ประธาน กกต. จับสลากปล่อยแถวผู้ตรวจเลือกตั้ง 423 คน

กกต. 8 พ.ค.-“อิทธิพร” ประธาน กกต. จับสลากปล่อยแถวผู้ตรวจเลือกตั้ง 423 คน ลงพื้นที่สกัดทุจริตเลือก สว. ยันกฎหมายทำให้ฮั้วได้ยาก เผยรับฟังทุกความเห็น คนไม่เห็นด้วยกับระเบียบแนะนำตัว เตรียมเข้าที่ประชุมสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานในการจับสลากเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด จำนวน 423 คน จากบัญชีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ 602 คน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ใน 77 จังหวัด 928 อำเภอ โดยเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 28 และ 30 ที่กำหนดให้ในการเลือกตั้งสว.แต่ละครั้ง กกต.ต้องแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งจากบัญชีรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 8 คน โดยวิธีการจับสลากแบ่งเป็น 2 คนจะต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดที่จะแต่งตั้งและที่เหลือเป็นคนต่างภูมิลำเนา


นายอิทธิพร กล่าวว่า การจับสลากเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เพื่อรองรับพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. โดยในช่วงนี้จะมีการอบรมผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำภูมิภาคต่างๆโดยสัปดาห์ที่แล้วได้ไปพูดคุยกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยได้ย้ำถึงหน้าที่ต่างๆเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยขอให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อไปคุยกับเครือข่าย กกต.ในพื้นที่ ซึ่งได้แก่กรรมการศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยประจำตำบล โดยบุคลากรเหล่านี้ก็จะสามารถช่วยผู้ตรวจการเลือกตั้งในการปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งในหมู่บ้านไม่ขายเสียง ซึ่งเรามี 10,000 กว่าแห่งทั่วประเทศ เข้ามาช่วยสอดส่องดูแล นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกันกับ 4 ประสานต้านทุจริต ประกอบด้วยผู้ตรวจการเลือกตั้ง เจ้าที่รัฐ ประชาชน และกกต. นอกจากนี้ยังมีองค์กรเอกชนร่วมสนใจเข้ามาช่วยเหลือตรวจสอบการเลือกด้วย ซึ่งการร่วมกันทำงานก็จะช่วยในการป้องกันการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายได้

“ตอนนี้ก็พร้อมทั้งงบประมาณ บุคลากร และเอกสาร โดยเอกสารล่าสุดที่ทำเสร็จแล้วก็คือระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครสว. ที่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งระเบียบดังกล่าวเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ประสงค์จะลงสมัครสามารถแนะนำตัวตามวิธีการที่ระบุในระเบียบได้ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ” นายอิทธิพร กล่าว


ส่วนมาตรการป้องกันการฮั้วในช่วงที่มีการเลือก สว. นายอิทธิพร กล่าวว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก สว. ได้ออกแบบมากำหนดให้มีค่าสมัคร 2,500 บาท ซึ่งจะทำให้มาตรการการฮั้ว ต้องใช้คนและเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะไม่ได้ทำได้ง่าย นอกจากนี้การเลือกแบบไขว้จะเป็นการยากที่คาดคะเนได้ว่าใครอยู่กับพวกเรา โดยหวังว่าจะสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง อีกหนึ่งกลไกคือการประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกสว.ในครัังนี้ โดยข้อมูลข่าวสารที่มาแจ้งกับกกต.นำมาสู่การตัดสินลงโทษโดยศาล ก็จะมีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุดจำนวน 1 ล้านบาท อีกทั้งมีผู้ตรวจการเลือกตั้งคอยสอดส่อง ด้วยกลไกเหล่านี้ก็หวังว่าจะช่วยป้องกันป้องปรามการกระทำความผิดได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ดีที่สุดคือการใช้ความสุจริตในการเลือก อย่าไปแทรกแซงผู้สมัคร

เมื่อถามว่ามีว่าที่ผู้สมัครสว.บางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครสว. เพราะประชาชนทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ว่าใครจะมาเป็นผู้สมัคร นายอิทธิพร กล่าวว่า เมื่อระเบียบออกมาแล้วมีเสียงสะท้อนว่าควรจะปรับปรุงอะไรเราก็พร้อมที่จะรับฟัง โดยในการประชุมกกต.ในสัปดาห์นี้ เราก็บอกให้สำนักงานฯไปรวบรวมความเห็นเหล่านั้นมาและมาประมวลเพื่อเสนอว่าประเด็นใดที่ควรจะปรับแก้ หรือประเด็นใดที่ควรจะยืนไว้ตามเดิม ส่วนประชาชนจะมีโอกาสได้รับรู้ว่าใครเป็นผู้สมัคร เรามีมาตรการรองรับแล้วว่าเมื่อมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดทั่วประเทศใน 928 อำเภอ เราจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใส่ในเว็บไซต์ของกกต.หรือในแอพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ซึ่งประชาชนก็จะมีโอกาสเห็นว่าอำเภอไหนใครเป็นผู้สมัคร สมัครกลุ่มใด ซึ่งมีภาพ รายชื่อ ประวัติ ประสบการณ์ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่มีครบ

ส่วนที่มีว่าที่ผู้สมัครสว.ไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรามีการกำหนดโทษตามระดับการกระทำความผิด ซึ่งจะเทียบเคียงกับความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. และพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ซึ่งคนที่จะชี้โทษคือศาล เพราะฉะนั้นในการออกแบบกฎหมายที่กำหนดโทษโดยการฝ่าฝืนไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือก สว. ได้คำนึงถึงความเหมาะสมไว้อยู่แล้ว


เมื่อถามว่าขณะนี้มีว่าที่ผู้สมัครได้มีการร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้เพิกถอนระเบียบกกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว.พร้อมขอความคุ้มครองชั่วคราว

นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ต้องเดินหน้าไปก่อน แต่ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยเป็นในทิศทางใดก็ต้องดูว่าจะกระทบมากน้อยเพียงใด ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ ทั้งนี้เป็นสิทธิของประชาชนที่จะออกมาขอให้ศาลพิจารณาความเหมาะสมความถูกต้องซึ่งเป็นเรื่องปกติซึ่งเราเข้าใจดีแต่เราก็มีเหตุผลว่าทำไมถึงออกมาแบบนั้น และกระบวนการของเราก็ไม่ได้อยู่อยู่ที่ว่าออกมาแล้วไม่ฟังใครเพราะเราต้องฟังอยู่และกำลังที่จะนำเรื่องที่ประชาชนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความเห็นมาพิจารณาอีกรอบหนึ่งในการประชุมครั้งหน้าซึ่งเราก็ทำงานอย่างดีที่สุดไม่ใช่ว่าออกไปแล้วแก้ไม่ได้คงไม่ใช่

สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพและคลิปว่ามีประชาชนโวยที่สส.ระยอง พรรคก้าวไกล แจ้งกับประชาชนผู้เข้าชื่อเพื่อรับความช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุไฟไหม้โรงงานสารเคมีในจังหวัดระยอง โดยมีการเรียกเก็บบัตรประชาชนและในใบลงรายชื่อแจ้งว่าเป็นการอบรมให้ความรู้ประชาธิปไตยนั้น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวว่า ในเบื้องต้นเราจะมีคณะกรรมการทำงานที่ไม่เป็นทางการทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล ทำหน้าที่เสนอเลขากกต. และหากเลขากกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นว่าควรดำเนินการอย่างเป็นทางการ ก็จะสั่งให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเข้าไปดูในเรื่องนี้หลังจากนั้นคณะกรรมการดังกล่าวก็จะสอบข้อเท็จจริงและเรียกบุคคล หาพยานหลักฐานและถ้าหากจากพยานหลักฐานเห็นว่าการกระทำมีการเข้าข่ายว่าจะฝ่าฝืนกฎหมายก็จะเสนอเลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ทั้งนี้ ต้องพิจารณาดูก่อนว่ารายละเอียดที่มีอยู่เป็นอย่างไร โดยประการแรกเป็นหน้าที่ของนายทะเบียน เพราะเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งให้อำนาจเลขาธิการกกต.ที่จะพิจารณาดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีความเห็นให้ดำเนินการอย่างไรและถึงขั้นไหน ก็จะได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.ต่อไป

เมื่อถามอีกว่าหากพรรคการเมืองเบิกเงินจากกองทุนพรรคการเมืองโดยไม่ตรงตามข้อเท็จจริงที่แจ้งกับประชาชนจะผิดกฎหมายหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ที่จริงแล้วเราจ่ายเงินอุดหนุนให้พรรคการ เมืองเพื่อใช้ในทำกิจกรรมที่แจ้งกับ กกต.ไว้ว่าจะทำอย่างนั้น อย่างนี้ ถ้าเข้าข่ายว่าข้อเท็จจริงไม่ตรงกับที่แจ้งเราไว้ ตามกฎหมายก็บอกว่าต้องคืนเงินและมีรายละเอียดอย่างไร โดยต้องใช้เงินให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]