“ก้าวไกล” เปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ ’67 พร้อมข้อเสนอถึงรัฐบาล

เชียงใหม่ 10 พ.ค. – “ก้าวไกล” เปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ ’67 พร้อมข้อเสนอถึงรัฐบาล ยก 4 องค์ประกอบจำเป็นแก้ไฟป่า อาสาสมัคร-เทคโนโลยี-งบประมาณเพียงพอทั่วถึง-มาตรการกฎหมายทันกาล “พิธา” ยินดีหากรัฐบาลนำไปใช้ แนะควรมีโรดแมปป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย


วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ที่ SOL Bar จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล, เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center, ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8, ฐากูร ยะแสง สส.เชียงราย เขต 3, อรพรรณ จันตาเรือง สส.เชียงใหม่ เขต 6 และ วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน เขต 1 ร่วมแถลง “เปิดรายงานก้าวไกล สถานการณ์ไฟป่า-ฝุ่นพิษ’67 และข้อเสนอต่อรัฐบาล” เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ดับไฟป่า แถลงผลการดำเนินงาน และข้อเสนอเชิงนโยบาย

พิธากล่าวว่า วันนี้เป็นการมาตามงาน แม้สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นพิษจะดูเบาบางลง ฟ้าใสมากขึ้น แต่จะมีอะไรเป็นหลักประกันว่าปีหน้าจะไม่แย่กว่าปีนี้ พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำงานเพียงเพราะปัญหานี้อยู่ในกระแสข่าว พอหมดกระแสก็เลิกทำ ที่ผ่านมาเราได้ตั้งคำถามกับรัฐบาลว่ารู้อยู่แล้วว่าปัญหาต้องเกิดขึ้น แล้วจะปล่อยให้ประชาชนทรมานไปทุกปีได้อย่างไร รัฐบาลควรมีโรดแมปเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ต้องมีโรดแมปเพื่อเอาไว้เปรียบเทียบเช่นกัน และยินดีถ้ารัฐบาลนำข้อเสนอของเราไปใช้เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่วันนี้กลายเป็นทั้งปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาสาธารณสุข เราหวังว่าการแถลงวันนี้จะเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง


หลังจากนั้น เดชรัตเปิดรายงานสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นพิษปี 2567 กล่าวว่า โดยรวมแล้วปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในปีนี้ยังรุนแรงหลายพื้นที่ นอกจากกรุงเทพฯ และภาคเหนือตอนบน ยังลามไปภาคเหนือตอนล่าง ที่เริ่มได้รับผลกระทบยาวนานมากขึ้น และภาคอีสาน เช่น หนองคาย อุบลราชธานี โดยขณะนี้มีภาคเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบคือภาคใต้

สำหรับภาคเหนือ มีหลายจังหวัดที่สถานการณ์รุนแรงกว่า จ.เชียงใหม่ ซึ่งมักได้รับความสนใจจากรัฐและสื่อมวลชนอยู่แล้ว เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงราย ลำปาง ยกตัวอย่างพื้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นพิษเกิน 4 เท่าของค่ามาตรฐานหรือ 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากข้อมูลตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ถึง 30 เมษายน 2567 เช่น แม่ฮ่องสอน อ.เมือง มีวันที่เป็นสีม่วงถึง 14 วัน เชียงราย อ.แม่สาย 12 วัน อ.เชียงของ 8 วัน เป็นต้น

ความจริงแล้วตามเกณฑ์ของรัฐบาล ถ้าสีม่วงติดกัน 5 วันต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ แต่ปีนี้แม้มีพื้นที่ที่เข้าข่ายแต่กลับไม่มีการประกาศแต่อย่างใด จึงสังเกตได้ว่าพื้นที่ที่มีความรุนแรงมักติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้แม้ในช่วงเวลาที่ฝั่งประเทศไทยแทบไม่มีจุดความร้อน แต่เชียงรายก็ยังเป็นสีม่วง ค่อนข้างชัดเจนว่าเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยทำเฉพาะภายในประเทศ จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน ที่ก้าวไกลยื่นเข้าสภาฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ


เดชรัตกล่าวต่อว่า สรุปปัญหาในปีนี้ยังหนักและกระจายหลายพื้นที่ บางพื้นที่ที่รัฐบาลดูแล ความรุนแรงอาจลดลง แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้รับการดูแล จึงอยากให้มีการดูแลที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้พรรคก้าวไกลพบว่าเมื่อเทียบ 3 มาตรการที่ต่างกัน คือ (1) การห้ามเผา ถ้าดูแลได้ดีก็ให้ผลดี แต่ต้องระวังว่าจะทำให้จุดความร้อนเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนและหลังช่วงเวลาห้ามเผา (2) การชิงเผา มักถูกมองในแง่การจัดการเชื้อเพลิง แต่มีเรื่องที่ต้องระวังคือ บางช่วงการชิงเผาไปเกิดใกล้ช่วงที่มีฝุ่นเยอะ สุดท้ายจึงไม่ได้ลดปริมาณฝุ่น และบางครั้งอาจทำให้เกิดการลุกลาม รวมถึงถ้าทำบ่อยๆ อาจทำให้ความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ลดลง (3) การทำแนวกันไฟ เรามองว่าคือแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะจะช่วยตีวงการเผาให้อยู่ในขอบเขตที่เล็ก ควบคุมได้ เดินทางเข้าไปง่าย แต่ปัญหาที่เราเจอในช่วงที่ผ่านมาคือมีการเริ่มต้นทำช้า ปีหน้าต้องทำให้เร็วขึ้น จำกัดวงของไฟให้เล็กที่สุด

นอกจากนี้ สส. ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานในพื้นที่ เช่น วิทวิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับ จ.ลำพูน สถิติการเกิดจุดความร้อนอยู่ในพื้นที่เขตป่า 2,546 จุด นอกเขตป่า 274 จุด อุปกรณ์ที่จำเป็นมากเช่นโดรน วิทยุสื่อสาร เครื่องเป่าลม สำหรับพื้นที่ที่เกิดไฟป่าแบ่งเป็น 3 จุด คือไฟใต้ดิน ไฟผิวดิน และไฟเล็มยอด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีป่าไผ่และเถาวัลย์จำนวนมาก ทำให้เกิดไฟป่าที่มีความสูงและเป็นอันตราย ไม่สามารถที่จะเข้าดับไฟได้ ทั้งนี้ข้อสังเกตระหว่างการทำงาน คือเนินธรรมชาติเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำแนวกันไฟมีประสิทธิภาพ

หลังจากนี้ จ.ลำพูน จะเดินหน้าทำงานต่อ แบ่งเป็น 7 ส่วนคือ (1) เลือกพื้นที่เป้าหมายและสำรวจเส้นทาง (2) ทำแคมเปญรับบริจาค (3) รับสมัครอาสาสมัคร (4) ทำแนวกันไฟอย่างมีประสิทธิภาพ (5) ส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาป่า (6) การจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีอื่นๆ เป็นการใช้กลยุทธ์ย่อยสลายใบไม้ และ (7) ตั้งศูนย์อำนวยการเฝ้าระวังไฟป่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน

ด้านภัทรพงษ์กล่าวถึงความล่าช้าในการจัดการปัญหา PM 2.5 ทั้งในและนอกประเทศ ว่าปัญหาอย่างแรกคือการขาดแคลนงบประมาณ เช่นงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 จัดออกมาไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหา นายกฯ บอกว่าจะใช้งบกลาง แต่จนถึงวันนี้ มีการจัดสรรน้อยมากและล่าช้า ทั้งที่ถ้ารัฐบาลเห็นปัญหาอยู่แล้ว งบกลางไม่จำเป็นต้องมารอในเดือนมีนาคม ควรทำได้เร็วกว่านั้น จึงสะท้อนว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้

ปัญหาต่อมาคือการจัดซื้ออุปกรณ์ ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่าซื้ออะไรได้หรือไม่ได้ ที่ซื้อได้เช่นถุงมือดับไฟ ถังฉีดน้ำ หน้ากากป้องกันควัน แต่ห้ามจัดซื้อครุภัณฑ์ เช่น เครื่องเป่าลม ทั้งที่บางอุทยานมีแค่ 4 เครื่องแต่ต้องรับผิดชอบพื้นที่เป็นแสนไร่ แสดงให้เห็นว่ารัฐไม่เข้าใจสภาพปัญหาหน้างานและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ให้เงินท้องถิ่นแต่กลับกำหนดกรอบทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ภัทรพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นพิษไม่มีพรมแดน พรรคก้าวไกลได้เสนอแนะมาตลอดเรื่องประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปลอดภาษี เราเสนอไว้ชัดเจนว่าประกาศต้องมีอะไรบ้าง เช่น แปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผู้นำเข้าต้องระบุละติจูดลองจิจูดว่ามาจากที่ไหน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลดาวเทียมมาตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีที่มาจากการเผาหรือไม่ และเรายังเสนอว่าสามารถห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวได้ ทำได้ทันที ไม่ต้องกฎหมายอากาศสะอาด แต่ทุกอย่างกลับถูกรัฐบาลเพิกเฉยอย่างน่าผิดหวัง ดังนั้นปีนี้ เราหวังว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในประกาศนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 68 หวังว่ารัฐบาลจะนำสิ่งที่พรรคก้าวไกลสะท้อนไปแก้ไข

ช่วงท้ายเดชรัตสรุปว่า บทเรียนที่พรรคก้าวไกลได้รับจากปี 2567 สิ่งที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาไฟป่าประกอบด้วย 4 อย่าง หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วทันการณ์ คือ (1) อาสาสมัคร เป็นหัวใจสำคัญที่สุด ต้องมีทักษะ ความรู้ ความชำนาญ และสวัสดิการ (2) อุปกรณ์เทคโนโลยี (3) งบประมาณต้องกระจายทั่วถึงทุกจุดที่มีปัญหาและมีความเพียงพอ และ (4) มาตรการและกฎหมายต้องออกมาอย่างทันการณ์

ส่วนสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้การรับมือไฟป่าฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2568 มีประสิทธิผลเพียงพอ ประกอบด้วย (1) Economy of Scale คือทำให้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวน ต้องมีแรงจูงใจที่เพิ่มขึ้นสำหรับเกษตรกรที่ไม่เผา (2) Economy of Scope ทำในทุกมิติและหารือทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง เช่น การดูแลฝุ่นพิษข้ามพรมแดน และ (3) Economy of Speed ทำให้รวดเร็วยิ่งขึ้น งบประมาณเร็วขึ้น กำหนดมาตรการเร็วขึ้น . – 312 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]