สว. 153 เสียง ผ่านกฎหมายประชามติ ฉบับ กมธ.ร่วมฯ

รัฐสภา 17 ธ.ค.-สว. 153 เสียง ผ่านกฎหมายประชามติ ฉบับ กมธ.ร่วมฯ ยึดเสียงข้างมากสองชั้น “อังคณา” เชื่อ สส.ยึดหลักประชามติเสียงข้างมากชั้นเดียว ส่วน “นันทนา” ซัดอย่าดัดจริต อย่าสองมาตรฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการร่วมกัน พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมีมติเห็นชอบร่างแก้ไขของวุฒิสภา ที่แก้ไขด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เกณฑ์ผ่าน 2 ชั้น คือต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสัยงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ใช้เสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามติ


นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว.อภิปรายว่า การออกเสียงประชามติข้างมากชั้นเดียว เป็นที่นิยมในหลายประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่ใช้กรออกเสียงประชามติ 2 ชั้นที่สร้างปัญหา มากกว่าข้อดี และรูปแบบรัฐเป็นสหพันธรัฐ เพื่อไม่ให้รัฐใหญ่ใช้พวกมาลากไป แต่ประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จึงควรใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว พร้อมอ้างตัวอย่างการใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เหมือนการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ในปี 2559 ที่กฎหมายเดิมใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก2 ชั้น ก่อนมีการเปลี่ยนเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว เพราะเสียงข้างมาก 2 ชั้น ถูกรณรงค์ให้คว่ำง่ายมาก เมื่อ คสช.อยากให้รัฐธรรมนูญฉบับ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ผ่าน ก็มีการแก้ไขกฎหมาย กลับมาใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว

“เมื่อประชาชนอยากมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนบ้าง ก็มีการแก้ไขกฎหมายประชามติ กลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น เสมือนเวลาโจรอยากมาขึ้นบ้าน ก็เอาบันไดมาพาด พอโจรขึ้นไปแล้ว ไม่อยากให้เจ้าของปีนตามขึ้นไป ก็ถีบบันไดทิ้ง” นายนรเศรษฐ์ กล่าว


นางอังคณา นีละไพจิตร สว. อภิปรายว่า ที่ผ่านมาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเรื่องประชามติ ล้วนเป็นการทำประชามติแบบเสียงข้างมากปกติทั้งสิ้น และวันนี้เราตอบคำถามกับประชาชนไม่ได้ว่าทำไมเราถึงใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำไมสว.ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประชามติ ที่จะให้กลับมาใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและประชาชนจับตามองโดยการแก้ไขให้กลับมาเป็นเสียงข้างมากปกติจะลดความซับซ้อนของการทำประชามติและนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับบริบทของสังคม และวันนี้บทบาทของวุฒิสภากำลังถูกจับตามองทั้งจากคนไทยและองค์การระหว่างประเทศ

“ดิฉันหวังว่า สว.จะพิจารณเรื่องนี้อย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะประชาชนกำลังจับตาว่าวุฒิสภากำลังทำอะไร มติจะออกมาอย่างไร การแก้ไขเพื่อใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ถึงแม้สว.ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับเสียงข้างมาก 2 ชั้น แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่า สส.จะยืนยันหลักการแก้ไขให้เป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว แม้จะรอระยะเวลาอีก 6 เดือนจึงจะสามารถประกาศใช้ นั่นไม่เป็นปัญหา และวุฒิสภาอาจจะถูกกล่าวหาว่าการยืนยันให้ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น อาจจะเป็นเพียงความต้องการที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าที่ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย“ นางอังคณา กล่าว

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายว่า ร่างกฎหมายประชามติ ถูกนำมาใช้เป็นเกมการเมือง เพื่อยืดเยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป จนไม่เห็นอนาคต และครั้งนี้หากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก 2 ชั้นซึ่งไม่เกินคาดหมาย และทางสภาผู้แทนราษฎรลงมติยืนยันเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ก็จะต้องใช้เวลาพักร่างกฎหมาย 180 วัน ซึ่งจะนานไปถึงกลางปี 2568 อย่างนี้เรียว่าเกมยึดเยื้อหรือไม่ แล้วทำไมต้องยึดเยื้อ


“เป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจหรือเปล่า ที่หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เร่งด่วน หลังจากนั้นการลงติของวุฒิสภาก็ยืดเยื้อไป การลงมติเช่นนี้เป็นไปตามใบสั่งของใครหรือไม่ดิฉันไม่ทราบ” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า หลักการเสียงเสียงข้างมากชั้นเดียวมีข้อดีมากมาย นักวิชาการจำนวนมากสนับสนุนเพราะเป็นไปตามหลักสากล สมาชิกก็แสดงเหตุผลนับสนุนเสียงข้างมากชั้นเดียวแล้ว แต่มาวันนี้ตนขอตอกย้ำและยืนยันการลงประชามติด้วยเสียงข้างมากชั้นเดียวอีกครั้ง คืออย่าสองมาตรฐาน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติมาด้วยเสียงข้างมากชั้นเดียว พอจะแก้ไขทำไมต้องใช้เสียงข้างมากสองชั้น และระบบการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและท้องถิ่นเป็นระบบเสียงข้างมากชั้นเดียว ทำไมประชามติจึงต้องแปลกแยก ขอถามว่าประเทศไทยเคยใช้วิธีการเลือกด้วยเสียงข้างมากสองชั้นหรือไม่ และอยากจะบอกว่าอย่าดัดจริต อย่าสองมาตรฐาน เราเป็นราชอาณาจักร ไม่ใช่สหพันธรัฐ หลักการประชาธิปไตยเช่นนี้ใช้เสียงข้างมากธรรมดา การลงมติของสมาชิกวุฒิสภา จะถูกจัดจำไปตลอดว่าท่านเป็นผู้สนับสนุนการปกครองในระบบประชาธิปไตยแบบอารยะ หรือท่านเป็นผู้เหนี่ยงรั้งการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย

นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกมธ.ร่วมกันฯ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ประชามติฉบับนี้มีรูรั่ว มีช่องว่าง ในกรณีหากสภาฯพิจารณาแล้วมีข้อสรุปว่าจะแก้รัฐธรรมนูญจะใช้เพียงแค่เสียงข้างมากชั้นเดียว จะไม่ใช้หลักเกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้นเช่นเดียวกันกรณีที่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นฝ่ายเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะยึดเสียงข้างมากสองชั้น และตนยังมีคำถามว่ากรณีประชาชนเข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อเสนอต่อสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ แล้วสภาส่งต่อไปยังครม. ถามว่าต้องใช้หลักเกณฑ์ใดในการออกเสียงประชามติ ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือไม่

“วิปรัฐบาลมีมติไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ฉบับคณะกมธ.ร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่า 180วันรออยู่โดยนับแต่วันมะรืนนี้ เมื่อครบ180วัน ก็จะมีการนำเสนอเพื่อให้สภายืนยัน จากนั้นรอ 3 วัน และ5 วันเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในส่วนของการออกกฎหมายลูก เข้าใจว่ากกต.น่าจะใช้เวลา 1เดือน พอกฎหมายประกาศใช้ก็เชิญสำนักงบมาพูดคุยว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ เคาะมติครม. ต้องใช้เวลาไม่90-120 วัน โดยกระบวนการทั้งหมดประมาณ 10เดือนครึ่ง ผมคิดว่าเราจะได้ทำประชามติครั้งแรกในเดือน มค.69 จากนั้นเดือนก.พ. จึงจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 ด้งนั้น เรื่องที่ให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี70 ลืมไปได้เลย เหมือนจะให้พระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันตก เกิดขึ้นไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเดือนเม.ย.69 คาดว่ามาตรา 256 จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา หากสว.ไม่ให้ผ่าน ซึ่งช่วงนั้นสภาปิด ก็ต้องรอวันที่ 3 ก.ค. เปิดสมัยประชุมสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ทัน เท่ากับสสร.ก็ไม่ได้ ถามว่าท่านจะแบกรับไหวหรือไม่” นายนิกร กล่าว

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ร่วมฯชี้แจงว่า หลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้นในการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ เสี่ยงเปิดช่องให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการทำประชามติ ทำให้ฝ่ายที่ไม่อยากให้ประชามติผ่าน มีช่องทางใหม่เอาชนะการทำประชามติ แทนที่จะเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนไม่เห็นด้วย ก็ไปรณรงค์ให้ประชาชนนอนอยู่กับบ้าน ก็สามารถคว่ำประชามติได้ ที่ตลกร้ายกว่านั้น เกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้น จะทำให้ประชาชนมาใช้สิทธิออกเสียงน้อย เพราไม่อยากให้ประชามติผ่าน ขัดกับหลักการเสียงข้างมาก 2ชั้น ที่อยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเยอะๆ การลงมติของสว. หากต้องการยืนยันเสียงข้างมาก 2ชั้น ขอให้ลงมติสนับสนุนด้วยใจจริง อย่าลงมติเพียงเพื่อต้องการใช้กลไก ยุทธศาสตร์ ชะลอหรือขัดขวาง เพราะไม่อยากให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ

นายพิศิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะกมธ.ร่วมฯชี้แจงว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชนของนิด้าโพลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2ชั้นในการทำประชามติ มีเสียงเห็นด้วย 51.4%สนับสนุนให้ต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงในการทำประชามติ และเสียงอีก 59.84%เห็นด้วยจะต้องมีเสียงเห็นชอบทำประชามติเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง ขอยืนยันว่า สว.ไม่มีเกมการเมืองในการยื้อแก้รัฐธรรมนูญ สว.ทุกคนมีอิสระในการคิด เลือก ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง การระบุว่า หากกฎหมายประชามติต้องยื้อการบังคับใช้ออกไป 180วัน อาจมีรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันการเลือกตั้งปี2570นั้น ถามว่า ใครเป็นผู้กำหนดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปี2570 และถ้าใช้รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันจริงๆ จะมีผลกระทบอะไรต่อประชาชน ตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องรอง ส่วนการระบุว่า การใช้เสียงข้างมาก 2ชั้นเป็นการรณรงค์ให้คนนอนหลับทับสิทธินั้น ไม่เชื่อว่าจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนนอนหลับทับสิทธิ ไม่มีใครกล้าพูดแบบนี้แน่ เพราะบ่งบอกความไม่เป็นประชาธิปไตย สว.ไม่ต้องการพ.ร.บ.ประชามติที่ดีที่สุด แต่ต้องการได้พ.ร.บ.ประชามติที่ยืดหยุ่น สามารถนำไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทั้งนี้เสียงข้างมาก 2ชั้น จะใช้เฉพาะกรณีแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่สว. อภิปรายแสดงความเห็นครบถ้วนแล้วได้ลงมติ ผลปรากฎว่า มติวุฒิสภา 153 เสียงเห็นด้วยกับกรรมาธิการร่วม ต่อ 24 เสียงและงดออกเสียง 13 เสียง ทั้งนี้ในขั้นตอนต่อไปต้องรอให้สภาฯลงมติในรายงานของกรรมาธิการร่วม ซึ่งสภาฯ ได้นัดลงมติวันที่ 18 ธ.ค.นี้ หาก สส. ลงมติแย้งกับสว. จะเป็นผลให้ ร่างพ.ร.บ.ประชามติ (ฉบับแก้ไข) ต้องถูกยับยั้งไว้ เป็นเวลา 180 วัน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]