“สว.วรพงษ์” ค้านหัวชนฝา “สมรสเท่าเทียม” ชี้กดเพศ “ชายหญิง”

รัฐสภา 18 มิ.ย.-“สว.วรพงษ์” ค้านหัวชนฝา แสดงจุดยืนต้าน “สมรสเท่าเทียม” ขอเปลี่ยนนิยามกลับมาเป็น “ชายหญิง” แทน “บุคคล” แทบทุกมาตรา อ้างจะสะเทือนสถาบันครอบครัว ถามเพื่อน สว.ไม่เอะใจบ้างหรือ ซัดจะเป็นการ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ครอบครัว มองแก้กฎหมายแบบนี้ เป็นการกดเพศ “ชายหญิง” ลงไปอยู่กับกลุ่ม LGBTQ

การประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ที่มีพลเอกสิงห์ศึก สิงไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (สมรสเท่าเทียม) ซึ่งผ่านการพิจารณาในชั้น สส. และคณะกรรมาธิการวิสามัญ วุฒิสภาพิจารณาเสร็จแล้ว จำนวน 69 มาตรา


นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ รายงานผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ ว่า ได้ศึกษา เปรียบเทียบร่างกฎหมายอย่างรอบคอบ ได้ตั้งประเด็นข้อสังเกตในชั้นกรรมาธิการ ได้พิจารณาดูรายชื่อกฎหมาย สิทธิ หน้าที่ของคำว่าสามีภรรยา นอกจากนี้ยังได้พิจารณาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยร่างฉบับนี้มีทั้งสิ้น 69 มาตรา ไม่มีการแก้ไข ไม่มีกรรมาธิการสงวนความเห็น แต่มีการตั้งข้อสังเกตที่สำคัญมาก และมี สว. แปรญัตติ จำนวน 3 คน มีผู้สงวนคำแปรญัตติ 2 คน

จากนั้นเป็นการพิจารณารายมาตรา โดยมาตราที่ 2 ที่กำหนดให้กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ซึ่งพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ไม่เห็นด้วยและขอแปรญัตติ ได้อภิปรายว่า เรามีการโต้เถียงกันมาตลอด ตนตั้งคำถามว่าทำไมถึงประกาศไม่ให้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปหลังจากประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และถ้าเราไปดูเนื้อใน ไม่มีกฎหมายลูกมารองรับ เพื่อให้ฝ่ายบริหารนำไปปฏิบัติ ในการร่างกฏหมายควรจะให้สภาหรือวุฒิสภาได้รับรู้ถึงกฎหมายลูกด้วย


“ท่านมักจะตีกินอยู่เรื่อย แล้วให้ออกเช็คเปล่าให้เขาไป ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี เป็นไปตามที่อธิบดีไปออกประกาศกำหนด ไปออกระเบียบข้อบังคับ เขาไม่เคยให้พวกเราได้ดูเลยครับท่านประธาน ผมจึงอยากเรียกร้อง เชื้อเชิญ ขอความเห็นใจ เมตตาปราณีกับน้องๆที่เขารอกฎหมายฉบับนี้มานาน ขอให้มันเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ ถ้าได้จะเป็นอนุโมทนาหรือคุณูปการอย่างสูงเลยครับ” พลตำรวจโทศานิตย์ กล่าว

ขณะที่นายจิตรพรต พัฒนสิน กรรมาธิการ ชี้แจงว่า การกำหนดวันใช้บังคับของกฎหมาย บางบริบทขึ้นอยู่กับกฎหมายรอง การเตรียมการของหน่วยงานราชการส่วนต่างๆ เพื่อรองรับการบังคับใช้ของกฎหมาย จริงอยู่ที่กฎหมายนี้ไม่มีกฎหมายรอง แต่ในทางปฏิบัติ เช่น การจดทะเบียนครอบครัว ก็มีกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีการปรับแก้จากให้บังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเป็นเวลา 120 วัน

พลตำรวจโทศานิตย์ ลุกขึ้นกล่าวต่อว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เปลี่ยนแค่ถ้อยคำเท่านั้น ตนรู้สึกอึดอัดใจกับคำตอบของผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้เลย


“ไปถามคนนั้นมา คนนี้มา ผมก็ถาม ไม่รู้ว่าไปถามคนไหน ท่านก็อ้างไปเรื่อยหรือเปล่าไม่ทราบ ผมไม่ได้เจตนาให้ร้าย การที่จะเร็วกว่า 5 วัน เดือนหนึ่ง น่าจะเป็นคุณูประการต่อคนที่เขารอคอย ถ้าสัญญาว่าจะให้แล้วขอผลัดไปอีก 4 เดือน ท่านเมตตาได้หรือไม่ มันจะเป็นต้องศึกษาอะไรมากมาย ท่านไม่ต้องไปซักซ้อมทำความเข้าใจอะไรเลย ก็เรียนด้วยความเคารพว่ากฎหมายบ้านเรามันเป็นอย่างนี้ ไม่มีเหตุไม่มีผลอะไรเลย แล้วก็อ้างนู่นนี่นั่น” พลตำรวจโทศานิตย์ กล่าว

ทำให้นางสาวปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม กรรมาธิการ ลุกขึ้นชี้แจงว่า การประกาศใช้เร็วเป็นความต้องการของภาคประชาชนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ฝั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐควรจะต้องมีความพร้อมด้วย นอกจากบุคลากรแล้วยังต้องมีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ด้วย ไม่ใช่แค่กระดาษที่จะพิมพ์ แต่รวมถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพราะต้องมีระบบฐานข้อมูล กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีผลกระทบแค่กรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย แต่เป็นทั่วประเทศและทุกกระทรวง เรามองเรื่องความพร้อมสำคัญ ดังนั้นจึงมองว่า 120 วันนั้นเพียงพอ

ท้ายที่สุด ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยตามกรรมมาธิการ ด้วยคะแนนเสียง 137 คน ไม่เห็นด้วย 9 คน งดออกเสียง 2 คน ไม่ลงคะแนน 1 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจาก สว.ส่วนใหญ่ เห็นพ้องเหมือนคณะกรรมาธิการ โดยมีสมาชิกอภิปราย 1-2 คนในแต่ละมาตรา ซึ่งหนึ่งในคนที่เป็นที่สังเกตคือ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร เป็น สว.ที่ขอสงวนคำแปรญญัตติแทบทุกมาตรา โดยพยายามเปลี่ยนนิยามของคำ เช่น คำว่าคู่สมรส เปลี่ยนเป็นสามีภรรยาหรือคู่สมรส, คำว่าบุคคล เปลี่ยนเป็นชายและหญิง หรือผู้หมั้น

โดยในที่ประชุม พลเอกวรพงษ์ ย้ำว่าตนไม่เห็นด้วยกับวิธีการและหลักการในการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ การเอาคำว่าสามีภรรยา เพศชาย เพศหญิงออกไป และใช้คำอื่นมาแทน เช่น คู่สมรสอคู่หมั้น ซึ่งไม่ได้ระบุเพศที่ชัดเจนมาแทน โดยอ้างว่าเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม การแก้ไขแบบนี้ตนถือว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันครอบครัวอย่างรุนแรงที่สุด เพราะสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันที่สำคัญของสังคมไทย และอยู่ในสภาพที่เปราะบาง การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สถาบันครอบครัวพังทะลายลงเร็วขึ้น

“ถ้าถามว่าครอบครัวประกอบด้วยใครบ้าง ถามเด็ก ถามใคร ถามผู้ใหญ่ ถามที่โรงเรียน เาก็จะบอกว่าประกอบด้วยพ่อแม่ลูกพ่อคือผู้ชายแม่คือผู้หญิงหรืออาจจะบอกว่าประกอบด้วยสามีภรรยาและบุตรสามีคือผู้ชายภรรยาคือผู้หญิง บุตรก็ว่าไป คำพวกนี้ เขามีความหมาย และระบุเพศไว้ชัดเจนว่าเพศอะไร เพศกำเนิด ที่สำคัญคือคำว่าสามีภรรยาจะปรากฏอยู่ในกฎหมายฉบับนี้เป็นที่แรก เพราะเกิดจากการสมรส ถ้าเอาออกไปจะหายไปจากสารบบภาษาไทย จะสะเทือนถึงสถาบันครอบครัว ไปถึงเรื่องเพศชายเพศหญิง” พลเอกวรพงษ์ กล่าว

พลเอกวรพงษ์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขตรงนี้จะบานปลายต่อไปอีก เพราะฉะนั้นต้องคิดให้ดี ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ตนจึงบอกว่าการแก้กฎหมายแบบนี้ไม่ได้เป็นการยกระดับ LGBTQ ขึ้นมาให้เท่าเทียมกับเพศชายเพศหญิง แต่เป็นการกดเพศชายเพศหญิงลงไปให้เข้ากับ LGBTQ จะทำให้ภาพเบลอไม่ชัด

“LGBTQ ก็จะไปเรียกร้องให้แก้แบบเรียน มหาดไทยต่างๆ เพื่อให้เข้าไปในกลุ่มของท่าน ทะเบียนสมรสก็ออกแบบใหม่อีกแล้ว ไม่มีผู้ชายชื่ออะไร ผู้หญิงชื่ออะไร ผมติดใจการแก้ไขกฎหมาย ทำไมท่านถึงไม่เอะใจ ว่ากฎหมายฉบับนี้จะก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง” พลเอกวรพงษ์ กล่าว

พลเอกวรพงษ์ ระบุว่าการแก้ไขกฎหมายแบบนี้ได้ 10 เสีย 90 สังคมสภาพครอบครัวถูกเซาะกร่อนทำลาย ถ้าไม่ตั้งใจก็ถือว่าดี แต่ถ้าตั้งใจก็ถือว่าแย่มาก ตนขอให้พอ ยังกลับตัวทัน พร้อมขอให้เพื่อนสมาชิกฟังตนอธิบายด้วยความรอบคอบก่อนที่จะลงมติ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]