เฉพาะ เม.ย. จับโกงออนไลน์กว่า 6 พันราย

ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ค.-รมต.ดีอี นำทีมหน่วยงานเกี่ยวข้องแถลงความคืบหน้าการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 30 วัน เฉพาะเดือน เม.ย.จับกุม ผู้กระทำความผิดกว่า 6 พันราย เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดือน มี.ค. เล็งออก พ.ร.ก.คืนเงินผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงออนไลน์


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นาย วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการและรักษาการเลขาธิการกสทช. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และพล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายประเสริฐ กล่าวว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินการเร่งด่วน และต้องรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายใน 30 วัน ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ เพื่อดำเนินงาน โดยในเดือนเมษายน สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดคดีออนไลน์ทุกประเภทได้ 6,624 ราย เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า จากช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 67  เว็บพนันออนไลน์ มีการจับกุม 3,667 คน เพิ่มขึ้น 3.1 เท่า การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า 366 คน เพิ่มขึ้น 1.9 เท่า การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ผิดกฎหมาย ทุกประเทศ 16,158 รายการ เพิ่มขึ้น 18 เท่าจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


“ปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6,515 รายการ เพิ่มขึ้น 38.8 เท่า มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้าเร่งอายัดเงินและตัดตอนการโอนเงินเดือนเมษายน สามารถระงับบัญชีม้า 7 แสนบัญชี  โดยธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี ศูนย์ aoc ระงับ 101,375 บัญชี และสำนักงาน ป.ป.ง. ปิดบัญชีไปแล้ว 325,586 บัญชี นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย กำหนดเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่เพื่อป้องกันการนำเอาบัญชีเหล่านั้นไปกระทำความผิดเพิ่มเติม ส่วนการระงับซิมม้า และจึงต้องสงสัย ดำเนินการไปแล้ว 800,000 หมายเลข ระงับการโทรออกหมายเลขโทรศัพท์ที่ตรวจสอบเพราะว่ามีการโทรออก 100 ครั้งต่อวัน 36,641 เลขหมาย ส่วนเสาโทรคมนาคม สายโทรศัพท์ และสายอินเทอร์เน็ตที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กสทช. ร่วมกับ DSI สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหม กวาดล้างและอบรมกำลังพลฝ่ายทหารให้กองทัพเข้าไปตรวจสอบได้ตามแนวชายแดนต่าง ๆ” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เฝ้าระวังชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายประธานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ความสำคัญกับจังหวะที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก  ประสานความร่วมมือกับต่างประเทศในการปราบปรามจับกุม โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ประสานเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งอาชญากรรมด้านอื่นๆ โดยในการประชุม ครม. ที่ผ่านมา(7 พ.ค.) นายกรัฐมนตรี สั่งการเพิ่มเติมให้ดำเนินการต่อเนื่องในทุกประเด็น

“ส่วนการเร่งรัดคืนเงินผู้เสียหาย ได้มอบหมายให้ศูนย์ AOC ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook X tiktok LINE ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้บริการด้านการเงิน จะต้องมีมาตรการเพิ่มความรับผิดชอบกรณีผู้กระทำผิดใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นช่องทางในการหลอกลวงประชาชน หากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันให้เพียงพอ จะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย ดังนั้นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการป้องกันความเสียหาย อาจจะต้องประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเฉพาะเจาะจง เพราะการหลอกลวงการลงทุนมีสถิติที่สุด รวมทั้งการหลอกให้หารายได้ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะต้องเริ่มทำความเข้าใจกับประชาชน”  นายประเสริฐ กล่าว


ด้านปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านต่างประเทศ ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์เป็นปัญหาทั่วกันในประเทศอาเซียน และจากการ ประชุมรัฐมนตรีดิจิทัลอาเซียน และตั้งคณะทำงานเพื่อจัดการปัญหานี้ และประเทศไทยเป็นประธานคณะทำงานนี้  พร้อมได้กำหนดแผนงานที่ทำให้สามารถรู้ถึงกลไก การหลอกลวง วิธีการป้องกันปัญหา ทำให้การจัดการด้านอาเซียนเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น  ส่วนศูนย์AOC ซึ่งทำหน้าที่รับข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามา  ซึ่งสามารถทำการอายัด บัญชีหลังได้รับแจ้ง สามารถอายัดได้โดยใช้เวลาไม่นาน  แต่สิ่งที่ได้ยกระดับ คือ ทำให้ศูนย์ AOC เป็นฐานข้อมูลกลางของตำรวจและธนาคาร และจะมีการนำระบบ ai เข้ามา เพื่อจะหาสาเหตุ เช่น ธนาคารไหนปล่อยให้มีบัญชีม้าเกินความจำเป็น และได้ตั้งทีมงานด้านกฎหมายขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการหลอกลวงในโซเซียล การเปิดบัญชีม้า เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลในการโอนเงิน สามารถชี้ว่าความเสียหายเกิดจากใครได้บ้าง สำหรับอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา ภายใต้คณะกรรรมการ พรก. จะเน้นหนักเรื่องการคืนเงิน และได้มีการพูดคุยกับ ปปง. ว่า กฎหมายของปปง.อาจมีข้อจำกัด จึงจะทราบระบบที่สามารถที่จะทำให้ชี้ได้ว่าใครเป็นผู้เสียหายจากเม็ดเงินใด ซึ่งจะลดระยะเวลาในการคืนเงินของ ปปง.ได้ และการระงับยับยั้ง การโอนเงินผ่านระบบคริปโต ได้กำหนดแนวทางชัดเจนว่าจะแก้กฎหมาย

ขณะที่ พล.ต.ท.วรวัจน์ กล่าวว่า เรื่องของการจับกุม เราได้จับกุมไปกว่า 6,600 ราย ถือเป็นปริมาณที่สูง โดยแยกเป็นการจับกุมและการยึดทรัพย์ ซึ่งต้องร่วมมือกันกับ ปปง. ออกคำสั่งยึดอายัติทรัพย์ ช่วงที่ผ่านมายึดทรัพย์ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนเว็บพนันออนไลน์จับกุมได้กว่า 3,600 ราย ยึดทรัพย์ 528 ล้านบาท โดยเฉพาะหวยรายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการยึดทรัพย์ เจตนาของหน่วยงานราชการต้องการจับตัวการใหญ่ ได้มีการสั่งการทุกหน่วยให้มีการจับกุมให้ถึงต้นตอเครือข่าย

“สิ่งที่สำคัญศูนย์คือการยึดทรัพย์และเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ซึ่งทางปปง. เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการนี้ ทั้งนี้ ต่อไปทุกหน่วยของทุกกองบัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติในภาพรวมเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ส่วนการออกหมายจับเรื่องการหลอกลวงออนไลน์มีมากกว่า 5,000 หมาย และหมายแดงที่ผู้กระทำความผิดหลบหนีอยู่ต่างประเทศ จะระดมกวาดล้างทั้งหมด และร่วมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุ โดยเฉพาะเสาสัญญาณรอบตะเข็บชายแดน และให้ทุกหน่วยระดมปิดกั้นทุกช่องทาง” พล.ต.ท.วรวัจน์ กล่าว

สำหรับการเร่งรัดคืนเงินเยียวยาผู้เสียหาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า ปปง.มีระบบ SR 03 เมื่อผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งรายชื่อบัญชีม้าหรือผู้กระทำความผิดมาให้ปปง. ประกาศ ซึ่งประกาศไปแล้วกว่า 32,000 รายชื่อ ปิดบัญชีกว่า 300,000 บัญชี วันนี้เงินของคนร้ายอยู่ในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ เรามีข้อจำกัดในด้านกฎหมายเพราะกฎหมายฟอกเงินต้องให้ศาลสั่ง และคดีถึงที่สุด  เพื่อที่จะคืนเงินให้กับผู้ที่เสียหายได้  ซึ่งเร็วที่สุดคือสามปี

รองเลขาธิการปปง. กล่าวว่า จะยกร่างกฎหมาย เพื่ออนุญาตให้นำเงินที่ ปปง.อายัติกลับมาคืนผู้เสียหายให้เร็วขึ้น หลังจากนี้ ในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เราจะรับบัญชีมาจากศูนย์AOC เพื่อประกาศให้ธนาคารทราบและจำกัดธุรกรรม ทุกทาง ตั้งเป้าจะประกาศเดือนละ 15,000 รายชื่อ ซึ่งจากข้อมูลที่มี ค่าเฉลี่ยบัญีม้า 1 คน ประมาณ 9.77 บัญชี และจะปิดบัญชีม้าให้ได้ 100,000 บัญชีต่อเดือน  พร้อมฝากประชาชนที่อยากนำบัญชีไปขาย ถ้านำไปขายแล้วนอกจากจะถูกตำรวจดำเนินคดี และจะถูกปปง.ประกาศว่าเป็นบุคคลที่ที่มีความเสี่ยงสูงและธนาคารจะไม่ทำธุรกรรมเป็นเวลาสามปี

“ขออย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อยและไปขายบัญชี ขอบคุณกระทรวงดีอีที่เห็นความสำคัญ และสนับสนุนแก้ไขกฎหมาย เพื่อที่จะนำเงินที่ยึดมาได้  ให้ประชาชนได้รับเงินคืนไวขึ้น  ส่วนผู้เสียหายที่แจ้งความแล้วให้เก็บหลักฐานไว้ เมื่อแก้กฎหมายเสร็จ รัฐบาลจะประกาศให้ทราบ และนำข้อมูลนี้มาสรุปคัดแยก จะทำให้ได้รู้ว่าจะได้เงินจากคดีไหน เป็นจำนวนเงินเท่าไร เพื่อให้ทุกคนได้รับการเยียวยาเท่าเทียมกัน” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า เรื่องเสาสัญญาณตามแนวตะเข็บชายแดนให้มีการส่งรายงานว่ามีกี่เสาที่หันหน้าออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีกำหนดให้รื้อถอน พร้อมจะขึ้นไปรื้อบางเสา รวมถึงการลากสายอินเตอร์เน็ต ที่อาจจะมีคนไม่หวังดีไปเช่าบ้านและเปิดสัญญานอินเตอร์เข้ามา 

ส่วนการออกกฎหมายเพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหาย รัฐจะออกเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) หรือพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) หรือกฎกระทรวง รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ตามกฎหมายของ ปปง.พนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องทำสำนวนผ่านมติคณะกรรมการธุรกรรม ยื่นไปยังอัยการ เพื่อฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อรอคดีถึงที่สุด หากคู่ความไม่เห็นด้วยก็จะมีการอุทธรณ์ โดยทั่วไปใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ซึ่งเห็นว่าหากเป็นเช่นนั้นจะนานเกินไป และจะเป็นกฎหมายใดก็ได้ที่ปปง.สนับสนุนได้ ซึ่งการคืนเงินควรอยู่ในหลักเดือน หากพิสูจน์ได้ว่าผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน อาจจะมีคณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบรายงานศาล หากไม่มีใครขัดแย้งก็ให้คืนเงินผู้เสียหายได้เลย ปัจจุบันหลังสามารถดำเนินคดีได้ ทำให้เงินจากกลุ่มบัญชีม้าที่ยึดเงินเพิ่มขึ้น หากนำเงินตรงนี้คืนผู้เสียหายได้ ก็ควรจะกระทำให้ไวที่สุด

ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่าจากการหารือเบื้องต้น เห็นว่าหากออกเป็น พรก. สามารถดำเนินการได้เร็วกว่า  และคืนเงินให้กับประชาชนได้เร็ว.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]