ผู้ช่วย ผอ.รมน.ติดตามสถานการณ์ไฟป่า-หมอกควันภาคเหนือ

9 มี.ค. – ผู้ช่วย ผอ.รมน. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน พร้อมเร่งบูรณาการสกัดกั้นยางพาราเถื่อนเข้าประเทศ ในพื้นที่ภาคเหนือ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติการด้วยความระมัดระวัง รวดเร็ว ทันท่วงที


ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในห้วงปัจจุบันเข้าสู่ฤดูที่จะมีระดับความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติด และการนำยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านแดนบริเวณชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังประเทศที่สาม ซอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

จึงได้สั่งการ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ในฐานะ รอง ผอ.รมน. เร่งบูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกของ กอ.รมน. ในการขับเคลื่อนและร่วมกันแก้ไขปัญหา


รอง ผอ.รมน. จึงมอบหมายเป็นการเร่งด่วนให้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะผู้ช่วย ผอ.รมน. ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ เร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการด่วน ตามนโบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. ใน 3 พื้นที่สำคัญได้แก่ จ.ตาก เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน

โดยในช่วงเช้าคณะฯ ได้เดินทางลงพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยางพาราเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปแนวทางการนำผ่านสินค้ายางพาราไปยังประเทศที่สาม จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในห้วงที่ผ่านมา

มีรายละเอียดที่สำคัญคือ พบข้อมูลมีการขอขนย้ายนำผ่านสินค้ายางพาราไปประเทศที่สาม มีจำนวนมากกว่าปกติในช่วงเดือน ก.พ. 67 ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ตาก จึงมีหนังสือขอให้ด่านศุลกากรแม่สอด ระงับการนำผ่าน (Transit) สินค้ายางพารา ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา


ผู้ช่วย ผอ.รมน. กล่าวชื่นชมให้กำลังใจในการทำงานของหน่วยราชการในพื้นที่ที่มีการประสานสอดคล้องการทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แน่นแฟ้น เพื่อร่วมรักษาผลประโยชน์ของชาติและพี่น้องประชาชน

จากนั้นคณะฯ ได้เดินทางต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยมีการประชุมและรับฟังการบรรยายสรุปปัญหาแนวทางป้องกันการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ของ กอ.รมน.ภาค 3 และส่วนราชการที่เกี่ยงข้อง ณ ศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 โดยในส่วนของ กอ.รมน.ภาค 2 ใช้การประชุมร่วมผ่านระบบ VTC

มีรายละเอียดที่สำคัญคือ ที่ประชุมได้มีการรายงานจุดความร้อน (Hot Spot) ที่พบในภาพรวมของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปัจจุบันยังอยู่ในปริมาณที่สูงในบางจังหวัด แต่เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 66 ที่ผ่านมา พบว่าจำนวนจุดความร้อน สามารถลดระดับลงมาได้มากถึง 40-50% โดยยังพบพื้นที่ที่ประสบปัญหาไฟป่าส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 84% ส่วนพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่ทางการเกษตร และพื้นที่อื่นๆ รวมกันยังคงมีสัดส่วนที่ไม่มาก ด้วยอาศัยมาตราการการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา

ในช่วงท้ายการประชุม ผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้ให้แนวทางเพิ่มเติมว่าปัญหาเกิดจากหลายปัจจัยที่อาจสามารถควบคุมได้ และอาจควบคุมไม่ได้จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน หน่วยราชการจึงต้องอาศัยประสานบูรณาการความร่วมมือกัน สำหรับ กอ.รมน.ภาค 2 สามารถอาศัยแนวทางของ กอ.รมน.ภาค 3 และสามารถจำลองสถานการณ์ (War game) เพื่อให้ทราบแนวทางการบริหาร การใช้บุคลากร เครื่องมือ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากเผชิญปัญหาจะสามารถตอบสนองการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

พร้อมกันนี้ ผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานยึดมั่นในเป้าหมายดัชนี KPI ของจำนวนจุดความร้อน จำนวนพื้นที่เผาไหม้ จำนวนวันที่พบค่า PM 2.5 เกินมาตราฐาน และจำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ มีระดับลดลง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 66 ที่ผ่านมา

ในช่วงบ่ายได้เดินทางต่อไปยัง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้มีการประชุมหารือและรับฟังการบรรยายสรุปกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมแผนการรองรับสถานการณ์จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติของจังหวัดในห้วงที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการคาดการณ์สถานการณ์ในเดือน มี.ค. และเดือน เม.ย. 67 ที่จะถึงนี้อาจมีระดับความรุนแรงมากขึ้น ผู้ช่วย ผอ.รมน. ขอให้ทางจังหวัดได้มีการประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดและใกล้ชิด หากมีความจำเป็นสามารถจัดทำแผนเพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ในห้วง 2 เดือนนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาของห้วงเวลาดังกล่าวมีความสมบูรณ์มากที่สุด

โดยก่อนปิดการประชุมผู้ช่วย ผอ.รมน. ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันทำงานและร่วมกันแก้ปัญหาในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน.

หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อพบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดบริเวณพื้นที่ชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาล

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วย ผอ.รมน. ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดและสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคง ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนใน ด้วยการจัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างเข้มงวด ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังลาดตระเวนในพื้นที่บ้านปายสองแง่ ดอยหัวแหวน ดอยผักกูด อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยจึงได้ตรวจสอบในขั้นต้นพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ ยาบ้า 7,000,000 เม็ด และยาไอซ์ 100 กก. เป็นมูลค่า 700 ล้านบาท โดยมีการลักลอบขนย้ายมาตามเส้นทางธรรมชาติ บริเวณพื้นที่รอยต่อ จ.แม่ฮ่องสอน กับ จ.เชียงใหม่ โดยยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ กองกำลังนเรศวร/ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองกำลังนเรศวรจะส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ปาย เพื่อทำการพิสูจน์และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ กอ.รมน. จะเร่งบูรณาการและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหามลพิษไฟป่า หมอกควัน ปัญหายาเสพติด การนำเข้าสินค้าทางการเกษตรที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนความมั่นคงตามแนวชายแดน และภัยความมั่นคงในมิติอื่นๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเพื่อความมั่นคงของประเทศต่อไป.-311-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]