รัฐสภา 12 มี.ค.- ฝ่ายค้านแสดงท่าทีจะยอมถอยปรับญัตติ แต่ขอความชัดเจนว่าสามารถอภิปรายถึงคนนอกได้ โดยพร้อมรับผิดชอบ แนะนายกฯ เชิญ “ทักษิณ” เข้าห้องประชุม จะได้ร่วมแจง
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ขอหารือในที่ประชุม ถึงกรณีที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตอบหนังสือมาในเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องการตีความบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้ปรับแก้ โดย ขอไม่ให้ใส่ชื่อบุคคลภายนอกเข้ามาในญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงอยากถามว่า ประธานได้วินิจฉัยแล้วใช่หรือไม่ ว่ามีอำนาจในการ วินิจฉัยเนื้อหาและหากฝ่ายค้านยินดีที่จะแก้คำในญัตติที่ไม่กระทบกับสาระ จะมีสิทธิ์เต็มที่ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญในการอภิปรายเนื้อหาตามกรอบ ไม่ถูกเบรคใช่หรือไม่เพร่ะตามข้อบังคับระบุว่าสามารถอภิปรายได้ หากไม่ทำให้เสียหาย และถ้าเสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้ ดังนั้นตนยอมปรับ ญัตติโดยที่ตนสามารถอภิปรายได้ และพร้อมจะรับผิดชอบ
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาพุทธรณ์ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมยืนยัน ฝ่ายค้านอภิปรายได้ตามญัตติภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ อย่างเต็มที่ ไม่มีใครขัดขวางได้ ยกเว้นว่าอภิปรายในสิ่งที่ผิดข้อบังคับ อาจจะมีผู้โต้แย้ง ผู้เป็นประธานในที่ประชุม ต้องพิจารณาให้เป็นไปตามข้อบังคับ เพราะเราอยากให้การดำเนินการในสภาเป็นไปด้วยดี ซึ่งประชาชนก็อยากฟัง ไม่อยากฟังการประท้วงจนกระทั่งสารัตถะที่ประชาชนอยากฟังนั้นขลุกขลักนี่คือสิ่งที่ตนปรารถนา และกรณีนี้ไม่ได้หมายความว่า ผู้พูดจะรับผิดชอบคนเดียว ประธาน ซึ่ง อยู่ในที่ประชุม ก็จะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 ที่ระบุชัดเจนว่าการยืนยันติเป็นการอภิปรายคณะรัฐมนตรี ทั้งคณะหรือรายบุคคล ซึ่งสามารถระบุรายชื่อรัฐมนตรีได้ แต่ไม่ใช่บุคคลภายนอก ซึ่งการอภิปรายบางครั้งอาจจะไม่ใช้ชื่อ คนก็รู้ได้โดยไม่ต้องใช้ชื่อและสามารถอภิปรายได้ ทั้งนี้ไม่ได้แนะนำ แต่อยากให้ การประชุมเดินไปได้ด้วยดี และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปรับแก้ญัตติ
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่าเข้าใจความกังวลของประธาน และเพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งตามข้อบังคับการประชุม นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี สามารถนำบุคคลภายนอกเข้ามาชี้แจงได้ ดังนั้นข้อเสนอแนะว่าให้ใช้ข้อบังคับข้อที่ 76 ให้เชิญนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามา จะได้คลายความระแวงของประธานไปได้
“ในเมื่อบอกว่า ยินดีจะแก้ก็ขอให้แก้อยู่ในกติกา และผมไม่ได้เป็นประธานคนแรกที่ให้มีการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานอุทัยพิมพ์ใจชน ก็ขอให้ผู้ยื่นญัตติ ที่นายชวนกับคณะเป็นผู้แก้ไข ซึ่งในหนังสือยังบอกว่าไม่ได้เห็นด้วย ว่าญัตติบกพร่อง แต่เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการอภิปรายให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงยอมแก้ไข ซึ่งทำให้การประชุมเป็นไปด้วยดี ซึ่งการประชุมของสภานั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถือเอาความเห็นส่วนตัวไม่ได้ ความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ในที่สุดต้องร่วมมือกัน เพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสุดท้ายต้องมีการลงมติ และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ซึ่งผมไม่ได้มีปัญหาอะไร และขอย้ำว่าไม่ได้มีอคติ ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยความเคารพ หากจะแก้ก็ยินดี แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ขอเป็นความร่วมมือ ซึ่งไม่มีใครแพ้ใครชนะผู้ชนะคือประชาชน” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
ด้านนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน มีการขอให้แก้ไขถ้อยคำในญัตติ ไม่ได้ระบุชื่อบุคคลใด แต่เป็นถ้อยคำในญัตติที่ระบุว่า “รัฐบาลกดขี่ข่มเหง ข้าราชการ” ซึ่งความจริงแล้วข้อความนี้โดยทั่วไป ไม่ต้องแก้ไข แต่เมื่อประธานขอร้องให้แก้ไข เราก็เลยแก้เป็นว่า “รัฐบาลชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ข่มเหง รังแก ประชาชน” ซึ่งแก้แล้วหนักกว่าเดิม เมื่อสั่งให้แก้ก็แก้ให้ ประธานก็ไม่สามารถที่จะให้แก้เป็นครั้งที่ 3 ได้ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการระบุชื่อบุคคล
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 มี.ค.) ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะหารือร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านเพื่อหาข้อสรุปการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีรายงานว่า ฝ่ายค้านยอมที่จะแก้ไขญัตติไม่ใส่ชื่อนายทักษิณ แต่จะระบุคำว่า “พ่อ” เท่านั้น และจะขอเวลาอภิปราย 2 วัน ซึ่งหากตกลงกันได้ วิป 3 ฝ่ายทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี จะประชุมทันทีในช่วงบ่ายวันนี้ (13 มี.ค.)
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ (13 มี.ค.) ตนเองจะเป็นประธานการประชุมวิป 3 ฝ่าย ซึ่งจะมีตัวแทน สส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และตัวแทนของคณะรัฐมนตรี หารือเพื่อหาข้อสรุปเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนที่มีกระแสข่าวฝ่ายค้าน ยอมตัดชื่อนายทักษิณออก แต่จะขอเวลาการอภิปราย 2 วันนั้น นายพิเชษฐ์ ระบุว่า ไม่น่าจะมีปัญหา และมีความเป็นไปได้ ซึ่งทุกอย่างน่าจะจบภายในวันนี้ (13 มี.ค.) -312.-สำนักข่าวไทย
