“ณัฐพงษ์” เปิดศึกซักฟอก จี้ปม “ดีลแลกประเทศ”

รัฐสภา 24 มี.ค.- “ณัฐพงษ์” เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ “ดีลแลกประเทศ” ไม่ใช่แค่พา “ทักษิณ” กลับบ้าน แต่พาประเทศถอยหลังทุกด้าน วันนี้ไม่มีแล้วสองก๊กสามก๊ก เหลือก๊กเดียวคือพรรคร่วมคณะรัฐประหาร หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันแรก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่าตนและเพื่อนสมาชิก 165 คน ใช้สิทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 อภิปราย ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมไม่อาจไม่วางใจ เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ขาดวุฒิ ภาวะขาดความรู้ความสามารถ และคาร์เกตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ ส่งผลให้เกิดการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศ ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และคณะเหนือประโยชน์ส่วนรวม และเห็นว่านางสาวแพทองธาร ยังไม่มีความ สุจริต ซื่อสัตย์โกหกหลอกลวงไม่ทำตามสัญญากับประชาชนไว้ โดยนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ประชาชน 40 ล้านคนเดินเข้าคูหาเลือกตั้งด้วยความหวังและความเชื่อมั่นศรัทธา ว่าพอกันได้แล้วกับ 9 ปีที่สูญเสียไป แต่หากใครนอนหลับไปตั้งแต่หลังการเลือกตั้งแล้วตื่นลืมตาขึ้นมาอีกทีวันนี้ ก็คงได้แต่แปลกใจว่าทำไมทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลจากคณะรัฐประหารก่อนหน้านี้ รเพราะเริ่มต้น ดำรงอยู่ และเดินหน้าเพื่อให้เกิด “ดีลแลกประเทศ” ซึ่งมีประโยชน์ของคนตระกูลชินวัตรเป็นแกนกลาง ผลประโยชน์ของกลุ่มทุนใกล้ชิดและเครือข่ายการเมืองเป็นแกนรอง ส่วนประเทศและประชาชนนั้นต้องรอไปก่อน ใกล้วันเลือกตั้งค่อยมาปรับบทละครกันอีกที

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัย เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาจนถึงสมัยของ แพทองธาร ชินวัตร ทำให้หลายคนวิจารณ์ว่ารัฐบาลเพื่อไทยยอมเป็น “นั่งร้าน” ให้กลุ่มอำนาจเดิมเพื่อกลับสู่อำนาจ แต่เวลาพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง อันที่จริง รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เป็นนั่งร้านให้กับใคร เพราะพวกเขาได้หลอมหลวมเป็นพวกเดียวกันทั้งหมดแล้ว 
“พรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย หัวเราะร่วมวงไปด้วยกันได้ ไม่เกี่ยวกับรุ่นหรือภูมิหลังใดๆ เพราะพวกเขาใช้วิธีจัดการผลประโยชน์แบบเดียวกัน ต่อรองผ่านสนามกอล์ฟเหมือนกัน ใช้อำนาจเปลี่ยนดำเป็นขาวเช่นเดียวกัน รู้ช่องทางทำมาหากินผ่านระบบรัฐราชการเหมือนกัน พูดอีกอย่างก็คือนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดพูดภาษาเดียวกันและเล่มเกมเดียวกันมาตั้งแต่แรก เรื่องไหนที่เดินหน้ารวดเร็วได้ผิดปกติ ไม่สนคำทักท้วง รีบผลักดัน ก็คือเรื่องที่ดีลผลประโยชน์กันได้ลงตัวแล้ว อย่างเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กส์ ที่กลายมาเป็นวาระเร่งด่วนให้ความสำคัญเหนือการแก้ปัญหาชาวนาหรือการพัฒนาการศึกษาเพื่อเยาวชน”นายณัฐพงษ์ กล่าว


นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สื่อมวลชนถามนายกรัฐมนตรีว่าคิดอย่างไรเมื่อฝ่ายค้านใช้ชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่า “ดีลแลกประเทศ” ท่านถามสื่อมวลชนกลับไปว่า “ตระกูลชินวัตรได้อะไร” สื่อมวลชนก็อธิบายต่อไปว่า “ได้คุณทักษิณกลับบ้าน” นายกรัฐมนตรีก็ตอบเพียงว่า “ได้คุณพ่อกลับมา อ๋อ คงเป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป” อย่างน้อยที่สุด นายกรัฐมนตรีก็ยอมรับว่า ดีลในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เริ่มต้นจากการพาคุณทักษิณกลับบ้านจริงๆ และดีลแลกประเทศยังหมายรวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่ต้องแลกด้วยผลประโยชน์ของประเทศมากมายมหาศาล

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าในแง่การบริหารประเทศ การได้นายทักษิณกลับมาอีกครั้งนี้ ดูเผินๆ เหมือนประเทศไทยจะได้ผู้นำแพ็คคู่ คนหนึ่งดูดีมีประสบการณ์ เดินสายทำงานนอกทำเนียบ ส่วนอีกคนอยู่ในตำแหน่ง เป็นคนรุ่นใหม่ ทำงานในระบบ พร้อมผสานการทำงานกับคนรุ่นเก่า แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ ในความเป็นจริงสิ่งที่เกิดขึ้นคือประเทศไทยกำลังมีผู้นำนอกระบบที่ทำงานนอกทำเนียบเป็นคนชี้นำวาระ ให้ข้อมูลและนโยบายนำหน้ารัฐบาลโดยปราศจากความรับผิดรับชอบใดๆ เพราะไม่ถูกถ่วงดุลตรวจสอบ วันหนึ่งเคยบอกว่าจะให้ค่าไฟ 3.70 บาท แต่ก็ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น ผ่านไป 2 เดือนก็มาบอกอีกทีว่าจะลดให้ค่าไฟเหลือ 2.50 บาท แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลายเป็นคนนอกระบบ พูดไปเรื่อย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย 

“เมื่อรวมผู้นำนอกระบบอย่างทักษิณกับผู้นำในระบบอย่างแพทองธารแล้ว ประเทศไทยกลับเสียสองต่อ เพราะมีแต่คนกำหนดวาระที่ทำงานลอยตัว ไม่ต้องรับผิดรับชอบ กับคนที่ถืออำนาจรัฐแต่ขาดคุณสมบัติ ผมอยากให้ท่านตระหนักรู้ไว้อยู่เสมอ ว่าทุกการกระทำของท่านส่งผลต่อความเชื่อมันของประชาชน ท่านจะทำตัวแบบเดียวกับนายกรัฐมนตรีที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร มองการเมืองในสภาเป็นเพียงเรื่องน่ารำคาญ มองวาระในสภาเสมือนก้อนกรวดในรองเท้า มองนักการเมืองมอง สส. ในสภาเป็นเพียงแค่จำนวนนับให้ท่านจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ไม่ได้” นายณัฐพงษ์กล่าว


นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการบริหารงานในด้านความยุติธรรม ขณะที่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังรอฟังคำตอบในเรื่องการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลายครอบครัวยังไม่ได้รับการคืนความยุติธรรมจากคดีตากใบ แต่นายกรัฐมนตรีกลับจงใจปล่อยปละละเลย ไม่เร่งรัดติดตามในการนำตัวจำเลยที่หลบหนีไปต่างประเทศกลับมาดำเนินคดีเพื่อคืนความยุติธรรม ขณะที่นายกรัฐมนตรีตัวจริงนอกระบบกลับได้รับสิทธิอยู่ในชั้น 14 เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ เหนือระบบยุติธรรมในประเทศนี้ ที่มีนางสาว แพทองธาร ผู้เป็นบุตรสาวรับทราบสถานะพ่อของตัวเองมาโดยตลอด และยังมีกรณีผู้ต้องขังคดีทางการเมืองที่กำลังรอฟังคำตอบในเรื่องการนิรโทษกรรม ที่วันนี้แม้แต่ข้อสังเกตในเล่มรายงาน พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่กล้าโหวตรับ หมดหวังกันได้แล้วกับการทวงคืนความยุติธรรมให้กับประเทศนี้

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ขณะที่สังคมไทยมีฉันทามติร่วมกันแล้วว่าต้องการผลักดันการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่นายกรัฐมนตรีกลับลอยตัว ควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ ตอกตะปูปิดฝาโลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าประชาชนคนไทยจะไม่มีวันมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลสนใจเพียงการแจกเงินกับการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งคงไม่สามารถกู้วิกฤตให้กับประเทศนี้ได้ เพราะเงินหมื่นที่แจกไปได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแทบไม่ได้กระตุ้นการเติบโตเลย การสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็มองเห็นได้ล่วงหน้า ว่าจะมีผู้ได้รับผลประโยชน์อยู่เพียงเพียงไม่กี่กลุ่ม ก็คือกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล นี่คืออีกหนึ่งโอกาสที่คนไทยจะต้องสูญเสียไปจากการที่มีรัฐบาล “คิดไป ทำไป” หาทางซื้อคะแนนเสียงไปวันๆ

“คนไทยไม่กล้าฝัน ไม่กล้าหวังถึงอนาคตที่ดีกว่า ต้นตอก็มาจากรัฐบาลชุดนี้ที่เกิดขึ้นจากการจัดตั้งภายใต้ ‘ดีลแลกประเทศ’ ถึงวันนี้ ไม่มีแล้ว สองก๊ก สามก๊ก เหลือแค่ก๊กเดียวคือพรรคร่วมคณะรัฐประหาร ที่พวกเขาทั้งหมดคือพวกเดียวกัน หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว” นายณัฐพงษ์กล่าว.312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]