ก.มหาดไทย 6 มี.ค.-“อนุทิน” ขออย่าโยงดีลบ้านจันทร์ส่องหล้า ทำข้าราชการไม่เข้าประชุม กคพ. คดีฮั้ว สว. ปัดตอบสงบศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทย เหตุใกล้ศึกอภิปราย ย้ำพรรคร่วมไม่ปล่อยนายกฯ ถูกอภิปรายคนเดียว บอก “ผมก็ลูกเสือ” หลังชมนายกฯ เป็นลูกเสือ ถามแล้วพ่อเขาเป็นใคร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธให้ความเห็นถึงกรณีที่คณะข้าราชการประจำส่วนใหญ่ ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณาจะรับหรือไม่รับหรือไม่รับคดีฮั้ว เลือก สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ขอให้ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีเพียงปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมประชุมแทน
เมื่อถามว่า การประชุมดังกล่าวจะส่อล่มหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำคำเดิมว่า ให้ไปถาม รมว.ยุติธรรม เพราะตนไม่สนใจรายละเอียด และไม่ใช่ภารกิจตน
เมื่อถามต่อว่า จะเป็นการได้รับสัญญาณอะไรก่อนหน้านี้หรือไม่ หลังจากที่ 4 ผู้ทรงอิทธิพลทางการการเมือง ไปพบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปผูก เค้าเรียกว่าคนละเรื่องเดียวกัน แล้ววันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว รัฐบาลมีความเข้มแข็งจะตาย นายกฯ ก็บอกว่ามีความมั่นใจ และคณะรัฐมนตรีก็ให้ความมั่นใจกับนายกฯ ว่าจะสนับสนุนเต็มความสามารถทำให้นายกฯ ชี้แจงการอภิปรายให้เคลียร์ที่สุดเท่าที่จะเคลียร์ได้ และทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้ในการทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้คลี่คลายเบาลงแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียด และบุคลิกโดยทั่วไปของนายกฯ ก็ดูเป็นคนอารมณ์ดี ให้เกียรติให้ความเคารพรัฐมนตรีแม้อายุน้อยกว่าทุกคน เพราะเราไม่ได้มองว่านายกฯ เป็นคนที่อายุน้อยกว่า แต่มองว่าท่านเป็นนายกฯซึ่งเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และตนเชื่อว่านายกฯมีความมั่นใจมากว่ารัฐมนตรีทุกคนจะสนองนโยบาย ก่อนย้ำว่าตนไม่เคยเห็นความตึงเครียด และไม่เคยมีความตึงเครียด เนื่องจากมีเพียงนักวิเคราะห์ นักวิชาการซึ่งตนก็ไม่ทราบมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการมุ่งโจมตีในเรื่องความสัมพันธ์รัฐบาล
ส่วนหลังจากนี้การผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาลจะราบรื่นหรือไม่ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.กัญชง-กัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก็ดำเนินการไปอย่างรวดเร็วส่วนที่สื่อชนคาดหวังว่าจะไปติดตรงโน้นตรงนี้ และตั้งฉายาภูมิใจขวาง แล้วเห็นหรือไม่มาขวางอะไร ไม่มีขวางอะไรสักอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือมีประเด็นหมิ่นเหม่ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เราก็มีสิทธิ์ที่จะทัก และหากมีการเคลียร์ประเด็นต่างๆ ก็ไปได้
ส่วนปัญหาที่ต้องจบเพราะใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้ใจใช่หรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยว พร้อมยอมรับว่าพวกตนไม่รู้สึกอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจนชินแล้ว แต่อย่างพรรคเพื่อไทย เที่ยวนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่มาอยู่ในสถานะรัฐบาลผสม เพราะที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลเดี่ยวมาตลอด แล้ววันนี้พอมาเป็นรัฐบาลผสมก็อาจจะมีความกังวลอะไรบ้างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในฐานะที่มาร่วมรัฐบาลก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน กับนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ไม่ว่าจะถูกอภิปรายคนเดียว พรรครัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน
เมื่อถามถึง สัญญาณปรับ ครม.หลังการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพียงคนเดียว
เมื่อถามต่อว่า มีโอกาสที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากที่พรรคเพื่อไทยยื่นสารละมุนให้ตีกรอบคุณสมบัติเรื่องจริยธรรม นายอนุทิน ย้ำคำเดิมว่า เป็นอำนาจนายกฯ เพราะจะเป็นการก้าวก่าย และละเมิดอำนาจนายกฯ ซึ่งตนให้ความเห็นได้เฉพาะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามอีกว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี มีโอกาสจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายชาดา เคยให้สัมภาษณ์แล้วว่ามีความสุขที่เห็น น.ส.ซาบีดา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมาไทย และก็ทำงานดีจะตาย ก่อนพูดติดตลกว่าเที่ยวหน้ากระแสอาจจะดีกว่าตนด้วยซ้ำไปเพราะท่านน่ารัก ก่อนกล่าวว่าวันนี้ตนรักลูกมากกว่าพ่ออีก เพราะสั่งอะไรแล้วก็ทำสำเร็จ และคุณพ่อเองก็ช่วยด้วย ซึ่งมันเป็นพลังเป็นผลงาน
เมื่อถามถึงที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า มองนายกฯการทำงานเข้มแข็งขึ้นทุกวัน เพราะลูกเสืออย่างไรก็เป็นเสือ นั้น ในฐานะที่ร่วมงานด้วยสบายใจใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ถึงคำถามเรื่องการทำงานร่วมกับนายกฯ ตนจึงบอกว่า “ลูกเสือก็ต้องเป็นเสือ” ก่อนถามกลับว่าแล้วถ้าลูกใครล่ะ คุณพ่อท่านเป็นใครล่ะ เพราะฉะนั้นมันก็อธิบายตัวมันเอง ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า ”ผมก็ลูกเสือนะ พ่อผมก็ไม่เบานะ”.-316.-สำนักข่าวไทย
