มอบนโยบาย อสมท ชูจุดเด่นความน่าเชื่อถือ เพิ่มกลุ่มเป้าหมาย

อสมท. 6 พ.ย.- “รมต.พวงเพ็ชร” มอบนโยบาย อสมท ระบุ สถานการณ์สื่อเปลี่ยนแปลง ต้องคงจุดเด่นความน่าเชื่อถือในเนื้อหาข่าว เพิ่มกลุ่มเป้าหมาย ฟื้นเป็นสื่ออันดับหนึ่งของประเทศ ชี้ หารายได้จากที่ดิน 50 ไร่ ต้องคำนึงประโยชน์สูงสุด


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ประธานกรรมการ บมจ.อสมท นายบุญสน เจนชัยมหกุล กรรมการ บมจ.อสมท นายไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร กรรมการ บมจ.อสมท นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกาศข่าว บมจ.อสมท ให้การต้อนรับ

นายผาติยุทธ กล่าวรายงานสถานการณ์ของ อสมท ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งแผนงานและกลยุทธ์การแข่งขันในระยะต่อไป ว่า อสมท เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสํานักนายกรัฐมนตรี ดําเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน และเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้บริการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งความบันเทิงแก่สังคม ในยุคของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้รับสารในสังคม อสมท  ได้มุ่งมั่นพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนําเสนอเนื้อหาที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของประเทศ


ทั้งนี้ อสมท มีแผนการดำเนินงานธุระกิจในระยะ 5 ปี ( พ.ศ.2566-2571) โดยเริ่มจากการวางรากฐานย้ำความเป็นสถานีข่าวและสาระ พร้อมพัฒนาภาพลักษณ์จากสถานีข่าวและสาระให้เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ตอบรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีรายการโทรทัศน์ที่หลายกหลาย และคลื่นวิทยุทั่วประเทศในเครือข่าย อสมท ที่มีผู้ฟังมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

ด้านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในสถานการณ์สื่อปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไป อสมท มีสื่อที่หลากหลาย โดยเฉพาะด้านการนำเสนอข่าวสาร ภายใต้สำนักข่าวไทย ที่มีจุดแข็ง เรื่องความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง และมีเนื้อหาที่ดี แต่สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ทันต่อยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อทำให้ อสมท กลับมาเป็นสื่ออันดับหนึ่งของประเทศ

หลังจากเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ของ อสมท อาทิ สถานีโทรทัศน์ 9 MCOT HD  ห้องส่งสตูดิโอ 1  ซึ่งเป็นสตูดิโอ ผลิตรายการโทรทัศน์  รวมถึงห้องส่งสตูดิโอ 6 อาคารปฏิบัติการวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสถานที่ออกอากาศรายการข่าวช่อง 9 MCOT HD สถานีวิทยุสำนักข่าวไทย และ MCOT MUSEUM อีกด้วย


จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่า ภายใต้สถานการณ์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่องผังรายการของ อสมท ขณะนี้รายการข่าวมาเป็นอันดับ1 ในเรื่องความน่าเชื่อถือ และต้องคงความถูกต้องแม่นยำรวดเร็ว

“ขอให้มุ่งมั่นต่อไป เรื่องบุคลากรและคุณภาพ และที่สำคัญที่สุดคือการปรับตัวให้ข่าวเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพิ่มผังรายการที่เข้าถึงทุกกลุ่มบุคคลขยายฐานให้มากขึ้น ขณะที่การหารายได้จะมุ่งเน้นไปที่หน่วยงานภาครัฐ การจัดอีเวนท์ การถ่ายทอดสดและมีธุรกิจใหม่ เพื่อหารายได้เพิ่มเติมให้ อสมท” นางพวงเพ็ชร กล่าว

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ส่วนเรื่องเทคนิคจะต้องมุ่งเน้นไปที่สื่อออนไลน์ เพิ่มบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อให้มีความทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ เช่นเดียวกับการหารายได้จากที่ดินของ อสมท 50 ไร่ ใกล้ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง โดยได้พูดคุยกับ คณะกรรมการถึงวัตถุประสงค์ของการให้เช่าที่ดินแปลงนี้ ว่าทำแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ อสมท สังคมและประเทศชาติ  ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนโปร่งใส ตั้งแต่การวาง TOR 

“เน้นย้ำเรื่องการทุจริตและการแสวงหาผลประโยชน์ จะต้องไม่มีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้  โดยที่ดิน 50 ไร่ จะเป็นธุรกิจใหม่ของ อสมท ที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต” นางพวงเพ็ชร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]