อนุ กมธ.ปลาหมอคางดำ เดือด! กรมประมงไม่มีเอกสารแจงผลสำรวจความเสียหาย

รัฐสภา ​8 ส.ค. – อนุ กมธ.ปลาหมอคางดำ เดือด “กรมประมง” ไม่มีเอกสารชี้แจงผลสำรวจความเสียหายเกษตรกร ขณะที่สถาบันการศึกษามีตัวเลขชัด มองไม่คิดจะฟ้องร้องแทนประชาชน ทำไปก็ไม่ได้ใช้ ด้าน “ณัฐชา” เผยหลัง 15 ส.ค. สรุปผลแล้วจะแถลงต่อสังคม


การประชุมคณะอนุกรรมธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ครั้งที่ 9 โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองประธานอนุ กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม

ก่อนการประชุม นายณัฐชา ระบุว่า วันนี้มีการเชิญหน่วยงานที่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายมาร่วมให้ข้อมูล ทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจไปแล้วอย่างน้อยตำบลละ 100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเราจะทำให้ภาครัฐได้รับรู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างแค่ไหน และหาแนวทางดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นในการช่วยเหลือประชาชน


นายณัฐชา ยอมรับว่า จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐถึงสาเหตุการระบาดของปลาหมอคางดำ แต่ยืนยันว่ากระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติจะทำให้ชัดเจน คาดว่าจะแถลงสรุปผลการทำงานได้ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะส่งสรุปเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีที่ควรต้องเอาผิดต้นตอ ผู้ก่อเรื่อง หรือผู้มีส่วนร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้มารับผิดชอบในส่วนนี้ ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐจะไปดำเนินการต่อหรือไม่ ทางอนุกรรมาธิการไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้ แต่ยืนยันว่าจะสรุปผลออกมาทั้งหมดแล้วให้ประชาชนตัดสินใจ

สำหรับบรรยากาศในห้องประชุม ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเครื่องมือด้านการประเมินผลตอบแทนทางสังคม วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอผลสำรวจการระบาดของสัตว์น้ำต่างถิ่น ปลาหมอคางดำ กับความสูญเสียทางเศรษฐกิจด้านการประมงของ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งพบปรากฏการณ์การระบาดของปลาหมอคางดำ ในปี 2562 แต่จากการสรุปพบว่าในปี 2559 สร้างความเสียหายต่อรายได้ประมงของชุมชนลดลง 5%, ปี 2560 สร้างความความเสียหายต่อรายได้ประมงของชุมชนลดลง 10%, ปี 2561 สร้างความเสียหายต่อรายได้ประมงในชุมชนลดลง 15% (ปัจจุบันคาดการณ์ความเสียหายต่อรายได้ไม่ต่ำกว่า 90% โดยอ้างอิงความเสียหายจากสื่อในพื้นที่)

ขณะที่ผู้แทนทางกรมประมง ชี้แจงว่าตั้งแต่ปี 2560 มีสำรวจผลความเสียหายของเกษตรกร โดยสำรวจกว่า 500 ฟาร์มจาก 3 อำเภอ จ.สมุทรสงคราม เสียหายประมาณ 150-350 ล้านบาทต่อปี แต่นายณัฐชา บอกว่าถ้าศึกษาข้อมูลมาตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้ก็ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรมประมงทำอะไรอยู่ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ที่สำคัญผลสำรวจที่ชี้แจงวันนี้ เมื่อขอดูเอกสารก็ไม่มี ไม่ได้เอามา แล้วจะให้ทำอย่างไร


นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ประธานอนุ กมธ.ฯ ซึ่งเข้ามาประชุมทีหลัง กล่าวต่อผู้แทนกรมประมงที่มาชี้แจงวันนี้ว่า เมื่อมาชี้แจงแต่ไม่มีเอกสารมา ควรเชิญออกจากห้องประชุมดีหรือไม่ หรือให้โทรไปแจ้งที่หน่วยงานให้ส่งแฟกซ์ข้อมูลมา การประชุมกินภาษีของชาวบ้าน แต่มาแล้วไม่พร้อม เสียเวลา จะเสียชื่ออธิบดีด้วย ตนอุตส่าห์เคยชมไปตั้งเยอะ

หลังจบการประชุม นายณัฐชา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้เน้นการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องการฟ้องดำเนินคดีมีสภาทนายความมาร่วมสังเกตการณ์ และดำเนินการเพื่อที่จะเป็นตัวแทนประชาชนในการฟ้องร้อง ซึ่งในหลายจังหวัดก็เริ่มแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือถ้าเรื่องขึ้นสู่ศาลจะต้องมีตัวเลขมูลค่าความเสียหาย แต่หน่วยงานรัฐอย่างกรมประมง กลับไม่รอบคอบ ไม่มีการวิเคราะห์หรือพิจารณามูลค่าความเสียหายของเกษตรกรแม้แต่ครั้งเดียว แต่มีสิ่งที่เรียกว่าคล้ายรายงานประเมินความเสียหาย คือรายงานการประชุมขออนุมัติวงเงิน 11.4 ล้านบาท เมื่อปี 2561 เพื่อไปช่วยเหลือเกษตรกร ด้วยการรับซื้อปลาหมอคางดำ กิโลกรัมละ 20 บาท ในขณะนั้น โดยระบุความเสียหายราวปีละ 150-350 บาท ซึ่งถือเป็นเพียงข้อสรุปที่ประเมินจากเกษตรกร แต่ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ก็รู้สึกเสียใจ เพราะกรมประมงเกี่ยวข้องโดยตรง และต้องสู้แทนเกษตรกร แต่การต่อสู้ครั้งนี้กลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่เต็มที่

ในขณะที่หน่วยงานวิจัยอย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ประเมินความเสียหายย้อนหลังเอาไว้ราวปีละ 130 ล้านบาท จากปัญหาใน 1 ตำบลเท่านั้น ขณะนี้มูลค่าความเสียหายจนถึงปัจจุบันแพร่กระจายไป 17 จังหวัด 40 อำเภอ มีเกษตรกรที่ลงทะเบียนเดือดร้อนกว่า 40,000 ราย แต่กรมประมงไม่เคยประเมินมูลค่าความเสียหาย จากนี้ต้องขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยประเมินมูลค่าความเสียหาย เพราะในอนาคตอันใกล้ต้องใช้ข้อมูลนี้ในเรื่องคดีความอย่างแน่นอน

“มีแต่การสำรวจและสอบถามเกษตรกรในเบื้องต้น แต่ไม่มีใครหยิบประเด็นเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก อาจเป็นเพราะไม่ได้คิดจะฟ้องร้องเอกชน ดังนั้น มูลค่าความเสียหายตรงนี้ไม่รู้ว่าดำเนินการไปแล้วจะเอาไปใช้ในส่วนไหน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลนี้ก็ได้” นายณัฐชา ​กล่าว​

สำหรับการประชุมของอนุ กมธ.ฯ ถือว่าครบทุกมิติ เพราะเราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ได้สืบหาข้อเท็จจริงทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ส่วน กมธ.ชุดใหญ่ มีการเชิญบริษัทเอกชนต่างๆ เข้าชี้แจง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะสรุปหลังจากวันที่ 15 ส.ค. 67 แล้วจะประกาศให้ประชาชนทราบอีกที เพื่อให้ข้อสงสัยได้รับความกระจ่าง ส่วนสิ่งไหนที่ไม่ได้รับข้อมูล เพื่อให้มีคำถามในสังคม และเกิดแรงกดดันว่าจะเปิดหรือไม่เปิดข้อมูล

“ตอนนี้เราขยับไปไกลกว่ากระทรวงเกษตรฯ เราต้องการเป็นตัวแทนประชาชน แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะผู้ปกป้องพิทักษ์ผลประโยชน์สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศของประเทศ กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อจากนั้น หรือแม้การประเมินมูลค่าความเสียหาย อยากฝากข้อมูลไปถึง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ รมว.เกษตรฯ ด้วย ที่สำคัญขอให้เอกชนแจ้งจุดรับซื้อปลาหมคางดำ 2 ล้านกิโลกรัม ให้ชัดเจนด้วย เพราะประชาชนรู้แค่ 75 จุดรับซื้อของภาครัฐ แต่ต้องใช้เอกสารหลาดอย่าง จึงอาจหันไปขายเอกชนแทน แต่ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ขอให้ความกระจ่างตรงนี้ด้วย เพราะประชาชนฝากแจ้งมา” นายณัฐชา กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]