รัฐสภา 30 ม.ค.- ผู้นำฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามรัฐบาล ปมฝุ่นพิษ-กระจายอำนาจ ซักจุดยืนเพื่อไทยในร่าง กม.กระจายอำนาจ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดตอบจุดยืนพรรค รอดูผลประโยชน์ของประชาชน ย้ำรัฐบาลเร่งแก้ฝุ่นพิษ บูรณาการหลายหน่วยงานแก้ปัญหา
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (30 ม.ค.) มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าตกเป้าอย่างชัดเจน ขณะที่การจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาพบว่าเป็นการจัดสรรปีต่อปี และอยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯ ต่อการจัดสรรงบกลางเพื่อแก้ปัญหา ขณะเดียวกันการแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้านนายประเสริฐ จันทร์รวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดีอี ตอบกระทู้แทนนายกฯ ตอนหนึ่งว่า รัฐบาล ได้อนุมัติงบกลาง 600 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหา ขณะที่การแก้ปัญหาฝุ่นขนาดเล็กนั้นมีนโยบายบูรณาการหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม ห้ามรับซื้ออ้อยที่เผาเกิน 25% ทำให้ลดลงเหลือ 11% มีมาตรการเข้มงวดใครไม่ทำตามจัดการเด็ดขาด ปิดโรงงานเขตจังหวัดภาคอีสาน กระทารวงเกษตรและสหกรณ์ งดเว้นสิทธิและตัดสิทธิเกษตรกร ที่เผาไร่ เผานา เป็นต้น รวมถึงกทม. มีหลายมาตรการ ทั้งนี้ปัญหากทม. พื้นที่รอบกทม.จะมีการเผาการเกษตร ฝุ่นจะปลิวเข้ามาแต่ได้ติดตามใกล้ชิด นอกจากนั้นยังได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควัน ฝุ่นขนาดเล็ก
ทั้งนี้นายณัฐพงษ์ ยังตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นมีการบริหารจัดการแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ อย่างไรก็ดีที่ผ่านมา พรรคประชาชนได้เสนอร่างกฎหมายที่มีสาระต่อการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น พบการไม่ลงนามรับรองและถูกสภาฯ โหวตตก และล่าสุด พบว่าในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการอากาศสะอาด ที่พบชัยชนะเล็กๆ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งหัวโต๊ะกรรมการอากาศสะอาดระดับจังหวัด แต่พบว่า กมธ.เสียงข้างน้อยจากพรรคเพื่อไทย สงวนความเห็นไว้ นอกจากนั้นยังพบว่ามีบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกฯ ขึ้นเวทีปราศรัย ที่จ.เชียงราย จ.มหาสารคามที่ระบุว่าไม่เคยเห็นความสำคัญของท้องถิ่น เพราะเคยคุมได้ทุกกระทรวง แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป มองท้องถิ่นเป็นมือไม้ทำงานให้กับพรรคของรองนายกฯ ทัศนะคติแบบนี้ต้องถามจุดยืนให้ชัดเจน รวมถึงการพิจารณาเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้ท้องถิ่น และเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีบ้านเกิดเมืองนอนที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอหรือไม่ หากเห็นด้วยทำไมไม่เสนอมาในนาม ครม.
“การจัดการบุคลากรท้องถิ่น ที่สมัยประชุมสภาฯ ล่มและต้องถอนจากสภาฯ ข้าราชการท้องถิ่นรอฟังว่าจะยกเลิกการจัดสอบบุคลากรท้องถิ่นที่ส่วนกลางหรือไม่ ขณะนี้พรรคประชาชนเสนอเข้ามาแล้วอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น จุดยืนเรื่องนี้เป็นอย่างไร” นายณัฐพงษ์ ตั้งคำถาม
นายประเสริฐบอกว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่ถามถึงการกระจายอำนาจ พรรคให้ความสำคัยต่อการรกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น อาจรู้สึกว่ากฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอไม่ได้รับการตอบรับในสภา แต่มีหลายเรื่องที่กฎหมายที่หลายพรรคเสนอต่อท้องถิ่นได้รับการตอบรับจากสภาฯ เช่น สุราเสรี ที่เป็นเรื่องของท้องถิ่น แต่การผ่า่นกฎหมายแต่ละฉบับละเอียดอ่อน เป็นเรืองของสภาฯ เกี่ยวกับหลายพรรคการเมือง ที่ต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน สส.แต่ละคนมีเหตุและผลพิจารณาร่างกฎหมายแต่ละฉบับ ส่วนร่างกฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอมานั้น ไม่อยากให้ตอบเป็นจุดยืนของพรรค แต่ต้องมองว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งนี้รัฐบาลจะพิจารณาหากเป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนมากรัฐบาลยินดี
“วันนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำแผนเพื่อแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ บรรจุกิจกรรมในแผนงานงบประมาณได้ เข้าใจดีว่าการเปลี่ยนนแปลงสัดส่วนวงเงินงบประมาณหรือสัดส่วนรายได้ เป็นเรื่องสำคัญและพรรคสำคัญ ส่วนภาระงบประมาณแผ่นดินต้องดูควบคู่กันหลายอย่าง” นายประเสริฐ ชี้แจง
นายประเสริฐ ชี้แจงด้วยยว่าส่วนนโยบายเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด พรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม จะเริ่มที่ไหนก่อนดี ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญและละเอียดอ่อน ส่วน ร่าง พ.ร.บ. บ้านเกิดเมืองนอน ยังไม่ได้เสนอต่อสภาฯ ตนไม่เห็นรายละเอียด แต่ทราบจากข่าวว่าจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ความสำคัญกับท้องถิ่น จึงตอบแทนไม่ได้.-312 -สำนักข่าวไทย
