเงินซื้อยาพาราไปรักษาโรคมะเร็ง แต่ผู้ประท้วงไม่ยอมฟังให้จบ

“ท่านนายกฯ เล่นนอกบทบ้างก็ได้ ที่ผู้กำกับจัดฉากไว้ให้ท่านนายกแฮปปี้เอนดิ้งกับนักธุรกิจประมงพันล้าน แล้วออกมาเผชิญปัญหาในโลกกว้างที่มันกำลังเป็นหายนะ ส่งต่อรุ่นลูกรุ่นหลานของท่าน ที่วิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าทำเนียบ เพราะต่อไปจะไม่มีสัตว์พื้นถิ่นให้ลองลิ้นชิมรส ภาพนี้มองกี่ครั้งก็ช่างบาดตา บาดหัวใจ พี่น้องเกษตรกรไทย อยากจะเรียกผู้กำกับที่เซ็ทละครฉากนี้ให้ท่านนายกฯ มาลงโทษให้ได้”

จากนั้น นายณัฐชา ได้เปิดคลิปวีดีโอ พร้อมระบุว่า นี่เป็นเครื่องยืนยัน ที่ยิ่งตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่รับรู้ ไม่เหลียวมอง ไม่สนใจใยดี ปัญหาของเกษตรกรเลย เพราะนอกทำเนียบที่เดือดระอุ แต่นายกรัฐมนตรีกลับตอบความหวานแหวว สวยงาม ที่อยู่ในทำเนียบ “นี่ใจคอจะไม่รับรู้เลยจริง ๆ เหรอ ว่าพี่น้องประชาชนเขาเจ็บจริง ๆ ตายจริง ๆ จนจริง ๆ อดอยากจริง ๆ มันทุกข์ทรมานขนาดไหน ในวันเวลา ที่ท่านบริหารประเทศนี้อยู่ จึงอยากขอถามว่าความรู้สึกของนายกรัฐมนตรี จากตัวตนจริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่

“สุดท้ายรัฐบาลเพื่อไทยหัวใจเพื่อใครกันแน่ ทำไมถึงปล่อยให้เสียงกระซิบของนายทุน มันดังสนั่นหวั่นไหวในประเทศนี้ แต่แทบจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนโห่ร้องผ่านความเจ็บปวด ของพี่น้องประชาชน และเกษตรกรไทยเลย ก็ได้แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหัวใจคือนายทุนหรือไม่ เพราะแต่ละภาพที่ออกมา มีความใกล้ชิดสนิทสนมชิดเชื้อระหว่างครอบครัวและบริษัทที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำกันเสียเหลือเกิน”

“ผมเองในฐานะผู้แทนประชาชน ที่ได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ ใช้ทุกกลไกทุกองคาพยพ ที่สามารถทำได้จนสุดฝีมือ ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดในรัฐบาลนี้ ก็มาจากพี่น้องประชาชนเช่นกัน ท่านปล่อยให้ประชาชนที่เป็นฐานเสียงฐานคะแนนของพวกท่าน ตกอยู่ในความยากลำบากขนาดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงทำได้ลงคอ จิตใจท่านในวันนี้ หลังจากได้รับตำแหน่ง มันหลงเหลือคำว่าหัวใจคือประชาชนอยู่บ้างหรือ้ปล่า

…จงจำไว้ว่าการมีอำนาจในวันนี้ ท่านไม่ได้มาจากกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง เพราะใบอนุญาตการเป็นรัฐบา ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากประชาชน ท่านอย่ากลัวกลุ่มทุนจะไม่ชวนทานข้าวร่วมโต๊ะ แต่ท่านจงกลัวมือของประชาชนที่จะไม่สนับสนุนท่านต่อในวันที่ท่านหมดอำนาจ”

นายณัฐชา ทิ้งท้ายถึง สส.ว่า ได้โปรดตัดสินใจลงคะแนนด้วยมือที่ประชาชนมอบให้ ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เพื่อที่จะหันหน้ามองประชาชนในเขตพื้นที่ท่านได้อย่างภาคภูมิใจ และแสดงเจตจำนงที่เราจะไม่ยอมให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่หน้าไหนมากัดกินและกอบโกยเอาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศชาติ แม้จะเป็นความยากลำบากในการตัดสินใจ แต่หากทุกท่านในที่นี้ กล้าที่จะลงคะแนนไม่ไว้วางใจอย่างเด็ดเดี่ยว กล้าที่จะใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่ได้มาจากประชาชน กล้าที่จะต่อกรกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่สิงรัฐบาลอยู่ กล้าที่จะต่อสู้กับผู้ควบคุมรัฐบาลนี้ ที่คอยบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ เดินหมากทุกกลไกของประเทศ ใช้อำนาจทุกอย่างอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง แต่ทำไม่ได้ เลยต้องใช้ชื่ออย่างงไม่เป็นทางการ ว่า สทร. หรือชื่อแท้จริง คือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เรามาจบดีลแลกประเทศนี้ไปพร้อมๆ กันเถอะ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]