นายกฯ มั่นใจเงินหมื่นสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่

ทำเนียบ 25 ก.ย.- นายกฯ Kick Off โอนเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-คนพิการ วันแรก มั่นใจจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ ย้ำมีอีกหลายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต ขอวางระบบก่อนต่อเฟส 2-3 เชื่อทำเศรษฐกิจดีขึ้น


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ พร้อมกับบรรดารองนายกฯและรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจมาอย่างเรื้อรังนานหลายปีแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ได้มาจากแค่ปัจจัยภายในประเทศเท่านั้น ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวช้าลงกว่าปกติ และมากไปกว่านั้นยังมีในเรื่องของปัญหาความขัดแย้ง เจอปัญหาอุทกภัยในปีนี้ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ หลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองและไม่สามารถที่จะเพิ่มการลงทุนได้ เราจะเห็นได้ชัดเงินจากระบบของเราหายไป ตอนนี้เงินหมุนเวียนถือว่าแทบจะเป็นสิ่งที่หายาก เงินไม่หมุนเศรษฐกิจฟืดเคือง ทำให้การลงทุนน้อยลง อุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย การลงทุนต่างๆก็น้อยลงอย่างมาก แน่นอนปัญหาที่เกิดขึ้นกลุ่มคนที่รับผลกระทบมากที่สุดนั่นคือกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อย รวมไปถึงผู้พิการ ซึ่งในอนาคตประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจต้องมีความพร้อมต่อการลงทุนและความพร้อมต่ออุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคงและหารายได้อย่างยั่งยืน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายต่างๆที่รัฐบาลเน้นย้ำในการทำงานที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 1ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เราเน้นย้ำในเรื่องของนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพราะทราบว่านั่นคือสิ่งที่จำเป็นจะทำให้ประชาชนสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่และความสุขมีสิ่งที่ดีขึ้นมา ทำให้ชีวิตพัฒนาไปข้างหน้าได้มากขึ้น แต่นโยบายแต่ละนโยบายอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือบางนโยบายต้องใช้เวลาเป็นปี เพื่อที่จะทำให้นโยบายนั้นต่อเนื่อง และเข้าถึงพี่น้องประชาชนจริงๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือความท้าทายของรัฐบาลและต้องใช้ศักยภาพทางการเมืองด้วย เพื่อให้นโยบายนั้นต่อเนื่องพัฒนาถึงมือประชาชนจริงๆ แน่นอนทั้งหมดนี้คือความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ และมีหลายนโยบายที่ได้ออกไปแล้ว เช่น นโยบายพักหนี้เกษตรกร ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติออกไป แล้วและทำเป็นปีที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย และที่เห็นชัดเจนคือการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวผ่านนโยบายฟรีวีซ่า จะเห็นได้ชัดตัวเลขการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา แต่การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มากพอที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศได้

“วันนี้ที่ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ โดยเงินสดจะถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท เป็นการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และแน่นอนเงินก้อนนี้จะสามารถต่อลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้จะถึงมือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน โดยแบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 12.40 ล้านคน และกลุ่มคนพิการจำนวน 2.15 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงินสด 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านช่องทางการรับดอกเบี้ยเดิมของผู้พิการ ไม่ว่าจะเคยผ่านบัญชีธนาคารหรือเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะได้รับเงินในวิธีการเดิม ที่สำคัญเงินจำนวนนี้ไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อถึงเมื่อประชาชนแล้วจะสามารถใช้จ่ายได้ทันที แน่นอนเราจะมีการทยอยโอนเงินเป็นเวลา 4 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็จะครบทั้ง 14.55 ล้านคน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายนี้จะช่วยกระจายโอกาสเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ได้เพิ่มโอกาส สร้างความหวัง และนำคุณภาพชีวิตที่ดีมาให้พี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี อย่างที่เคยได้กล่าวไว้ เงิน 10,000 บาทจำนวนนี้จะสามารถสร้างโอกาสสร้างชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนได้ และรัฐบาลมีความเชื่อมั่นในศักยภาพพี่น้องประชาชนว่าจะมีการใช้เงินนี้อย่างมีประโยชน์ หรือบางครอบครัวที่ได้มากกว่า 1 คนก็สามารถนำเงินหมื่นมารวมกันได้เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างธุรกิจ สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเองและครอบครัวได้ รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนจะสามารถใช้เงินนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่านโยบายนี้เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกมากมายแน่นอน


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนรอคอยและถามถึงรัฐบาลยังคงเดินหน้าเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ เพื่อจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับคนไทยด้วย เพื่อจะได้เป็น Digital ID เป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาลและประชาชน จะทำให้ธุรกรรมต่างๆที่ประชาชนทำเกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น เชื่อมกับรัฐได้ง่ายขึ้น โปร่งใสมากขึ้น ตรวจสอบได้ง่ายมากขึ้น อันนี้เป็นการวางรากฐานตั้งแต่วันนี้ ซึ่งเรากำลังพัฒนาระบบนี้อยู่ อีกหน่อยจะใช้เรื่องของการเยียวยาที่รัฐจะสามารถโอนตรงสู่ประชาชนได้ นี่คือสิ่งที่เราจะวางเศรษฐกิจดิจิทัลเอาไว้เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น และรวดเร็วในการรับค่าเยียวยาต่างๆจากรัฐบาลได้ง่ายขึ้น และประชาชนสามารถติดตามข่าวสารตรวจสอบข้อมูลได้ทุกช่องทางของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งหมดนี้จะเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อจัดสร้างสภาพแวดล้อมที่ได้เอื้อกับชีวิตพี่น้องให้มีความหวังมากขึ้น มีรอยยิ้มมากขึ้น และเป็นการต่อยอดให้พี่น้องได้มีโอกาสในชีวิตเพิ่มมากขึ้น และแน่นอนสร้างความเท่าเทียมในด้านโอกาสและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายนี้และอีกหลายๆนโยบายรัฐบาลที่ฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีเหมือนเดิม ทำให้พี่น้องประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง

จากนั้นได้มีรายงานสดจากประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับการโอนเงินจากโครงการดังกล่าว รายแรกเป็นประชาชนจากจังหวัดเชียงใหม่ นายกฯ ได้สอบถามว่า ได้รับเงินหรือยังและจะนำไปใช้อะไร รัฐบาลดีใจที่ได้มอบเงินให้ ขอให้มีความสุขมากๆ ขณะที่ประชาชนขอบคุณนายกฯ และจะนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนอีกรายเป็นชายผู้พิการจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งนายกฯสอบถามว่าได้รับเงินตอนกี่โมง ประชาชนตอบว่า เวลา 03.15 น. นายกฯ จึงกล่าวกับรัฐมนตรีที่ร่วมงานว่า “ตีสามสิบห้า เลขเด็ดหรือเปล่า” ก่อนจะถามต่อว่าดีใจไหม รัฐบาลก็ดีใจ แล้วจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง เล่าให้ฟังนิดนึง ประชาชนตอบกลับว่า จะเอาไปใช้ซื้อของจำเป็นของคนพิการ พวกแพมเพิส ข้าวสารอาหารแห้ง นายกฯ จึงบอกว่าดีนะ 10,000 บาทซื้อได้เยอะเลย ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง จากนั้นชายผู้พิการได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้ช่วยเหลือ

และรายสุดท้ายเป็นประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งสัญญาณการวิดีโอคอลไม่ค่อยได้ยินเสียง นายกฯ จึงยกนิ้วโป้งขึ้น พร้อมกล่าวว่า ถ้าดีใจให้ยกนิ้วโป้ง ชาวบ้านจึงยกนิ้วโป้งตอบกลับ ก่อนที่นายกฯจะส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมกล่าวว่า ขอให้โชคดี

จากนั้นนายกฯ เดินจากตึกสันติไมตรี ออกทางเชื่อม เพื่อขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยกล่าวว่า ส่วนเฟส 2 และ 3 ที่จะตามมานั้นขอวางระบบก่อน ทั้งนี้ ดีใจ กับประชาชนด้วย และดีใจกับรัฐบาลที่ทำให้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]