ยื่นผู้ตรวจฯ ปมปล่อย “ทักษิณ” นอน รพ.ตำรวจ

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 25 ต.ค.-“หมอวรงค์” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เตือนนายกฯ หยุดลอยตัว ปล่อย “ทักษิณ” ใช้อภิสิทธิ์นอน รพ.ตำรวจ แต่ไม่แถลงอาการชัด ชี้ขัดระเบียบราชทัณฑ์ 


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และคณะ เข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีหน่วยงานของรัฐปล่อยปละละเลยการบังคับใช้กฎหมายกับนายทักษิณ ชินวัตร และบังคับใช้กฎหมายไม่เท่าเทียมกับคนอื่น โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับเรื่อง    

นพ.วรงค์ กล่าวว่า การที่เรามาร้องผู้ตรวจการแผ่นดินครั้งนี้ ก็เพราะกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ที่กลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมากว่า 60 วัน สะท้อนว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำลายนิติรัฐ นิติธรรม อย่างจงใจ จึงถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลอยตัวไม่ได้ ต้องลงมาจัดการการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง เพราะทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงประเทศไทย ก็เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจอย่างเร่งด่วน ซึ่งตามระเบียบของราชทัณฑ์ ระบุว่า ผู้ถูกคุมขัง หรือนักโทษที่จะออกไปรักษาข้างนอก จะต้องผ่านกระบวนการรักษาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน   


“เราไม่เชื่อว่าคืนนั้นนักโทษชายท่านนี้ไม่ได้ไปรักษาที่ราชทัณฑ์ นี่เป็นการปฏิบัติข้ามขั้นตอน ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และจนถึงขณะนี้รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจกว่า 60 วัน การกระทำของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีการปิดบังการรักษา โดยอ้าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งที่สิ่งที่ต้องชี้แจงคือ นักโทษชายท่านนี้ไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่เป็นการส่งตัวไปโดยไม่เป็นไปตามระเบียบเงื่อนไขราชทัณฑ์” นพ.วรงค์ กล่าวนพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่เป็นจุดตายที่เป็นอันตรายต่อกฎหมายของประเทศ คือ กฎระเบียบ

ราชทัณฑ์กำหนดชัดเจนว่า ผู้ถูกคุมขังหรือนักโทษเมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกราชทัณฑ์ ไม่มีสิทธิ์ไปรักษาห้องพิเศษ แต่ปรากฏว่านักโทษชายท่านนี้ได้รับเอกสิทธิ์พิเศษเหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ ที่ไปอาศัยห้องพิเศษ ชั้น 14 ซึ่งเป็นที่รับรู้ของประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชน ดังนั้นจึงต้องรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อเสนอมายังประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 22 (3) ที่ให้ผู้ตรวจฯ รวบรวมข้อเท็จจริงเสนอต่อนายกฯ และคณะรัฐมนตรี และนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 53 ของรัฐธรรมนูญ 2560 

“60 กว่าวันที่ผ่านมา ชัดเจนว่าจงใจ สมรู้ร่วมคิด ของราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง จึงป็นบทสรุปที่เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกฯ จะลอยตัวไม่ได้ จะปล่อยให้นักโทษคนหนึ่งมีอภิสิทธิ์เหนือประชาชนไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ระบุชัดว่า คนทุกคนมีสิทธิ์ที่เสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้ ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิด อาชีพ เพศ ศาสนา สถานะทางสังคม หรือสถานะทางเศรษฐกิจ จะเลือกปฏิบัติไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปจะเป็นความเสียหายต่อระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศไทย” นพ.วรงค์ กล่าว


นพ.วรงค์ กล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่ว่าตอนนี้ป่วยหนักจริงหรือไม่ เพราะราชทัณฑ์ระบุล่าสุดว่า ผ่าตัดโรคออร์โธปิดิกส์ จากนั้นก็มานอนรักษาตัวที่ไอซียูศัลยกรรมประสาท ซึ่งทางการแพทย์ คำว่าออร์โธปิดิกส์เป็นศัพท์ทางวิชาการ แปลว่า กระดูก ข้อ และเอ็น ทำไมไม่ชี้แจงให้ชัดเจน และที่สำคัญที่สุดที่บอกว่าต้องนอนรักษาตัวไอซียูศัลยกรรมประสาท ซึ่งเป็นไอซียูสำหรับคนไข้สมอง เทียบกับความเจ็บไข้ที่แถลงมา ไม่มีความสัมพันธ์กัน  

“ที่น่าเศร้ามาก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนกลับไปที่จังหวัดพิษณุโลก เจอแพทย์ผ่าตัดสมองท่านหนึ่ง เข้ามาทักบอกว่าเห็นข่าวแล้วเศร้าใจ เพราะมีคนไข้นักโทษหนุ่มมาจากเรือนจำหนึ่งด้วยอาการปวดหัว ตรวจสอบพบเป็นเนื้องอกในสมอง   แพทย์ผ่าตัดให้ แต่ราชทัณฑ์ให้พักที่โรงพยาบาลแค่ 2 วันเท่านั้น แล้วให้กลับไปรักษาที่สถานพยาบาลของราชทัณฑ์ บอกว่าสถานพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาได้ นี่คือความเท่าเทียมกันไม่เกิด และเราเองก็รอมา 60 กว่าวัน จนรู้สึกว่ามากเกินไป” นพ.วรงค์ กล่าว

ส่วนที่นายกฯ ชี้แจงว่า มีการเจาะถึง 4 รู ที่หัวไหล่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า คำว่าออร์โธปิดิกส์ ในวงการแพทย์ ถ้ารักษาเสร็จก็ต้องไปอยู่ไอซียูศัลยกรรมกระดูก แต่กลับไปอยู่แผนกผู้ป่วยโรคทางสมอง  เท่ากับว่ากำลังแย่งที่คนไข้สมองหรือไม่

“เขาเป็นโรคหัวใจ โรคความดัน โรคปอด และโรคผู้สูงอายุ ผมเชื่อว่าคนไทยเป็นคนเอื้ออารี ป่วย ผ่าตัดอะไร ก็ขอให้บอกอย่างตรงไปตรงมา ผ่าตัดหัวไหล่ ผ่าตัดกระดูกเอ็นหลัง กล้ามเนื้อมัดไหน ก็บอกประชาชนไปเลย แพทย์เขาแถลงได้อยู่แล้ว แต่คำอ้างเช่นนี้เป็นการอ้างแบบกำกวม ไม่ตรงไปตรงมา รู้สึกว่ามีการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” นพ.วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ก่อนเดินทางเข้ามา นายทักษิณ โชว์การชกกระสอบทราย ว่ายน้ำ แต่ค่ำนั้นป่วยหนักฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ในกรุงเทพฯ รักษาไม่ได้ ดูพฤติกรรมแล้วย้อนแย้ง วันนี้มานอนที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้  ก็บอกประชาชนก็ได้ว่ารักษาส่วนไหน มีภาพให้ดูสักหน่อย ประชาชนอุ่นใจก็โอเค แต่การทำลับๆ ล่อๆ บ่งบอกว่า คุณไม่ตรงไปตรงมา

“ผมสันนิษฐานว่า ปกติการเจ็บป่วยจะมีคณะแพทย์ที่แถลงตรงไปตรงมา แม้แต่นายกรัฐมนตรีป่วย เป็นหวัด ก็มีแพทย์แถลงว่าเป็นหวัด แต่ครั้งนี้แพทย์ไม่แถลง ซึ่งเชื่อว่าแพทย์เขารับรู้ว่า ถ้าแถลงไปแล้วจะติดบ่วงเรื่องจริยธรรม จากการจงใจแถลงอะไรผิดๆ อาจถูกยึดใบประกอบวิชาชีพ จึงให้กรมราชทัณฑ์แถลง ซึ่งผิดปกติในการรักษาพยาบาล” นพ.วรงค์ กล่าว

ทั้งนี้ ตามระเบียบราชทัณฑ์ หากเป็นนักโทษคุมขังต้องรักษาไปเช้า เย็นกลับ ยกเว้นแพทย์มีความเห็นว่าจะต้องนอนโรงพยาบาล ถึงนอนได้ ถ้าเกิน 30  วัน ต้องรายงานอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หากเกิน 60 วัน อธิบดีฯ ต้องรายงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เชื่อว่าเรื่องนี้ถ้าตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา จะมีประวัติการรักษาอย่างละเอียดว่าทำอะไรกับคนไข้บ้าง 

นพ.วรงค์ ยังกล่าวว่า บ่ายนี้จะไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ กำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ด้านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เป็นผู้รับเรื่อง กล่าวสั้นๆ ว่า จะนำเรื่องเสนอต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อพิจารณาโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]