“สว.สมชาย” จี้ กกต. เร่งสอบ ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 4 มิ.ย.-“สว.สมชาย” ขู่ ฮั้วเลือก สว. ติดคุกยกแผงแน่ แนะรีบสารภาพ ได้กันตัวเป็นพยาน จี้ กกต. เร่งสอบ หลังพบหลายจังหวัดส่อเค้าเกณฑ์เลือก บอก 149 คนแค่ภูเขาน้ำแข็ง พบต้นเหตุใหญ่คือกฎหมายลูกเปิดช่องไม่ต้องเลือกตัวเองได้

นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิ มนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล “โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.” และมีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คนว่า โพยที่เกิดขึ้นมาจากแหล่งข้อมูลดิบ ที่ตนคิดว่า ทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือก สว. เพื่ออยากให้ได้ สว.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพ ทั้ง 20 กลุ่มด้วยความซื่อสัตย์เที่ยงธรรม และสุจริตตามที่ กกต.ต้องการ มาแทน สว.ชุดตนจะได้หมดห่วง และเป็นรูปแบบใหม่ของ สว.ที่เลือกกันเอง ซึ่งตนได้ข้อมูลติดตามและจะนำเข้าหารือในที่ประชุมกรรมาธิการวันนี้ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการติดตาม ให้ได้ สว.ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ใช่มาจากการฮั้ว ประเด็นเรื่องโพยนี้ได้ถูกส่งไปตามกลุ่มต่างๆ ทั้งที่ตน ในโซเชียลรวมถึงกลุ่มสื่อมวลชน เป็นประเด็นต่อเนื่องที่มีการร้องกันตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ต่างอาชีพกำหนดกลุ่มผิด เช่นกลุ่มทำนาเกลือแต่ไปอยู่ในกลุ่มทำนาข้าว ว่าคนเหล่านั้นมีประสบการณ์ 10 ปีจริงหรือไม่ และยังมีอาชีพอื่นเช่น เด็กปั๊ม มาสมัครตัวแทนด้านพลังงาน หรือ อสม. ที่อบรม 12 ชั่วโมงแต่มาสมัครกลุ่มแพทย์ ที่ใช้เวลาเรียนถึง 6 ปี ซึ่งหากได้รับเลือกเข้ามา จะทำหน้าที่ต่างจากอาชีพจริงหรือไม่ และตนยังได้รับรายงานจากบางพื้นที่ว่ามีการสมัครในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำ โดยใช้คุณสมบัติว่าเป็นกรรมการบริหารน้ำหมู่บ้าน ซึ่งทำให้มีการยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นเช่นนี้ รปภ. ที่ประจำอยู่ที่ศาล สามารถสมัคร เป็นตัวแทนในกลุ่มนักกฎหมายได้หรือไม่ ตนจริงต้องออกมาทักว่ากติกาเหล่านี้ เกิดจากรัฐธรรมนูญด้วยการเลือกสว. ที่เพิ่งตรวจเจอ ว่ามีมาตราที่เป็นปัญหา ที่ทำให้ สามารถจัดคนมาลง เกิดการฮั้วและบล็อกโหวตได้ คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก สว. มาตรา 40 41 และ 42 (3) ที่ เขียนบอกให้ผู้เลือกในระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ เลือกตนเองก็ได้ นั่นหมายความว่าไม่เลือกก็ได้ ซึ่งเป็นการ เปิดช่องให้คนที่รับจ้างเข้ามาสามารถเลือกคนอื่นได้หมด ถือเป็นการผิดเจตนารมณ์ ที่ไม่ได้เปิดให้สมัครมาเป็นผู้โหวต แต่ให้สมัครมาเป็น สว. และการที่มารณรงค์บอกว่าผู้มาสมัครกว่า 48,000 คนน้อยไป ตนคิดว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์ เพราะจะเท่ากับเป็นการเกณฑ์คนมาเลือก และก่อนหน้านี้ยังมีการรณรงค์ 1 ครอบครัว 1 คนส่งมา ยอมสละคนละ 2,500 บาทเพื่อมาเป็นผู้โหวต สว. ซึ่งไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหน เขียนให้มาเป็นผู้ สว. และส่วนตัวเคยทักท้วงหลายเดือนแล้วแต่กกต.ไม่เคยหยุด ออกมายับยั้ง จนทำให้มีผู้สมัครสว.บางคนบอกว่ายอมจ่ายเงิน เพื่อต้องการมาเลือก สว.ที่ดี


นายสมชาย เห็นว่า การกำหนดกลุ่มอาชีพต่างๆที่วางไว้ดีแล้วแต่เห็นความผิดเพี้ยน ในรายละเอียดของคุณสมบัติ ที่ตนได้รับข้อมูลมาค่อนข้างมาก เช่น มีผู้สมัครเป็นผู้นำกลุ่มสตรี อย่างน้อย 2 กลุ่ม อยู่คนละจังหวัดแต่งกายเหมือนกัน ภาพถ่ายร้านเดียวกัน แล้วยังมีกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงไก่ ที่พบว่าไปถ่ายรูปจากร้านเดียวกัน แต่อยู่คนละพื้นที่ ซึ่งหากกกตไปตรวจสอบอาจเจอข้อพิรุธในลักษณะนี้ ที่มีคนส่งมาให้ตนนับพันเรื่อง ดังนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ กกต.ระดับอำเภอจะต้องคัดกรอง ไม่ควรปล่อยให้สมัครเข้ามา เพราะการที่ผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่า ตัวเองไม่มีคุณสมบัติ แล้วโกหกรับจ้างเข้ามา ลงสมัครมีโทษ จำคุก 1-10 ปีปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิ์การเลือกตั้งตลอด 20 ปี รวมถึงผู้ให้การรับรองคุณสมบัติ

นายสมชาย ยังกล่าว ว่าขณะนี้พบ ข้อมูลว่ามีผู้สมัครบางส่วน รับรองกันเอง โดยมีภาพของการขนคนทั้งหมู่บ้าน โดยฝ่ายที่มีผลประโยชน์ จะมาฮั้วมาบล็อกโหวต ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะ กฎหมายมีการเปิดช่องให้ทำได้ และถ้าพฤติกรรมเหล่านี้ผ่านการเลือกระดับอำเภอมาสู่ระดับจังหวัด แล้วจะมีช่องสู่ระดับประเทศ เพราะไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้ ซึ่งในจังหวัดที่พบว่ามีข้อพิรุธคือ สมุทรสาคร เพชรบุรี สระบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สตูล สงขลา ซึ่งมีการร้องเรียนแต่ยังไม่เห็น ปฏิกิริยากกต. ว่ามีการตรวจสอบ


ส่วนที่เลขาธิการ กกต.ระบุว่าต้องตรวจสอบว่าหากใครไม่ได้เลือกตัวเอง ถือว่าเข้าข่ายฮั้วนายสมชายกล่าวว่า จะตรวจสอบได้อย่างไรเพราะเป็นการลงคะแนนรับ อยากรู้ก็แสดงว่าไม่ลับ และถือว่าผิดกฎหมายเพราะไปเปิดเผยผลการลงคะแนน และกฎหมายยังเปิดช่อง ให้เลือกคนอื่นได้ด้วย

“โดยสรุป 149 คน เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาขบวนการทั้งหมด ผมไม่เคยระบุและไม่เคยสนใจชื่อ บุคคลเหล่านั้น และไม่ตรวจด้วยว่าท่านเป็นใคร ข้อมูลนั้นจะตรงหรือไม่ตรง จะเป็นการเช็คทางสถิติ หรือเป็นการฮั้วหรือไม่ ผมตั้งคำถามให้กกต.ได้ตอบว่าท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง ว่ามันมีข้อบกพร่อง ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. หรือระเบียบของกกต. หรือมีการจัด ฮั้วหรือบล็อคโหวตจริงหรือไม่ และฝากสื่อมวลชนทำหน้าที่แทนประชาชนตรวจสอบการเลือกสว.ครั้งนี้ และขอให้กกตทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ละเอียด เชื่อว่าหาข่าวได้อยู่แล้ว” นายสมชาย กล่าว

นายสมชายกล่าวว่านอกเหนือจากประเด็น 149 คนที่ต้องไปตรวจสอบ ยังมีประเด็น เรื่องที่นักวิชาการได้คำนวณ สถิติ สัดส่วน การลงสมัคร ว่า 53% จากจำนวนผู้สมัคร กว่า 48,000 คน หรือจำนวน ประมาณ 25,000 คน มาจากการรับจ้างลงสมัคร ซึ่งหากพบว่าเป็นเช่นนั้นจริงจะเข้าข่ายความผิด มีโทษถึงจำคุก ซึ่งมีข้อมูลที่ชัดเจนแล้วว่ามีหนุ่มนครศรีธรรมราชคนหนึ่งรับสารภาพ กับ กกต.ในพื้นที่ ซึ่งทางกฎหมาย สามารถกันเป็นพยานได้ แล้วต้องขอต่อไปโดยใช้อำนาจมาตรา 77 ใช้ความผิดมูลฐานวงเล็บ 1 ในเรื่องการให้จัดให้ให้ทรัพย์สิน หรือจ้างและสาวถึงตัวบงการ เพราะสารภาพว่าถูกการเมืองท้องถิ่นให้ไปสมัคร ซึ่งใช้พ.ร.บ.ฟอกเงินได้ โดยส่งเรื่องให้เลขาป.ป.ง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ถ้าพบว่าผิดต้องดำเนินการ และ กกต. ควรทำหน้าที่ ให้ครบถ้วนอย่าเร่งให้มีสวเพียงอย่างเดียว แล้วมาเกิดปัญหาในภายหลัง


ส่วนที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.มองว่าอาจมีการล้มกระดาน ในการเลือก สว. ครั้งนี้ นายสมชาย ย้อนว่า “เรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของผม” พร้อมระบุส่วนตัวเชื่ออีกอย่างหนึ่ง ว่าการที่ ตรวจสอบจะทำให้การเลือกสว. เป็นไปอย่างถูกต้องและไม่ล้ม แต่ถ้าปล่อยไป ให้การเลือกไปถึงขั้นสุดท้ายระดับประเทศ ตนไม่ทราบว่าใครได้รับประโยชน์ เพราะความผิดจะสำเร็จไปเรื่อยๆ และมีผู้ร่วม กระทำผิดสองหมื่นกว่าคน ต่างกรรมต่างวาระ เพราะรับจ้างตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เวลารับโทษ ก็ต้องนับโทษ ตามกรรมตามวาระ หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านเป็นเหยื่อการเมือง ดังนั้นจึงฝากไปยังพี่น้องประชาชน ใครที่ไปรับจ้าง มาลงสมัคร เพื่อเลือก สว. คิดว่าเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย ติดคุกแน่นอน ซึ่งกรรมาธิการทุกคณะและสื่อมวลชนต่างคอยติดตาม เมื่อถึงตรงนั้นใครก็ช่วยไม่ได้ ฝ่ายการเมืองก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นขอให้แจ้งไปยัง กกต. ในพื้นที่ กกต. กลางหรือสื่อ โดยให้ กกต. ใช้มาตรา 65 กันไว้เป็นพยาน และให้กกต.ตรวจสอบเพื่อให้ผลออกมาได้ สว.ที่มีคุณภาพ ตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดว่าจะไปยื้ออะไร เพราะทำได้ไม่เยอะ แต่ขอให้ทำอย่างถูกต้องดีกว่า.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]