นักวิชาการ รุมชำแหละอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

ธรรมศาสตร์ 24 ส.ค. – นักวิชาการ รุมชำแหละอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ สร้างปัญหาการเมืองไทยหลายครั้ง ไม่พิทักษ์สิทธิประชาชน ขัดหลักวิชาการ-หลักการศาลรัฐธรรมนูญต่างประเทศ – แนะควรผ่าตัดอำนาจศาลให้เหลือเพียงการวินิจฉัยกฎหมาย/รัฐธรรมนูญ – คืนอำนาจวินิจฉัยคดีการเมืองกลับสภา – เสนอใช้มติสภาล่างเสียงข้างมากพิเศษลงมติเลือกตุลาการ สร้างการยอมรับจากฝ่ายค้าน


นายสมชาย ปรีชาชาศิลปกุล รองศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในงานเสวนาวิชาการเรื่อง “เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ปกครองบ้านเมือง” ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดขึ้น โดยเห็นว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา ทั้งการยุบพรรค และการสั่งนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี เป็นเสมือนสึนามิ ที่กวาดหลักวิชาการ จนทำให้ประชาชนเป็นผู้ประสบภัย โดยศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างปัญหาให้กับการเมืองไทยหลายครั้ง เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ไม่ใช่ปรากฏการณ์เฉพาะหน้า จนนักวิชาการต่างชาติเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็น ตุลาการธิปไตย ทั้งที่แนวคิดในอดีตเห็นว่า ควรให้มีอำนาจตุลาการ หรือตุลาการภิวัฒน์ เข้ามามีบทบาทและแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่ปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญกลับเป็นส่วนขยายของตุลาการ และส่วนราชการมากขึ้น ทั้งที่นักวิชาการคาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้กระบวนการประชาธิปไตยของไทยเดินหน้าต่อไปได้

นายสมชาย ยังเห็นว่า บทบาทศาลรัฐธรรมนูญในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบรุนแรงไม่น้อยกว่าการรัฐประหาร ทั้งการยุบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ทั้งไทยรักไทย พลังประชาชน อนาคตใหม่ และก้าวไกล ซึ่งพรรคต่าง ๆ ที่ถูกยุบ เป็นพรรคที่ได้รับความนิยม และยืนอยู่ตรงข้ามชนชั้นนำ รวมถึงการปลด 4 นายกรัฐมนตรี ซึ่งสะท้อนตุลาการธิปไตย ใช้อำนาจตุลาการอยู่เหนืออำนาจนิติบัญญัติ และบริหาร และในต่างประเทศ ก็เป็นที่ถกเถียงกันว่า เป็นเสียงส่วนน้อยที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่า กระบวนการดังกล่าวสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยหรือไม่ และเมื่อใดที่ชนชั้นนำไม่สามารถเอาชนะได้ในสนามการเลือกตั้ง หลาย ๆ ประเทศ ก็จะใช้อำนาจตุลาการจัดการกับกลุ่มคนที่มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้องค์กรอิสระที่ใช้อำนาจตุลาการ หรือกึ่งตุลาการ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ, กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เข้ามากำกับทิศทางทางการเมืองมากขึ้น จนเจตน์จำนงของประชาชนถูกล้มไปด้วยคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง


นายสมชาย ยังเสนอว่า ควรลดอำนาจตุลาการในการตัดสินประเด็นทางการเมือง ให้การเมือง หรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเฉพาะประเด็นทางกฎหมาย หรือประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พร้อมลดอำนาจผู้พิพากษาอาชีพ และระบบราชการ หยุดให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นส่วนขยายของระบบข้าราชการชั้นสูง และเพิ่มอำนาจประชาชนในการกำกับ และตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่า บทบาทของศาลรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่ได้เป็นการพิทักษ์สิทธิประชาชน พร้อมยังมองว่า ที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่วุฒิสภาชุดที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เป็นผู้สรรหานั้น ยังเป็นปัญหา รวมถึงที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะการตีความรัฐธรรมนูญ จนทำให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญขณะนี้อยู่เหนืออำนาจบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ รวมถึงกระบวนการวินิจฉัย ก็เป็นการลงมติ ไม่ใช่การพิจารณาตามบทบัญญัติของกฎหมาย และยังยังไม่การถ่วงดุลอำนาจศาลรัฐธรรมนูญด้วย

นายปริญญา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคก้าวไกลว่า กระทบต่อสิทธิประชาชนจนจำนวนมาก ทั้งกรรมการบริหารพรรค, สส., และประชาชนที่บริจาคเงินให้กับพรรคฯ จนทำให้เกิดการเสียสิทธิ รวมถึงกระบบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังเป็นปัญหา เพราะมีอำนาจสั่งยุติการไต่สวนได้ ซึ่งในการตัดสินยุบพรรคนั้น ควรเปิดโอกาสให้คู่ความได้โต้ยังกันได้อย่างเต็มที่


นายปริญญา ยังเสนอว่า ให้เปลี่ยนศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นศาลมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และกระบวนการพิจารณาจะต้องเปิดโอกาสให้คู่ความสามารถโต้แย้งได้เต็มที่ และแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 210 ให้ศาลยึดถือมาตรา 188 คือ พิจารณาคดีโดยอิสระ รับผิดชอบ เป็นธรรม ปราศจากอคติ ตรวจสอบได้ ยึดถือรัฐธรรมนูญและอยู่ภายใต้กฎหมายในการวินิจฉัย พร้อมแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 72 และ 75 ให้หารือข้อกฎหมายให้ได้ข้อยุติ แทนการลงมติคำวินิจฉัย รวมถึงแก้ไขมาตรา 58 ให้กระบวนการพิจารณาศาลให้ผู้ถูกร้องได้โต้แย้งข้อกล่าวหาด้วยหลักฐานได้อย่างเต็มที่ จึงสนับสนุนให้ทุกพรรคการเมืองเสนอแก้ไข เพราะทุกพรรคการเมือง มีสิทธิถูกยุบได้ รวมถึงเสนอให้การสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลังจากนี้ จะต้องเคร่งครัดเรื่องอิสระ เป็นธรรม ปราศจากอคติ

นายณรงค์เดช สรุโฆษิต รองศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงหลักการยุบพรรคการเมืองในต่างประเทศ อาทิ เยอรมัน ที่เคยสั่งยุบพรรค 2 พรรคได้แก่ พรรคนาซีใหม่ และพรรคคอมมิวนิสต์ ที่พรรคการเมือง จะไม่ถูกยุบพรรคโดยไม่ยึดคุณค่าประชาธิปไตย สามารถคิดว่า อุดมการณ์อื่นดีกว่าได้ ยกเว้นมีการกระทำ ทัศนคติที่จะทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ ซึ่งพรรคนาซีใหม่มีอุดมการณ์นาซี ปฏิเสธรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน ได้พิจารณาถึงความเป็นปฏิบัติ จะต้องมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น และพรรคนาซีใหม่ยังห่างไกลที่จะเกิดขึ้นได้ เแต่มีการใช้กำลัง สร้างบรรยากาศแห่งความกลัว หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง จึงเป็นปัจจัยให้ยุบพรรคได้ รวมถึงเยอมันยังมีการแก้รัฐธรรมนูญ ที่นอกเหนืออำนาจยุบพรรคการเมืองแล้ว ยังมีอำนาจสั่งงดให้เงินอุดหนุนแก่พรรคการเมืองได้ และผู้ที่บริจาคเงินให้ก็ไม่สามารถนำไปลดภาษีได้ รวมถึงในยุโรป ที่จะมีการยุบพรรคการต่อเมื่อมีการยั่วยุ เลือกปฏิบัติจากการเลือกนับถือศาสนา และการนำหลักศาสนามาใช้ รวมถึงมีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ความเกลียดชัง หรือขู่เข็ญให้เกิดการนองเลือด ปฏิบัติการก่อการร้ายเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ และรักษาไว้ซึ่งอำนาจ, เกาหลีใต้เคยมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เชื่อในทฤษฎีคอมมิวนิสต์ และศรัทธาในคิม อิลซุง หวังให้เกาหลีใต้ และเกาหลีเหนือรวมตัวกัน โดยถือแนวทางของเกาหลีเหนือ เปลี่ยนผ่านสังคมสู่คอมมิวนิสต์ ทำให้คนเกาหลีใต้เชื่อในแนวทางของเกาหลีเหนือ รวมถึงแกนนำพรรคยังมีการวางแผน เมื่อเกาหลีเหนือบุกเมื่อใด ให้มีการทำลายระบบสาธารณูปโภค สุดท้ายแกนนำพรรคดังกล่าวติดคุก ดังนั้น จึงสะท้อนว่า การยุบพรรคในต่างประเทศ เป็นเพราะการสนับสนุนความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมากกว่า

นายณรงค์เดช ยังเห็นความจำเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อมีระบบกลไกตรวจสอบกฎหมาย ไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ที่มาของตุลาการ อำนาจหน้าที่ยังมีปัญหา จึงควรพิจารณาปรับอำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งการยุบพรรค และการวินิจฉัยคุณสมบัติ-จริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายต่อพงศ์ กิตติยานุพงศ์ รองศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่า บทบาทศาลรัฐธรรมนูญไทยในปัจจุบัน ได้พัฒนาตนเองไปเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง ไม่ได้เป็นคนกลางชี้ขาดข้อพิพาททางการเมืองในฐานะคนกลาง หรือ กรรมการ ไม่สามารถสร้างพลังแห่งเหตุผลผ่านคำวินิจฉัยได้ และการใช้อำนาจปกป้องตนเองของรัฐธรรมนูญด้วยการยุบพรรคการเมือง ถือเป็นอำนาจเผด็จการ เพราะสังคมประชาธิปไตย ไม่ควรอ้างหลักการประชาธิปไตย ที่ไปห้ำหั่นทางการเมืองคู่ตรงข้าม ถือเป็นการใช้อำนาจเผด็จการเพื่อปกป้องประชาธิปไตย พร้อมเห็นว่าคำวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง

นายต่อพงศ์ ยังมีข้อสังเกตว่า ศาลรัฐธรรมนูญพยายามอธิบายหลักการปกครองพื้นฐานของไทยที่ศาลฯ อยากเห็น จนนำไปสู่การตีความ ขยายความ และส่งผลกระมบต่อระบบกฎหมายไทยอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันทุกองค์กร และพยายามอธิบายหลักการพื้นฐานใหม่ของระบอบการปกครองของประเทศ

นายต่อพงศ์ ยังกล่าวถึงความจำเป็นของการมีศาลรัฐธรรมนูญให้มีประสิทธิภาพว่า ต้องจะต้องฉันทามติร่วมกันก่อน ซึ่งแม้รัฐธรรมนูญ 2540 จะกำหนดให้มีศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่เคยมีฉันทามติร่วมกันของคนในสังคม และกลไกการใช้งานในแต่ละประเทศจะประสบความสำเร็จหรือไม่ โดยมีรัฐธรรมนูญที่ชอบธรรม มีตุลาการฯ ที่ยึดโยงประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งบางประเทศมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงมติ พร้อมเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ควรเปิดการสำรวจความนิยมจากประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า ส่วนตัวยังสนับสนุนศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องมีอำนาจจำกัด สามารถรับเรื่องร้องทุกข์ได้ และตัดอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดคดีการเมือง

นายสุทธิชัย งานชื่นสุวรรณ ผู้ช่วยศาตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลับสงขลานครินทร์ เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังควรมี แต่คืนอำนาจทางการเมือง ทั้งการยุบพรรคการเมือง และวินิจฉัยจริยธรรมนักการเมืองให้สภาเป็นผู้พิจารณา และเหลือเพียงอำนาจการวินิจฉัยไม่ให้กฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ และรับเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึงที่มาของตุลาการฯ จะต้องสะท้อนความรู้ความสามารถในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และอาจจะต้องใช้เสียงข้างมากพิเศษในการลงมติเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เช่น 2 ใน 3 หรือ 3 ใน 4 ซึ่งจะให้ดีให้สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ลงมติให้ความเห็นชอบ เพื่อให้ได้การยอมรับจากฝ่ายค้านด้วย

นายมุนินทร์ พงศาปาน รองศาสตราจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังย้ำความไม่จำเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะระบบศาลรัฐธรรมนูญ เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุดต่อรัฐธรรมนูญ และระบบนิติรัฐ เพื่อให้มีระบบรัฐสภา และเจตจำนงของประชาชนที่เข้มแข็ง จนกว่าประเทศไทยจะมีระบอบการเมืองที่เข้มแข็งเหมือนเยอรมนี พร้อมยังเห็นว่าปัจจุบันขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง และกระบวนการพิจารณาคดีก็ยังไม่ชัดเจน และยังสิ้นสุดที่คำวินิจฉัยของตุลาการ ไม่สามารถต่อสู้ในศาลชั้นอื่นได้ แต่หากจำเป็นจะต้องมี ก็ควรต้องปรับขอบเขตอำนาจให้จำกัดที่สุด และไม่ควรมีช่องให้เกิดการร้องทุกข์ของประชาชน เพราะส่วนตัวยังเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมปกติ ทั้งศาลปกครอง และศาลยุติธรรม โดยให้เหลือเพียงอำนาจการวินิจฉัยกฎหมาย บนเงื่อนไขที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ และนิติรัฐเท่านั้น.-319 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]