“พิธา” ฝากนายกฯ กางไทม์ไลน์แก้ปัญหาไฟป่า-ฝุ่นพิษให้ชัด

เชียงใหม่ 17 มี.ค. – “พิธา” ฝากนายกฯ กางไทม์ไลน์แก้ปัญหาไฟป่า-ฝุ่นพิษให้ชัด ชี้สถานการณ์ปีนี้สายเกินป้องกัน ต้องเร่งบรรเทาผลกระทบประชาชน ใช้ข้อมูลจาก NARIT-GISTDA คาดการณ์จุดความร้อน เตรียมทีมดับไฟป่าให้พร้อม ย้ำไม่ใช่ “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ”


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจบภารกิจลงพื้นที่เรียนรู้และรับฟังปัญหาการจัดการไฟป่า ทั้งจากประสบการณ์ตรงของทีมอาสาดับไฟป่าในพื้นที่ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA)

นายพิธา กล่าวว่า หลังจากได้รับฟังการบรรยายจาก NARIT เมื่อค่ำวานนี้ (16 มี.ค.) ตนมองว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษได้ โดยเฉพาะภาพถ่ายดาวเทียมจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของปัญหา สามารถนำมาวิเคราะห์สถิติและคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าไฟป่าจะเกิดขึ้นที่จุดใดบ้าง ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในพื้นที่ต่างๆ จะรุนแรงมากน้อยเพียงใดในช่วงสัปดาห์นี้ และจะบรรเทาลงเมื่อใด


นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ยิงเลเซอร์ขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ เพื่อวัดฝุ่นพิษ PM 2.5 ว่ามีความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด มีขอบเขตกว้างและสูงแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลออกนโยบายที่เท่าทันและแม่นยำต่อสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ NARIT และ GISTDA มีองค์ความรู้และสามารถผลิตเครื่องมือต่างๆ ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ดีและต้องให้การสนับสนุนกันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อได้รับฟังปัญหาแล้วมีสิ่งใดที่อยากฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พิธา กล่าวว่า ตนอยากฝากให้นายกฯ ระบุไทม์ไลน์การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในระยะต่างๆ ให้ชัดเจน เช่น ระยะสั้นภายในสัปดาห์นี้จะแก้ไขเรื่องอะไร ภายในเดือนหน้าซึ่งคาดการณ์จากสถิติได้ว่าคุณภาพอากาศของภาคเหนือจะย้ำแย่ที่สุด รัฐบาลจะแก้ไขอะไรบ้าง รวมถึงในปีหน้ามีแผนการจะแก้ไขอะไร หากรัฐบาลมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ข้าราชการ ภาคประชาสังคม และภาคส่วนต่างๆ จะสามารถให้ความร่วมมือและเดินหน้าไปพร้อมกันได้ แต่ที่ผ่านมาตนยังไม่เห็นไทม์ไลน์ที่ชัดเจนมากนัก ภาคส่วนต่างๆ จึงไม่ทราบว่าต้องให้ความร่วมมืออย่างไร ในมิติใดบ้าง

นายพิธา กล่าวต่อว่า สถานการณ์ฝุ่นพิษในขณะนี้สายเกินจะป้องกันที่ต้นเหตุได้แล้ว รัฐบาลจึงต้องเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแบบเฉพาะหน้าไปก่อน เช่น จัดให้มีหน้ากาก N95 และเครื่องฟอกอากาศในราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่สามารถใช้ภูมิปัญญาของประเทศไทยได้ เช่น สถาบันการอาชีวศึกษาต่างๆ มีศักยภาพที่จะทำเครื่องฟอกอากาศได้แล้ว นอกจากนี้ยังต้องจัดให้มีห้องปลอดฝุ่น โดยเฉพาะในโรงเรียนเด็กเล็กและสถานพยาบาลต่างๆ รวมถึงการเพิ่มสรรพกำลังบุคลากรที่จะมาช่วยดับไฟป่า สิ่งเหล่านี้รัฐบาลสามารถทำได้เลยภายในระยะสั้นสัปดาห์นี้


ส่วนในเดือนหน้าซึ่งจากสถิติสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นพิษน่าจะรุนแรงที่สุด สิ่งที่รัฐบาลจะทำได้คือการนำข้อมูลของ GISTDA NARIT และกรมอุตุนิยมวิทยามาวิเคราะห์ย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งจะสามารถคาดการณ์ได้เลยทันทีว่าพื้นที่ใดมีโอกาสเกิดไฟป่าบ้าง เพราะส่วนใหญ่จุดความร้อนมักจะเกิดการไหม้ซ้ำซาก รัฐบาลสามารถเตรียมการสร้างธนาคารน้ำไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้ทีมดับไฟป่าเข้าไปใช้งานได้ทันที หากทำได้เช่นนี้ สถานการณ์ในปีนี้น่าจะทุเลาลงไปได้

นายพิธา ย้ำว่า ปัจจัยที่สำคัญต่อการดับไฟป่าคือการลำเลียงน้ำและคนเข้าไปดับไฟป่าได้ทันเวลา ดังนั้น เราต้องเข้าใจแบบแผนของไฟ เพื่อให้เกิด “Economy of Speed” หรือการไปให้ถึงก่อนที่ไฟจะลุกลาม และ “Economy of Scale” หรือการขยายทีมในการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกจุดในเวลาพร้อมๆ กัน รวมถึงการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ถ้าเราเข้าใจแบบแผนเช่นนี้ สถานการณ์ไฟป่าจะทุเลาลง และจะกลายเป็นองค์ความรู้ที่สามารถขยายไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย

นายพิธา กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายและงบประมาณ ทำให้รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เต็มที่ในปีนี้ แต่ในระยะยาวตนต้องขอฝากนายกฯ ประเมินด้วยว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี เช่น ทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดใน 10 จังหวัดภาคเหนือถึงไม่กล้าประกาศเขตภัยพิบัติ ทั้งที่สถานการณ์ฝุ่นพิษร้ายแรงติดอันดับโลก เป็นเพราะผู้ว่าฯ เกรงกลัวหรือไม่ว่าถ้าประกาศเขตภัยพิบัติแล้วจะเท่ากับว่าดูแลพื้นที่จังหวัดของตนเองไม่ดี ขณะที่ในด้านงบประมาณ การที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางก้อนใหม่กว่า 272 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นพิษโดยเฉพาะก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรอติดตามต่อไปว่าจะสามารถเบิกใช้งานได้อย่างทันท่วงทีกับสถานการณ์หรือไม่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวิจารณ์ว่าการลงพื้นที่ของพิธาเป็นการรบกวนทีมดับไฟป่าในพื้นที่ และถือเป็นการ “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” นายพิธา กล่าวว่า หน้าที่ของผู้แทนราษฎรคือการตรากฎหมายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เพื่อรับฟังปัญหาจากคนหน้างานจริง ดังคำกล่าวที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” เพราะจากที่ตนนั่งอยู่ในสภาฯ แล้วมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องมาของบประมาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการไฟป่า ตนก็เข้าใจในระดับหนึ่ง แต่การลงพื้นที่มาเห็นของจริง ได้สัมผัสถึงไอความร้อนและสะเก็ดไฟที่มาโดนตัวจริง ได้เห็นอุปกรณ์ดับไฟที่ต้องดัดแปลงมาจากอุปกรณ์อื่นๆ สิ่งเหล่านี้ฟังข้าราชการมาอธิบายในคณะกรรมาธิการ 10 ครั้งก็ไม่เข้าใจ ต้องมาเห็นหน้างานด้วยตัวเอง โดยรบกวนทีมหน้างานให้น้อยที่สุด ใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพื่อที่คราวหน้าเมื่อมีข้าราชการมาของบประมาณเรื่องไฟป่า ตนก็จะได้ “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” มากขึ้น จึงยืนยันว่าสิ่งที่ได้รับจากการลงพื้นที่ครั้งนี้คุ้มค่ากับเวลาแน่นอน.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]