“อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นแบบคัดตัวจริงออก

บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 6 ก.ย.- “อ.ยุทธพร” มองภาพการเมืองขณะนี้ เป็นการเมืองแบบคัดตัวจริงออก เข้าสู่การเมืองแบบตัวแทน ซึ่งเป็นไปตามสังคมวัฒนธรรมเอเชีย ชี้ หากใช้ กม.ให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้การเมืองแย่และถดถอย ขณะที่ปมปัญหา ศก. จะเป็นตัววัดอายุของรัฐบาล บอก ปัญหาภายใน พปชร. จะเกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบชัดขึ้น


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์มองภาพทางการเมืองในช่วงนี้ ที่มีการมองว่าเป็นการสืบทอดระบอบชินวัตร ว่า ในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา การเมืองแบบคัดออก คือการคัดตัวจริงออก เพราะมีทั้งเรื่องของการยุบพรรค การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค การตัดสิทธิ์ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเรื่องจริยธรรมทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการคัดตัวออก ทำให้เข้าสู่การเมืองแบบนอมินี หรือการเมืองแบบตัวแทน ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้เป็นพื้นฐานทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย เช่นของเมียนมา อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก สำหรับลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมของเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

”แต่สิ่งที่เป็นปัญหา คือเราพยายามใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง จะทำให้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เรื่องของลักษณะความเป็นตระกูลการเมือง การเมืองแบบเครือข่าย การเมืองแบบทายาททางการเมือง ขึ้นมาทำงานทดแทนการเมืองแบบตัวจริง ท้ายที่สุดหลายคนบอกว่าการคัดกรองแบบนี้ จะทำให้เกิดนักการเมืองที่มีคุณภาพ แต่สุดท้ายผมไม่เห็นแบบนั้น ที่สุดการเมืองแบบคัดออกจะทำให้ภาวะการเมืองแย่และถดถอยลงไปกว่าเดิม” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังประเมินอายุของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะยืดยาวหรือไม่ ว่า อีกหนึ่งปีหลังจากนี้ คือส่วนสำคัญที่จะประเมินและชี้อนาคตของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับประชาชนและปากท้องชีวิตประจำวัน ถ้าหนึ่งปีหลังจากนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น โอกาสที่เราจะเห็นว่า รัฐบาลไปต่อไม่ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้ อยู่ต่ออีก 2 ปี และครบ 3 ปี ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของสภา ตอนนี้คือปัจจัยที่ท้าทายที่สุด คือการขับเคลื่อนของนโยบายต่างๆ ที่ค้างอยู่ ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชาชนเฝ้ารออยู่ เรื่องของซอฟพาวเวอร์ กฎหมายนิรโทษกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ค้างคาอยู่และปัญหาสุดท้ายที่ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือการไปร้องคดีความต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี บทบาทของนายทักษิณชินวัตรและเรื่องของการถือครองหุ้น ก็จะเป็นความเสี่ยงของนางสาวแพทองธารและรัฐบาลชุดนี้เช่นเดียวกัน

นายยุทธพร กล่าวว่า ต้องพิจารณาด้วยว่า การใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะหรือไม่ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็เห็นว่าไม่ควรที่จะต้องไปดำเนินการในเรื่องนี้องค์กรที่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรรับคำร้องในเรื่องนี้เพราะสุดท้ายถ้าการเมืองไม่มีเสถียรภาพ เกิดการเปลี่ยนตัวของผู้เล่นทางการเมือง ทำให้ประชาชน ที่จะได้รับผลกระทบจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพและนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ขาดความเชื่อมั่นสุดท้ายก็จะวนมาสู่ปัญหาปากท้องของประชาชนวันนี้คิดว่าการตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ คือเรื่องที่สำคัญที่สุด เราไม่ปฏิเสธว่าการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ดีและต้องเกิดขึ้นด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระหรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับสาธารณะ ก็ควรจะยุติในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราใช้กฎหมายให้เป็นการเมืองทำให้ประเทศอยู่ในวังวนแบบนี้มาอย่างยาวนาน

“ การเมืองระบบเครือญาติ ถ้าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเอื้อประโยชน์ให้กับเครือญาติ ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ถ้าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ถ้าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดเป็นพิเศษ ก็ต้องถูกตรวจสอบและต้องมีมาตรการในการดำเนินการ ทั้งในทางการเมืองและทางกฎหมายด้วย คิดว่าวันนี้สิ่งสำคัญคือต้องทำให้การเมืองเข้าสู่ระบบปกติ ไม่ได้การเมืองที่บิดเบี้ยว จนกระทั่งท้ายที่สุดแล้ว เมื่อตัวจริงเล่นไม่ได้ ก็ส่งตัวสำรองเข้ามา เมื่อตัวจริงบาดเจ็บจากเกม ก็เปลี่ยนตัวสำรองเข้ามาเล่นแทน ซึ่งตรงนี้จะทำให้การเมืองเกิดปัญหาในระยะยาวมากกว่า” นายยุทธพร กล่าว


นายยุทธพร ยังกล่าวถึงการที่พรรคพลังประชารัฐเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ แทนกลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ยื่นลาออกจากกกรรมการบริหารพรรค ต่อนายทะเบียนพรรค คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยที่ไม่ได้แจ้งกับทางพรรค จะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ว่า การตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรค สามารถดำเนินการได้ โดยแจ้งกับนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่อาจจะเป็นการข้ามขั้นตอนไป เพราะโดยมารยาทควรจะจะต้องมีการแจ้งกับพรรคต้นสังกัดก่อน เมื่อพรรครับทราบแล้วก็จะไปแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่กระบวนการแบบนี้ ก็ไม่ได้มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าจะต้องมีขั้นตอนอย่างไร ดังนั้น การแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคก่อน ก็ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ถือเป็นการเซตซีโร่และหลังจากนี้จะเห็นปรากฎการณ์หนึ่งพรรคสองระบบในพรรคพลังประชารัฐ ที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งก็เป็นฝ่ายค้าน และ สส. อีกส่วนก็จะสนับสนุนรัฐบาลในนามส่วนบุคคล ซึ่งในระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เพราะต้องสร้างสมดุลของทั้งสองส่วน ทั้งการเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง และเป็นตัวแทนของประชาชน

“บางเรื่องกำหนดให้เป็นเอกสิทธิ์ของสส. ในการลงมติอิสระ คือการฟรีโหวต เช่นการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่บางเรื่องก็จะถูกกำกับ โดยมติพรรค ตามกฎหมายพรรคการเมือง ดังนั้นจึงไม่สามารถเทไปในด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์หนึ่งพรรคสองระบบแบบนี้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในการเมืองไทย ในอดีตสมัยพรรคประชากรไทย ย้อนไปประมาณ 30 ปีที่แล้วมีสส.ส่วนหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลของชวน หลีกภัย ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคเวลานั้นไม่พอใจ แสดงความคิดเห็น เปรียบ สส. กลุ่มนั้นเสมือนว่าเป็นงูเห่าในทางการเมือง” นายยุทธพร กล่าว.-315 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]