“อนุทิน” ตอบข้อสังเกต งบลงทุนมหาดไทย

รัฐสภา 4 ม.ค.-“อนุทิน” ตอบข้อสังเกต งบลงทุนมหาดไทย ย้ำยุทธศาสตร์ มุ่งพัฒนา ลดเหลื่อมล้ำ ชดเชยเสียโอกาสจากวิกฤตโควิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวกับงบประมาณกระทรวงมหาดไทย ในการอภิปรายงบประมาณประจำปี 2567 โดยกล่าวว่า ที่ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงมหาดไทย เป็นกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด และมีสัดส่วนงบลงทุนที่สูงเมื่อเทียบกับกระทรวงอื่นๆ ก่อนอื่นต้องขอกราบเรียนว่า ข้อกังวลในการจัดทำงบประมาณแต่แรกนั้น คือความกังวลว่า งบประมาณของกระทรวงมหาดไทย จะไปหนักอยู่ที่งบปฏิบัติการหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็หมายถึงเราทำงาน routine มาก และทำงานพัฒนาน้อย ในยามที่ประเทศกำลังต้องการการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพื่อชดเชยกับความถดถอยที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิดทั่วโลก


แต่เมื่อได้จัดทำงบประมาณแล้ว มีการจัดสรรเป็นงบลงทุนกว่า 30% ของงบประมาณที่ได้รับ ตามที่ท่านสมาชิกได้กล่าวถึง ก็มีความสบายใจเป็นเบื้องต้นว่าเรามาถูกทาง ในเรื่องการจัดสัดส่วนงบประมาณ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่เราจะพัฒนา งานของกระทรวงมหาดไทย ให้มีความทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที ตามแนวทางที่วางไว้ได้จริง

เพื่อให้ท่านได้เห็นภาพรวม ขอแจกแจงผ่านท่านประธานไปยังสมาชิก และพี่น้องประชาชนว่า ในงบประมาณวงเงิน เกือบ 4.6 แสนล้าบาท ของกระทรวงมหาดไทยนั้น จะถูกแบ่งไปยังส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค องค์การจัดการน้ำเสีย กองทันพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา


ซึ่งในวงเงินดังกล่าวสำหรับปีงบประมาณ 2567 นั้น เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว คิดเป็นร้อยละประมาณ 10.5 ซึ่งเป็นสัดส่วนการเพิ่มที่สอดคล้องกับงบประมาณรัฐบาลในภาพรวม โดยหากนำงบประมาณที่จัดสรรเป็นก้อนๆทั้งหมด มาไล่เรียงจากมากไปหาน้อย ตามรายจ่ายเชิงยุทธศาสตร์ จะพบว่า ด้านที่เราใช้จ่ายเงินเป็นสัดส่วนสูงที่สุด คือ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยเป็นวงเงินถึง 3.4 แสนล้านบาทเศษ หรือคิดเป็นเกือบ 75% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งผมเชื่อว่า เรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมนี้ ถือว่าอยู่ในลำดับความสำคัญต้นๆของการพัฒนาประเทศ และสามารถตอบสนองความต้องการลดความเหลื่อมล้ำในใจของพี่น้องประชาชนด้วย

นอกจากนี้ ยังมี “ยุทธศาสตร์” ด้านอื่นๆ ที่เราให้น้ำหนักในการจัดสรรงบประมาณ ได้แก่

ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ด้านความมั่นคง ด้านความสามารถในการแข่งขัน ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ด้านการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ตามลำดับ


จะเห็นได้ว่า การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายในเชิงยุทธศาสตร์ของกระทรวงมหาดไทยนั้น นอกจากจะสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาลแล้ว ยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่ประเทศไทยมีพันธกิจร่วมด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน จึงถือเป็นการจัดสรรงบประมาณ เพื่อการพัฒนา เพื่อความก้าวหน้า อย่างแท้จริง

เพื่อให้ท่านสมาชิกและพี่น้องประชาชน พอเห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรม จะขอไล่เรียงคร่าวๆ ถึงโครงการสำคัญที่จะดำเนินการในปี 2567 นี้ ได้แก่

โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ระยะที่ 2

โครงการที่เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการประชาชน สนองนโยบาย E-government เช่น โครงการอำนวยการบริหารการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ในการออกหนังสือผ่านแดนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Border Pass โครงการพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิตัล หรือ Digital ID

โครงการสนับสนุนการบูรณาการและการขับเคลื่อนนโยบายในระดับอำเภอ การจัดการฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชน โครงการของกรมที่ดินที่เกี่ยวกับการพัฒนาสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิคส์ และการจัดการข้อมูลที่ดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของสำนักงานที่ดิน เพื่อรองรับสำนักงานที่ดินอิเล็กทรอนิกส์ และโครงการพัฒนาบริการประเภท One Stop Service ต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับโครงการที่จะสร้างความมั่นคงด้านอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ไปจนถึงการสร้างความมั่นคงปลอดภัยในสังคม เช่น โครงการที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การส่งเสริมสนับสนุนการจัดบริการสาธารณะด้านสาธารณสุขของท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งโครงการที่ยกมาเป็นตัวอย่างเหล่านี้ คือการลงทุนที่นอกเหนือจากงานบริการประชาชน ที่จะต้องพัฒนาไปตามรอบและตามแผนระยะยาวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประปาที่เรากำลังเน้นเรื่องน้ำประปาดื่มได้ ไฟฟ้า งานของกรมโยธาธิการและผังเมือง และงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีการปรับปรุงเทคนิควิธีการทำงานให้ทันสมัยขึ้น

จะเห็นได้ว่า งานของหน่วยงานที่ใช้งบประมาณภายใต้กำกับของกระทรวงมหาดไทยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นงานประจำ รายจ่ายประจำ และมีทั้งส่วนที่เป็นการลงทุนพัฒนา เพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และเป้าหมายใหม่ๆทั้งของรัฐบาลและของประเทศ

นอกจากนั้น เรายังให้ความสำคัญกับ การบูรณาการ กับหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งบางครั้งไม่ได้หมายถึงการใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นนะครับ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างการแก้ไขหนี้นอกระบบ ซึ่งเราบูรณาการร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรืองานจัดการจราจร ลดอุบัติเหตุและอาชญากรรมในช่วงเทศกาล ซึ่งเราบูรณาการเป็นอย่างดีระหว่างฝ่ายปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

ขอเน้นว่า การบริหารราชการแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพนั้น ไม่ได้หมายถึงการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กันคือการทำสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม แต่มีส่วนในการเพิ่มคุณภาพชีวิตหรือรายได้ของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย การปราบปรามผู้มีอิทธิพลไม่ให้เกิดการทุจริตในท้องที่ การปรับเวลาเปิดสถานบริการที่จะเอื้อให้คนทำมาหากินได้มากขึ้นอย่างปลอดภัย การควบคุมอาวุธปืนที่จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ไม่ต้องเกิดการสูญเสียงบประมาณไปใช้ในเรื่องที่ไม่ควรเกิด หรือการสนับสนุนนโยบายฟรีวีซ่าและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลนักท่องเที่ยว ก็ล้วนแต่ก่อให้เกิดรายได้โดยไม่ต้องลงทุนงบประมาณเพิ่มมากมาย นี่คือสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญ

ในโอกาสนี้ ขอเรียนให้ทราบด้วยว่า นอกจากงานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และการบูรณาการงานร่วมกันกับหน่วยงานนอกกำกับแล้ว กระทรวงที่อยู่ภายใต้กำกับของผมเองในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ก็มีการเซ็น MoU เพื่อเป้าหมายร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่กระทรวงแรงงานก็มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผลิตและพัฒนากำลังคนในภาคการศึกษาและภาคแรงงาน โดยเน้นการ Up-skill เพื่อให้เกิดโอกาสในการเพิ่มรายได้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย แรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวง อว.

ทั้งหมด เพื่อตอกย้ำกับทุกท่านว่า นอกจากการจัดสรรงบประมาณเชิงยุทธศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงาน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกิดผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการ maximize หรือใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และนี่คือแนวทางที่ผมใช้กับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานในกำกับทั้งหมด

สุดท้ายขอเรียนให้ความมั่นใจ ผ่านท่านประธานไปยังเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพี่น้องประชาชนว่า กระทรวงมหาดไทยจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และเรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงในรายละเอียดที่เป็นไปได้ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]