ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ รับมือ “ลานีญา”

อยุธยา 10 ก.ค.- “รองนายกฯ ภูมิธรรม” บูรณาการหน่วยงาน ร่วมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ พร้อมรับมือ “ลานีญา” ป้องกันอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน มั่นใจการบริหารจัดการน้ำมีเอกภาพ ลดผลกระทบน้ำท่วมให้เหลือน้อยที่สุด


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความพร้อมมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 พร้อมด้วย นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยช่วงเช้าลงพื้นที่ตรวจสอบแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ วัดไชยวัฒนาราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา

หลังจากนั้นร่วมรับฟังการเตรียมความพร้อมของแผนเผชิญเหตุ ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน และในช่วงบ่าย เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 ณ ห้องประชุมแพรวา ชั้น 2 สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) อำเภอบางไทร โดยมี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 24 หน่วยงาน นักวิชาการ คณะกรรมการลุ่มน้ำ ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม และเครือข่ายภาคประชาชน เข้าร่วม รวมกว่า 200 คน


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามประเมินสภาพอากาศปีนี้ พบว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะลานีญา ส่งผลให้มีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยได้กำหนด 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเน้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรและเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ รวมถึงการประสานความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำ และประสานการช่วยเหลือประชาชน เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งสามารถเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที

“ในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้มาติดตามการฝึกซ้อมแผนการรับมืออุทกภัย จึงได้กำชับให้ สทนช. ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในปีนี้อย่างมีเอกภาพ นอกจากนี้รัฐบาลได้เตรียมแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ภาคกลาง ดำเนินการติดตามสถานการณ์น้ำและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างใกล้ชิด และให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อใช้ในการวางแผนการเตรียมการรับมือล่วงหน้า สำหรับช่วงวันที่ 16-17 กรกฎาคมนี้ ตามที่ได้มีการคาดการณ์ว่าอาจมีปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงได้มอบหมายให้ สทนช. นำรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุไปเตรียมการตั้งศูนย์ส่วนหน้าเพื่อรับมือสถานการณ์ ณ จังหวัดระยอง หรือพื้นที่ใกล้เคียง ในส่วนโครงการที่ได้รับงบประมาณในช่วงที่ผ่านมา ให้เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน 2567 ในการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัย สทนช. ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามวิเคราะห์และกำหนดพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากดินถล่มและพื้นที่ที่ฝนทิ้งช่วงอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลหลักสำหรับดำเนินการบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยตามมาตรการอื่นๆ ในส่วนมาตรการที่ได้เตรียมการล่วงหน้า รัฐบาลได้เร่งรัดดำเนินการตั้งแต่ช่วงก่อนฤดูฝนและยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงสิ้นฤดูฝน เช่น การทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ การตรวจสอบพร้อมติดตามความมั่นคงปลอดภัยคันกั้นน้ำในพื้นที่เสี่ยง และผลการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมรับมือในช่วงฤดูแล้ง จึงได้มีมาตรการเร่งพัฒนาและเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำทุกประเภท สำหรับใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้า ส่วนการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายภาคประชาชนและการเผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้กำชับให้ สทนช. ติดตามประเมินผลและรายงานให้รัฐบาลรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ฤดูฝนปีนี้เป็นปีที่สามารถลดผลกระทบกับประชาชนให้ได้มากที่สุด


ด้าน เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุและการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ในวันนี้เป็นไปตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในมาตรการที่ 6 การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ มาตรการที่ 8 การสร้างความเข้มเข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลสถานการณ์ และมาตรการที่ 9 การสร้างการรับรู้ ศูนย์บริการข้อมูลสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์ ซึ่ง สทนช. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 24 หน่วยงาน นักวิชาการ คณะกรรมการลุ่มน้ำ ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม และเครือข่ายภาคประชาชน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าและสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 โดยในปีนี้ ได้เชิญนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 แห่ง คือ 1.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 2.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) 3.นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง (สหรัตนนคร) 4.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และ 5.นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์วังน้อย เข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้ชื่อว่าเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของประเทศ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งมีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อีกทั้งมีโรงงานอุตสาหกรรมรวมกันมากกว่า 2,600 โรงงาน โดยตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 5 แห่ง รวมจำนวน 595 โรงงาน และตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมอีกกว่า 2,000 โรงงาน นอกจากนี้ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างยังเป็นพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ มีการเพาะปลูกพืชในเขตชลประทานกว่า 9.6 ล้านไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวมีมากกว่า 8 ล้านไร่ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจะส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ดังนั้นการวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะต้องวางแผนให้ครอบคลุมและรัดกุมในทุกๆ ด้าน ซึ่งการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุก่อนที่จะเผชิญกับสถานการณ์จริง จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีเป้าหมายในการซักซ้อมการปฏิบัติงานให้สามารถติดตาม ประเมินผลการบริหารจัดการและคาดการณ์สถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถแจ้งเตือนได้อย่างตรงจุดและให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบได้อย่างมีเอกภาพและทันต่อสถานการณ์ .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]