กมธ.คมนาคม เล็งแก้กฎหมายกำหนดอายุรถโดยสารสาธารณะ

รัฐสภา 7 ต.ค.-กมธ.คมนาคม เล็งแก้กฎหมายกำหนดอายุรถโดยสารสาธารณะ และเงื่อนไขการจัดทัศนศึกษาตามเกณฑ์อายุ ชี้ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันเดินหน้าบูรณาการมอนิเตอร์ถี่ยิบ พร้อมเผยประกันจ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียหายแล้ว 90% แต่ยังติดปัญหารถขนผู้โดยสารมากกว่าจำนวนที่ทำประกัน ยันผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ

ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการการคมนาคมเสร็จสิ้น นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระเพื่อพิจารณากรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยผลการประชุมว่า เบื้องต้นได้ให้กรมขนส่งทางบกรายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมาธิการได้มีการตั้งข้อสังเกตและมีการพูดถึงประเด็นในเรื่องของเชื้อเพลิง ที่ต้องมีการกำกับดูแลมาตรฐานให้ตรงตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่แจ้งอีกอย่าง แต่กลับไปติดตั้งเพิ่ม เชิงรุก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการไปติดตั้งถังเพิ่ม และปรับเป็นมาตรการเชิงรุก ซึ่งทางกรมขนส่งทางบกได้มีการเรียกประชุม เพื่อกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด ซึ่งเรา เห็นตรงกันว่าจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสในเรื่องของการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้นลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้น้อยที่สุด


ส่วนประเด็นประตูฉุกเฉินด้านนอก อาจจะต้องไปปรับให้ อยู่ในลักษณะที่บุคคลภายนอกสามารถเข้าไปเปิดได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ซึ่งควรจะลดมาตรฐานความสูงให้เหลือ 1.20 เมตร หรือไม่เกิน 1.50 เมตร เพื่อให้สามารถบุคคลภายนอกสามารถเปิดได้ทันท่วงที

สำหรับการกำหนดอายุการใช้งานของรถ แม้รถบัสจะมีข้อแตกต่างจากรถโดยสาร และรถส่วนบุคคลทั่วไป จะมีในเรื่องของการเปลี่ยนตัวถังใหม่แต่ยังใช้คัสซีเดิม ก็ควรกำหนดว่าคัสซีควรมีอายุการใช้งานเท่าไหร่เปลี่ยนตัวถังได้ไม่เกินกี่ครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบเรื่องนี้รถมีอายุการใช้งานถึง 54 ปี และผ่านการใช้งานมาตลอด สภาพภายนอกอาจจะดูใหม่ แต่อาจจะไม่สอดคล้องกับสภาพอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบก มีมาตรการว่าต่อไปจะมีปฏิบัติการเชิงรุก ออกคำสั่ง ให้รถโดยสารเข้ามาตรวจสภาพ10,000กว่าคันภายใน 60 วัน โดยให้ขนส่งจังหวัดเข้าตรวจสอบรถก่อน เพื่อป้องกันการ ดัดแปลงสภาพหรือการไปถอดถังแก๊ส ซึ่งการถอดถังแก๊สเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะมีร่องรอยอยู่


ส่วนการยกเลิก หรือพักใช้ใบอนุญาตของผู้ประกอบการรายนี้ เพราะสิ่งที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์คือการนำรถไปถอดถังแก๊สที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้งที่ถูกเรียกเข้าไปตรวจสภาพที่ จ.อ่างทอง แต่ยังดีที่ยังมี GPS ที่สามารถติดตามสถานการณ์ได้ทันท่วงที ซึ่งทางกรรมาธิการมองว่าเรื่องนี้ไม่ตรงประเด็นแม้จะมีการปฏิบัติการเชิงรุก แต่ควรจะมีการติดตามกันทุกเดือน เพื่อที่จะดูว่ามีการดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงสภาพอย่างไร

ในเรื่องของสมาคมขนส่งฯ ตอนนี้มีการสอดส่องและมีการตรวจเช็คสภาพกันเอง เพื่อสร้างมาตรฐานว่าถ้าอะไร ไม่ตรงมาตรฐาน ก็คงต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกเพื่อไปตรวจ เพื่อให้เห็นว่าเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

สำหรับศูนย์วิชาการความปลอดภัยเห็นตรงกันว่า ความปลอดภัยซื้อไม่ได้ด้วยราคา ฉะนั้นด้วยงบประมาณที่มีข้อจำกัด ในเรื่องของการว่าจ้างรถ เช่นมาตรฐานของรถ ในการว่าจ้างในระยะ 300 กิโลเมตรไปกลับ คิดค่าบริการที่ 10,000 บาทแต่งบประมาณที่ได้รับมาเพียงแค่ 8,000 บาท ก็ต้องอาจจะลดกันคนละครึ่งเช่นราคานี้อาจจะ ลดระยะทางลงมา และในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ก็ควรที่จะมีการแยกประเภทของ นักเรียนที่จะไปทัศนศึกษา ว่าเด็กอายุเท่าไหร่ควรเดินทางระยะไหนและควรมีการอบรม หรือบรรจุในหลักสูตรการเรียนสำหรับการช่วยเหลือเอาตัวรอดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน


อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ คณะกรรมาธิการคมนาคมจะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคมโดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกัน จึงอยากเห็นแผนบูรณาการร่วมกันว่าต่อไปหากเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นจะมีการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความสูญเสียได้อย่างไร และการบูรณาการภาพรวมว่ามีแผนการพัฒนาการขนส่งอย่างไร เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่ใช่ต่างคนต่างทำ

นายวุฒิชาติ กล่าวว่าข้อเสนอทั้งหมด ของคณะกรรมาธิการจะรวบรวม เสนอ ต่อสภาเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการเสนอญัติด่วนและรวบรวมข้อเสนอจากสว. ไปแล้ว และยืนยันเรื่องนี้คงไม่ปล่อยผ่านเลย โดยจะต้องมีการ Monitor ติดตาม ต่อไปนี้ ตั้งผู้เชี่ยววชาญเลขานุการและผู้ที่จะเข้ามาช่วยงาน จะบูรณาการ ในภาพรวมร่วมกัน ขับเคลื่อนร่วมกันโดยหน่วยงานไหนมีส่วนเกี่ยวข้องอาทิ มูลนิธิต่างๆ กรมการขนส่งทางบก สมาคมผู้ประกอบการจะต้องส่งตัวแทนมาช่วยคณะกรรมาธิการจะได้คุยกันเป็นภาพรวมเลยทีเดียวไม่ใช่ว่าพอเกิดเหตุก็เรียกคนนู้นมาที คนนี้มาที วันนี้เราจะไม่โทษกันเพียงแต่ว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งทางรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกก็รับปากว่า กรณีของการตรวจสภาพรถถ้าเป็นการตรวจทิพย์ ก็คงต้องมีบทลงโทษกับผู้ที่รับผิดชอบ

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นช่องโหว่ทางข้อกฎหมายหรือทางปฏิบัตินั้นนายวุฒิชาติกล่าวว่า ข้อกฎหมายค่อนข้างจะครอบคลุมอย่างน้อย 80-90% แต่ช่องโหว่ของการปฏิบัติต่างหากที่ตนและทุกคนมองตรงกัน ว่าน่าจะเป็นสาเหตุของการไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นทางกรรมาธิการยืนยันจะติดตามและ Monitor เรื่องเหล่านี้โดยจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน ซึ่งในกรรมาธิการได้พูดคุยกันแล้วว่าวันนี้เราจะสร้างมิติใหม่ของการทำงาน โดยจะทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้ได้ข้อสรุปผลการศึกษาออกมา ซึ่งตรงนี้ ถือเป็นบทบัญญัติและธรรมนูญในการทำงานร่วมกัน

เมื่อถามว่าจะให้เวลานานแค่ไหนในการติดตามนั้น นายวุฒิชาติกล่าวว่า อันนี้คงต้องให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ทำงาน ซึ่ง เราอาจจะต้องประเมินและติดตามเป็นระยะๆ และจะแถลงต่อสื่อมวลชน ระยะระยะว่าสิ่งที่เราตามวันนี้อีก 1 เดือนอีก 45 วัน มีความคืบหน้าคืออะไร และการปรับปรุงยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบมีการบูรณาการไปถึงไหน
สำหรับเรื่องการเยียวยา ให้กับผู้ได้รับผลกระทบนั้น นายวุฒิชาติ กล่าวว่า จากการที่สอบถามมาไม่ว่าจะเป็นการทำประกันภาคบังคับหรือภาคสมัครใจ ส่วนใหญ่เป็นไปตามกฎหมายหมดแล้วแต่มีประเด็นว่า ประกันภัยผู้รับผิดชอบนั้นได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการว่า ในรถคันนั้นมีผู้โดยสาร 20 ที่นั่ง แต่ผู้โดยสารมีมากกว่านั้น คงเป็นประเด็นที่ต้องไปติดตามดู ซึ่งเราก็คงยอมไม่ได้ โดยในส่วนที่นอกเหนือความรับผิดชอบของประกันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบที่ผู้ประกอบการต้องรับไป

เมื่อถามว่าที่มีการจ่ายเงินเยียวยาช้า เป็นเพราะเหตุผลข้างต้นใช่หรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ทำประกันภัย กลับทิพยประกันภัยและมิตรแท้ประกันภัยภาคสมัครใจ ภาคบังคับ 90% จ่ายกันไปหมดแล้ว เหลือแต่เฉพาะที่ไม่ลงตัว อันในเรื่องของประกันว่าจำนวนผู้โดยสาร ทั้งหมดกี่คนแล้วจริงๆแล้ว เกิดอุบัติเหตุมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่าที่ทำประกันไว้ ดังนั้นทั้งหมดนี้คงต้องไปดูกันในแง่ของกฎหมาย เพราะการทำประกัน ที่ผู้ประกอบการทำ การแจ้งจำนวนผู้โดยสาร มีผลต่อค่าเบี้ยประกัน

เมื่อถามว่าในที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลหรือไม่ว่า มีการเปลี่ยนสเปครถจากดีเซลมาเป็นก๊าซเมื่อปีไหน นายวุฒิชาติกล่าวว่า เป็นช่วงที่รัฐบาลได้มีการรณรงค์ จากดีเซลมาเป็น NGV ซึ่งขอยืนยันว่าทุกอย่างที่มีการตรวจสอบตามมาตรฐานแล้ว ไม่ได้เกิดอันตรายและก่อให้เกิดความเสียหายถ้าไม่ได้มีการไปดัดแปลง ลงไว้ว่ามีถังแก๊ส 3-4 ถัง แต่ ไปเพิ่มเป็น 11 ถังซึ่งตรงนี้ต่างหากที่ก่อให้เกิดปัญหาความปลอดภัย เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน ที่เกิดขึ้นซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นเมื่อเจอแล้ว ฝากว่ากรมการขนส่งทางบกต้องลงโทษให้หนักต้องยกเลิกใบอนุญาตประกอบการ ซึ่งกรณีเช่นนี้เราปล่อยไว้ไม่ได้แน่นอน

ด้านนายนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวว่รถแต่ละคันมีถังแก๊สได้กี่ถังนั้นขึ้นอยู่กับสมรรถนะรถซึ่ง ในการจดทะเบียนจะมีระบุไว้ว่ารถแต่ฉันละชนิดมีการติดตั้งถังแก๊สได้กี่ถัง ซึ่งหากเป็นสเปคของรถลักษณะนี้จะมีถังแก๊สได้ประมาณ 5-6 ถังเท่านั้น

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ในครั้งนี้นั้นรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า จากวัตถุพยานและจากตัวรถเราพบว่า เอาหักและขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งน่าจะเกิดจากการบรรทุกน้ำหนักเกินแต่ทั้งหมดขอให้รอผลการพิสูจน์หลักฐาน

เมื่อถามว่าตัวท่อที่หลุดออกมาก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นหลุดออกมานานหรือยังรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า ผลการสอบสวนยังไม่ออกมาแต่ตอนนี้ ทางกองพิสูจน์หลักฐานไปเก็บข้อมูลมาหมดแล้ว ได้ตรวจสอบรถทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
และจากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารสอดคล้องกับรถที่จดทะเบียน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]