รมต. ชิ่งตอบ 8 กระทู้ทั่วไปของ สว. อ้างติดภารกิจ

รัฐสภา 1 เม.ย.-รมต. ชิ่งตอบ 8 กระทู้ทั่วไปของ สว. อ้างติดภารกิจ ขณะที่ สว. มีมติรับร่างพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แก้เพิ่มอำนาจ ป.ป.ท.


การประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาวันที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว โดยสาระสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) และเพิ่มเติมแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตต่อหน้าที่ที่ต้องดำเนินการแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) และกำหนดเลขาธิการ ป.ป.ช. ไม่สามารถมอบหมายการเป็นกรรมการในคณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งร่างกฎหมายนี้ยังแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการป้องกันการทุจริตในภาครัฐ สำหรับกรณีผู้ถูกกล่าวหากระทำการไปโดยสุจริต และเป็นไปเพื่อประโยชน์ราชการ และกรณีหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีวิธีปฏิบัติหรือการดำเนินการที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและความเสียหายต่อราชการ

สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ของวุฒิสภาในครั้งนี้ ได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทำการศึกษาร่างพระราชบัญญัติไว้เป็นการล่วงหน้า เมื่อสมาชิกอภิปรายแล้ว ส่วนใหญ่แสดงความเห็นด้วย โดยเห็นว่า ร่างกฎหมายนี้ช่วยให้การดำเนินการเรื่องการป้องปรามการทุจริตในภาครัฐมีความสมบูรณ์และรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ ป.ป.ท.ทำงานได้อย่างคล่องตัว อย่างไรก็ตาม ยังมีสมาชิกตั้งข้อสังเกตถึงความชัดเจนการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ในคดีทุจริต ตามร่างกฎหมายนี้ ทั้งนี้ เมื่อวุฒิสภาพิจารณาแล้ว ที่ประชุมมีมติรับไว้พิจารณา ด้วยมติ  197 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 3 เสียง ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมาย จำนวน 26 คน ให้เวลาแปรญัตติภายใน 7 วัน


ส่วนการพิจารณาวาระกระทู้ถามสดนายคำนูณ สิทธิสมาน สมา​ชิกวุฒิสภา ​ได้ตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการจัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ มีเหตุผลและนัยยะสำคัญอย่างไร ซึ่งพันตำรวจ ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ชี้แจงว่า การเสนอเข้าเป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ หรืออนุสัญญาอุ้มหาย ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ในปี 2549 และมีผลใช้บังคับปี 2553 ประเทศไทย ได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอลงนามอนุสัญญา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 โดยลงนามของความเห็นชอบอนุสัญญาเบื้องต้น แต่ยังไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ต่อมารัฐบาลไทยโดยกระทรวงต่างประเทศได้ลงนามในอนุสัญญา เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 จากนั้นทุกภาคส่วนได้มีส่วนผลักดันในการเข้าเป็นภาคีมาโดยตลอด และคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้เข้าเป็นภาคี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 จากนั้น ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่ง สนช. มีมติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 เห็นชอบให้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาอุ้มหาย แต่ให้ดำเนินการเมื่อได้มีประกาศกฎหมายรับรองแล้ว และในขณะนั้น สนช. ให้ความเห็นชอบการเป็นภาคี ในข้อสงวนที่ 42 ซึ่งเป็นการนำข้อพิพาทระหว่างรัฐเข้าสู่การพิจารณาโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หลังจากนั้นได้มีการผลักดันจนเกิดกฎหมายพระราชบัญญัติทรมานและอุ้มหายและได้รับความเห็นชอบ และประกาศในราชกิจจาฯ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 และมีผลใช้บังคับแบบสมบูรณ์ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

ส่วนพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้ยกระดับศาลยุติธรรมของไทย เนื่องจากในความผิดตามพระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 2565 ดังกล่าว มีมาตราสำคัญอยู่ 1 มาตรา คือ มาตราที่ 34 ที่ระบุว่า ให้ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเหนือคดีตามพระราชบัญญัตินี้ และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือได้ระบุไว้ว่าให้รวมถึงคดีที่ผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารในขณะกระทำผิดด้วย ปัจจุบันพบว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ทำให้บุคคลทุกคนที่ไปกระทำผิดตามพระราชบัญญัติอุ้มหายต้องเข้ามาอยู่ในศาลทุจริต  เช่น หากทหารกระทำความผิดเรื่องทุจริตทั่วไปจะต้องไปขึ้นศาลทหาร แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ ยกระดับศาลทุจริตหรือศาลยุติธรรมของไทยสูงขึ้น ซึ่งตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการจัดตั้งศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ 2559 ที่เกิดขึ้น เนื่องจากคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้หมายความถึงรวมคดีอุ้มหายนี้ด้วย ซึ่งมีผลกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงทางสังคมและเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และเพื่อให้ลดความรุนแรงดังกล่าวจึงได้มีพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการสงวนมาโดยตลอด ส่วนความเห็นของกฤษฎีกาที่เสนอว่าต่อจากนี้ไปให้สงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศทุกเรื่องเป็นความเห็นกฤษฎีกาเสนอเข้ามาที่ประชุม ไม่ได้เริ่มมาจากที่กระทรวงยุติธรรม และไม่ได้เริ่มมาจากกระทรวงต่างประเทศ แต่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาด้วยเหตุผล ซึ่งมีมาตรฐานและยึดมั่นว่าศาลยุติธรรมของไทยได้มีการยอมรับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า หลังจากที่ไทยไปรับเขตอำนาจของศาลโลกแล้ว ก่อนหน้านั้นในการต่อสู้คดี ประเทศไทยได้ถอนการรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในตอนที่กัมพูชาฟ้องคดีเขาพระวิหารปี 2505 แต่เมื่อถึงในชั้นการพิจารณาคดีในปี 2556 ปรากฏว่า ที่ไปขอถอนอำนาจศาลดังกล่าว แต่ศาลยังพิพากษาอยู่ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น จึงเป็นแบบอนุสัญญาที่ไทยได้นำมาเพื่อไม่รับมาโดยตลอด ซึ่งประกอบไปด้วยอนุสัญญา 3 ฉบับ โดยเลขากฤษฎีกา ได้เสนอในที่ประชุมว่าหากมีอนุสัญญาดังกล่าวขอให้สงวนไม่รับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ส่วนในกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งได้ตั้งคณะทำงาน 2 คณะ ยังไม่ได้รับข้อมูล และจะขอดำเนินการต่อแล้วจึงจะส่งเรื่องผ่านประธานวุฒิสภาต่อไป


สำหรับการพิจารณากระทู้ถามทั่วไปวันนี้ ที่อยู่ในวาระ 8 กระทู้ ถูกเลื่อนทั้งหมด เนื่องจากรัฐมนตรีติดภารกิจไม่สามารถมาตอบได้.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]