โชว์ผลงาน 6 เดือน เยือน ตปท. ปลื้มไทยกลับขึ้นจอเรดาร์โลก

กระทรวงการต่างประเทศ 1 เม.ย.-“ปานปรีย์” โชว์ผลงาน 6 เดือน เยือนต่างประเทศ ปลื้มไทยกลับขึ้นจอเรดาร์โลกแล้ว ชี้เป็นการทูตที่จับต้องได้  


นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการเยือนต่างประเทศในรอบ 6 เดือน ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายเชิงรุกด้านการต่างประเทศ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ภูมิเทคโนโลยี ภาวะโลกร้อน และโอกาสที่เกิดการแพร่ของโรคระบาด นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาเศรษฐกิจโลกอยู่มาก เราจะสังเกตได้ว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ GDP ขยายตัวต่ำลง

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ประเทศไทยห่างเหินไปจากจอเรดาร์โลก เสมือนว่าเรามีปฏิสัมพันธ์กับต่างชาติน้อยลง เป็นผลทำให้บทบาทในด้านต่างประเทศของไทยลดน้อยลง โดยเฉพาะในอาเซียนที่เคยโดดเด่นมาก่อน น้อยลงไปมาก พร้อมกับสรุปผลงาน 4 เรื่อง ได้แก่ “การทูตเชิงรุก ทำให้ประเทศไทยมีสถานะและได้รับการยอมรับดีขึ้น” ตนเอง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีอีกหลายท่าน เดินทางเยือนต่างประเทศจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเปิดบ้านรับหลายประเทศ ล่าสุดได้ยกระดับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับประเทศอังกฤษ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ประเทศอังกฤษให้ความสำคัญกับประเทศไทยมาก และที่ผ่านมามีการประชุมในวงต่าง ๆ ทั้ง UNGA, อาเซียน-ออสเตรเลีย, อาเซียน-แปซิฟิก, อาเซียน-ญี่ปุ่น และเอเปก


“เราไม่ได้ไปเยือนอย่างเดียว มีต่างประเทศทยอยเข้ามาเยือนประเทศไทยเรื่อยๆ จัดคิวกันไม่ทัน การเยือนต่างประเทศ ไม่ใช่แค่การเดินทางไปพบกันจับไม้จับมือกันแล้วกลับบ้าน ต้องมีเนื้อหา อย่างน้อยที่สุดไปดูเรื่องความร่วมมือที่เคยมีมาแล้ว และจะมีกันต่อไป”นายปานปรีย์ กล่าว

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ไทยได้รับเชิญให้ร่วมประชุม Summit for Democracy ที่เกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังมีการพบปะกับภาคเอกชนระดับโลก บริษัทข้ามชาติกว่า 60 บริษัท เน้นการดึงดูดด้านการลงทุน เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ประการที่สอง “การทูตที่ทันท่วงทีในยามวิกฤต”  โดยเฉพาะการเจรจากับต่างประเทศ เช่น เรื่องอิสราเอล เราต้องตั้งหลักในการนำตัวคนไทยกลับประเทศในระยะเวลาอันสั้น ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไร เมื่อเราตั้งหลักได้ ก็รู้แล้วว่าจะต้องนำคนไทยที่กำลังประสบปัญหาและมีความหวาดกลัวกลับประเทศ ตอนนั้นก็มีมากถึง 7,000 กว่าคน ในระยะเวลาอันสั้นต้องรีบตัดสินใจ เพราะสถานการณ์ตอนนั้นปั่นป่วน แต่ก็ทำได้เรียบร้อยดี ผู้ที่ถูกจับไป ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็หาช่องทางไปพูดคุยกับคนที่สามารถคุยกับกลุ่มฮามาสได้ เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด


นายปานปรีย์ เปิดเผยว่าบางครั้งไม่ได้หลับได้นอน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในอิสราเอลด้วย จึงตัดสินใจเดินทางไปประเทศที่สามารถช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นกาตาร์ อียิปต์ อิหร่าน และอีก 2-3 ประเทศที่ประสานทางโทรศัพท์ เขาช่วยเหลือเต็มที่ จนตัวประกันก็สามารถออกมาได้ 23 คน ขณะนี้อีก 8 คนยังอยู่ในกาซา ทราบว่า 3 คน ยังมีชีวิต ส่วนอีก 5 คนไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด เพราะกระจัดกระจายอยู่ ไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน แต่ยังมีความหวังว่าทั้ง 8 คน ยังมีความปลอดภัย นอกจากนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน มีความพยายามพูดคุย เพื่อให้ผลักดัน แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสถานการณ์ค้ามนุษย์ในเมียนมา รับทราบว่าคนไทยที่ไปทำงานที่นั่น อยากกลับประเทศ โดยได้ติดต่อผ่านทางสถานทูต แต่ตอนนี้การเดินทางภายในเมียนมายังมีความยากลำบาก ยังมีการสู้รบ ทำให้ต้องมีการประสานงานกันหลายฝ่ายในเรื่องการเดินทางผ่านชายแดนประเทศที่สาม ตอนนี้ก็ทยอยออกมา

ประการที่สาม “การวางจุดอยู่ในสถานการณ์ของโลก และการมีบทบาทที่แข็งขันในภูมิภาค”  เรามีท่าทีที่สมดุลและเป็นมิตร ไม่เลือกข้าง อยู่บนหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศและผลประโยชน์ของพี่น้องคนไทย การที่นายเจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน มาพูดคุยกันที่ไทย ถือเป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เราได้แสดงบทบาทที่ชัดเจนเพื่อให้ประเทศเมียนมากลับมาเปิดประเทศที่มีเอกภาพ เสถียรภาพและสันติภาพ เราได้มีแนวคิดริเริ่มโครงการมนุษยชน เป็นจุดเริ่มต้นผลักดันการนำฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนไปปรับใช้ด้วย

ประการสุดท้าย “การทูตที่ประชาชนสัมผัสได้” เราลงพื้นที่ชายแดนหลายรอบ เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องส่งเสริมแรงงานไทยไปต่างประเทศและดูแลหน่วยงานไทยในต่างประเทศ ปีนี้ตั้งเป้าส่งออกแรงงานให้ได้ 100,000 คน

นายปานปรีย์ กล่าวว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้า จะนำผลการเยือนมาสู่การปฏิบัติ การดำเนินการตามความตกลงที่จะทำเสร็จสิ้นแล้ว การเร่งรัดติดตามการดำเนินการตามผลการหารือต่าง ๆ ตั้งเป้าเยือนประเทศอาเซียนและประเทศที่ยังไม่ได้ไปเยือนให้ครบภายใน 6 เดือน อาทิ เวียดนาม อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้

กระทรวงการต่างประเทศ จะต้องเดินหน้ารณรงค์การเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เร่งรัดและการขยายเจรจา FTA กับบประเทศอื่น เปิดตลาดใหม่ในแอฟริกาใต้ เอเชียใต้ และเอเชียกลาง ผลักดันการยกเว้นวีซ่าคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ปฏิรูปวีซ่าทั้งระบบ โดยเฉพาะวีซ่าเชงเก้น ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เนื่องจากไม่ได้มีแค่ประเทศเดียว ส่วนฟรีวีซ่ากำลังเร่งรัดให้กับผู้ที่อยากเข้าประเทศไทยเช่นกัน

“การทูตที่จับต้องได้ เกิดการดำเนินการทูตอย่างมีทิศทางและยุทธศาสตร์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้และเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับคนไทย” นายปานปรีย์ กล่าว

นายปานปรีย์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมสำหรับการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ซึ่งนายปานปรีย์ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ใช่ว่ารัฐบาลทำผิดถูกอย่างไร แต่เป็นข้อเสนอแนะจากสภา ซึ่งไม่สามารถทราบได้ว่าจะถามเรื่องอะไร แต่การต่างประเทศเราพร้อม

“การแถลงวันนี้ ไม่ใช่การเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปราย แต่เพื่อให้ประชาชนทราบว่าการต่างประเทศทำอะไรบ้าง โฟกัสเรื่องอะไร และจะทำอะไรต่อไป เพื่อให้รู้บทบาทกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทยขึ้นมาอยู่บนจอเรดาร์ของโลกแล้ว จากการไปเยือนต่างประเทศ และจากการที่ประเทศต่างๆ มาเยือนเรา ทำให้เกิดการร่วมมือทางการต่างประเทศในหลายเรื่อง” นายปานปรีย์ กล่าว.- 317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]