ป.ป.ช. 10 ม.ค.- 3 ป.บุกรวบ นอภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ คาบ้านพัก ปมตบทรัพย์ 5 หมื่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดกระบี่ ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมจับกุมนายวิชญุตม์ นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ กับพวก ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนหรือผู้อื่น, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหาย ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและได้ประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้เสียหายเป็นคู่สัญญากับที่ทำการปกครองอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ในโครงการซ่อมแซมอาคารบ้านพักกองอาสารักษาดินแดน ตามสัญญาเลขที่ 57/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 วงเงินงบประมาณ 500,000 บาท ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2567 ขณะที่ผู้เสียหายกำลังควบคุมการซ่อมแซมอาคาร ตามสัญญาจ้าง นายวิชญุตม์ นายอำเภอเหนือคลอง ได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ได้นำเงินไปมอบให้ กระทั่งในเวลาต่อมาผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่านายวิชญุตม์ ให้มาแจ้งว่าให้ตนนำเงินไปมอบให้ตามจำนวนที่นายอำเภอได้แจ้งไว้ หากไม่นำไปมอบให้ก็ให้ผู้เสียหายลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้เสียหายเห็นว่าการกระทำของนายวิชญุตม์ฯ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย และกังวลว่าจะได้รับผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของนายอำเภอจึงได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
สำนักงาน ป.ป.ช. บก.ปปป. และ สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้เข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหาพร้อมเงินของกลาง จำนวน 40,000 บาท ที่บ้านพักของผู้ถูกกล่าวหาภายในบริเวณที่ทำการปกครองอำเภอเหนือคลอง ภายหลังการจับกุมผู้ถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 โดยได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกการจับและสอบปาคคำเบื้องต้น ในชั้นนี้ผู้ถูกกล่าวหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป .314.-สำนักข่าวไทย
