“จุรินทร์” ย้ำ “ปชป” ไม่เห็นชอบรายงาน กมธ.ศึกษาแนวทางตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

รัฐสภา 17 ต.ค. – “จุรินทร์” อภิปรายย้ำจุดยืน “ประชาธิปัตย์” ไม่เห็นชอบรายงาน กมธ.ศึกษาแนวทางตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม-ไม่ส่งให้รัฐบาล พร้อมเสนอ 5 หลักการ ต้องสร้างปรองดอง ไม่ทำเพื่อตัวเอง ไม่เป็นหัวเชื้อให้ทำผิดซ้ำ ไม่ละเมิด รธน. ไม่รวมความผิดทุจริตอาญาร้ายแรง และ ม.112


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายถึงเหตุผลของการที่พรรคไม่เห็นชอบกับรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่ได้พิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ว่าตนและพรรคทราบกันดีว่ารายงานฉบับนี้เป็นเพียงการเสนอแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และไม่ใช่เป็นการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่แนวทางในรายงานฉบับดังกล่าวจะเป็นหัวเชื้อในการนำไปสู่การตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการประชุม สส.ของพรรค เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ต.ค.) มีมติ 2 ประการคือ สส.ของพรรคไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ และหากที่ประชุมสภาฯ เห็นควรส่งรายงานให้รัฐบาลรับไปพิจารณาดำเนินการก็จะไม่เห็นชอบให้ส่งรายงานฉบับนี้ไปยังรัฐบาล โดยให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าการนิรโทษกรรมนั้นสามารถทำได้ และในอดีตก็เคยทำกันถึง 23 ครั้ง เช่น การนิรโทษกรรมเหตุการณ์วันที่ 4-6 ต.ค. 2519 ในปี 2521 สมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือการนิรโทษกรรมผู้ต่อต้านสงครามญี่ปุ่น แต่มีสิ่งที่ไม่เคยทำและไม่เคยมี คือการนิรโทษกรรมการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และมาตรา 112


ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ให้รายละเอียดว่า มาตรา 110 ตามประมวลกฎหมายอาญา คือความผิดฐานประทุษร้ายต่อพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งกระทำผิดต่อร่างกายหรือเสรีภาพ ส่วนมาตรา 112 คือความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งมาตรา 112 มีไว้เพื่อคุ้มครองประมุข เฉกเช่นอารยประเทศทั่วโลกที่ล้วนแล้วแต่มีกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ระบบประธานาธิบดี หรือพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อาทิ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สเปน เดนมาร์ก หรืออีกหลายประเทศในโลก ล้วนแล้วแต่มีบทคุ้มครององค์ประมุขของประเทศด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะประเทศไทย สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักสำคัญยิ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาว่าทำไมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยจึงไม่เคยมีการนิรโทษกรรมความผิดในมาตรา 110 และมาตรา 112

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังได้อภิปรายถึงแนวทางของการนิรโทษกรรมในอนาคตว่าควรยืนอยู่บนหลักการ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1.ต้องเป็นการนิรโทษกรรมที่นำไปสู่การสร้างความปรองดอง แต่ไม่ใช่สร้างความขัดแย้งแตกแยก เพราะเท่ากับเป็นการนับหนึ่งของการต้องต่อสู้กับแรงเสียดทาน และการนิรโทษกรรมต้องเป็นความเห็นพ้องต้องการของสังคม เพื่อไม่ให้ต้องเกิดความแตกแยกขัดแย้งครั้งใหญ่อีกต่อไปในอนาคต

2.ต้องไม่เป็นการนิรโทษกรรมเพื่อตัวเอง เพราะสุดท้ายจะไปไม่รอด เพราะจะเกิดแรงต้านครั้งใหญ่และนำไปสู่การแตกแยกครั้งใหม่เกิดขึ้น ดังเช่นที่เคยได้รับบทเรียนมาแล้วจากความพยายามที่จะผลักดันนิรโทษกรรมสุดซอยในอดีต ซึ่งสุดท้ายก็ไปไม่รอด


3.ต้องไม่เป็นการสร้างแรงจูงใจ หรือหัวเชื้อให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในอนาคต เพราะจะทำให้คนไม่เกรงกลัวต่อการกระทำความผิด เนื่องจากเมื่อทำผิดแล้วจะได้รับการล้างผิดในที่สุด

4.ต้องไม่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย หรือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือแม้แต่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีผลผูกพันทุกองค์กร ซึ่งรวมตั้งแต่รัฐสภา รัฐบาล และองค์กรอื่นๆ

5.การนิรโทษกรรมต้องไม่รวมความผิด 3 ฐานสำคัญ คือ 1.ต้องไม่รวมความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชัน 2.ต้องไม่รวมความผิดคดีอาญาร้ายแรง 3.ที่สำคัญที่สุดคือต้องไม่รวมความผิดตามมาตรา 110 และมาตรา 112

ภายใต้หลักการดังกล่าวหากจะมีการนิรโทษกรรม นายจุรินทร์ เห็นว่าควรนิรโทษกรรมเฉพาะ “ความผิดอันเกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั่วไป” พร้อมกับยกตัวอย่างดังนี้ การนิรโทษกรรมความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ตามกฎหมายว่าด้วยการจราจร ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.โรคติดต่อ และอื่นๆ ซึ่ง กมธ.วิสามัญเองได้แยกแยะไว้ในรายงานว่ามีความผิดทั้งสิ้น 17 ฐาน ตาม พ.ร.บ. 25 ฉบับ แต่ยังจำเป็นต้องพ่วงหลักการเพิ่มเติมไว้อีกข้อหนึ่ง คือต้องเป็นความเห็นพ้องต้องกันของสังคม เพื่อไม่ให้เกิดแรงเสียดทานที่จะนำไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งอีกต่อไปในอนาคต

นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญอีกประการ คือเหตุผลที่ตนและพรรคไม่เห็นชอบกับรายงานของ กมธ.ฉบับนี้ และไม่เห็นควรส่งรัฐบาล คือ
1.เพราะรายงานของ กมธ.ฉบับนี้ได้รวมแนวทางการนิรโทษกรรม มาตรา 110 และมาตรา 112 เอาไว้ โดยในรายงานได้ระบุไว้ชัดว่าให้พิจารณาเป็น 3 แนวทางในการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เกี่ยวกับมาตรา 110 มาตรา 112 คือ 1.ไม่นิรโทษกรรมเลย 2.นิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข และ 3.นิรโทษกรรมสุดซอย แบบไม่มีเงื่อนไขเพื่อเป็น “ทางเลือก” ซึ่งตนและพรรค เห็นว่าจาก 3 แนวทางดังกล่าว โดยเฉพาะใน 2 แนวทางหลังที่ให้มีการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข และนิรโทษกรรมแบบไม่มีเงื่อนไขนั้นมีความล่อแหลม

2.ข้อความและความเห็นกรรมาธิการที่ระบุไว้ในข้อสังเกต ข้อ 9.1 หน้า 54 ซึ่งข้อสังเกตของ กมธ.นี้ หากส่งถึงรัฐบาล รัฐบาลก็จะรับข้อสังเกตนี้ไปด้วย ซึ่งมีการระบุว่า “คณะรัฐมนตรีคือรัฐบาลควรพิจารณารายงานของ กมธ.วิสามัญ เพื่อนำไปเป็นแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยเร็ว” ซึ่งทำให้จะหมายรวมไปถึง 3 แนวทางในการนิรโทษกรรม มาตรา 110 และมาตรา 112 เข้าไปด้วย และยังต่อท้ายอีกด้วยว่าการดำเนินต้องรายงานให้สภาฯ ทราบ ว่าได้ทำไม่ทำ หรือทำอย่างไร เพื่อให้สภาฯ ได้ติดตามความคืบหน้าได้ต่อไป

“ผลจากรายงานและข้อสังเกตของ กมธ. จะทำให้รัฐบาลหรือกลไกอื่น อาจนำรายงานฉบับนี้ ถ้าผ่านสภาฯ ตลอดจนข้อสังเกตของ กมธ. ไปเป็นสารตั้งต้นในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามความผิดในมาตรา 110 และ 112 ต่อไปได้ และหากสภาฯ เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ สุดท้ายสภาฯ อาจกลายเป็นตราประทับความชอบธรรมในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากการกระทำความผิดตามมาตรา 110 และ 112 ต่อไปในอนาคตได้ ตนและพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ และไม่เห็นควรส่งรัฐบาลรับไปพิจารณา” นายจุรินทร์ กล่าว.319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]