เสนอ 4 แนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืน

สาธารณรัฐประชาชนจีน  18 ต.ค.-นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม High-Level Forum เสนอ 4 แนวทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสีเขียว การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเงินสีเขียว และความร่วมมือพหุภาคี โชว์โครงการ “แลนด์บริดจ์” ช่วยเชื่อมโยงโลก ตั้งเป้าผลิตรถปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ได้ 30% ในปี 2030 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.17 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ณ ศูนย์การประชุม China National Convention Center (CNCC) กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม High-Level Forum ภายใต้หัวข้อ “Green Silk Road for Harmony with Nature” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 10 ปีของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) พร้อมเน้นย้ำแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อมโยง (Connectivity) เป็นกลไกสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน การประชุม BRF ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ไปจนถึงการถดถอยทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งล้วนเกิดจากการเสื่อมถอยของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

 นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งจำเป็นในการขับเคลื่อน BRI ไปสู่ “ความร่วมมือสายแถบและเส้นทางคุณภาพสูง” (“High-Quality Belt and Road Cooperation”) เพื่อ “การพัฒนาและความรุ่งเรือง” (“Common Development and Prosperity”) โดยไทยมุ่งมั่นที่จะนำบทเรียนจากโครงการนี้ไปเป็นแนวปฏิบัติภายในประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คณะรัฐมนตรีวางแนวทางการศึกษาและทำแผนการดำเนินงานโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมโยงทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียเข้ากับอ่าวไทยและมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงปรับปรุงการเชื่อมต่อในพื้นที่อันดามันทางตอนใต้ ลดระยะเวลาในการเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา ภายใต้แนวคิด “One Port, Two Sides” ในระยะทางทางบก 90 กิโลเมตรทางภาคใต้ของไทย โดยนายกรัฐมนตรี หวังว่าโครงการนี้จะทำงานร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานของ BRI และมีส่วนช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงในระดับโลก


 “ไทยมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในเวทีระหว่างประเทศมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2559 โดยไทยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของอาเซียน ซึ่งได้ส่งเสริมความร่วมมือทั้งภายในอาเซียนและทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก นอกจากนี้ ในการที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 ซึ่งสามารถบรรลุเป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่ ประการแรก เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on Bio-Circular-Green (BCG) Economy) นำมาใช้เป็น กรอบการทำงานที่ครอบคลุมกรอบแรกของเอเปคในการผลักดันวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนแบบพลิกโฉมและทะเยอทะยาน ประการที่สอง การเปิดตัวรางวัล APEC BCG Awards ซึ่งไทยเป็นผู้ริเริ่มและได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากจีน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และความรู้สึกไม่แบ่งแยก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ “เส้นทางสายไหมสีเขียวเพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ” 4 ประการ ได้แก่  ประการแรก การเปลี่ยนผ่านสีเขียว (Green Transition) ในทุกภาคส่วน เพื่อจำกัดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยไทยกำลังดำเนินการตามยุทธศาสตร์ระยะยาวพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และได้ปรับแผนพลังงานแห่งชาติ เปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาด ส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มการผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ. 2030 รวมทั้ง ใช้แนวคิดเรื่องพืชไร่ที่ยั่งยืนลดความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่น จะทำให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 40 ภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประการที่สอง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไทยตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกประเภทให้ครอบคลุมร้อยละ 55 ของพื้นที่ทั้งหมด และเป้าหมาย 30 x 30 เพิ่มพื้นที่คุ้มครองทางทะเลร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ. 2030 ตามที่ไทยได้ให้คำมั่นไว้ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (COP CBD) เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงินที่ยั่งยืน จะมีส่วนสำคัญในการบรรลุเส้นทางสายไหมทางทะเลสีเขียว


“ประการที่สาม การส่งเสริมกลไกการเงินสีเขียว (Green Finance Mechanism) เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดสรรเงินทุนสำหรับการเปลี่ยนผ่านสีเขียว ซึ่งขณะนี้ไทยสามารถระดมเงินได้ถึง 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เป็นทุนสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืน และในเร็ว ๆ นี้ ไทยจะวางแผนออกพันธบัตรที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน (Sustainability Linked Bonds) อีกชุด กระตุ้นการเติบโตของตลาดพันธบัตรสีเขียว ตลอดจนสนับสนุนให้ภาคเอกชนและ MSMEs ดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประการสุดท้าย การส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคี สร้างโอกาสในการทำงานร่วมกัน ร่วมมือ แบ่งปันความรู้ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมเพื่อสวัสดิการของประชาชน ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันภายใต้ BRI และสร้างความร่วมมือ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ครอบคลุม และเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับการประชุม High-Level Forum แบ่งเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ Green, Connectivity และ Digital ซึ่งจัดขึ้นคู่ขนานกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ Green ซึ่งมีนายหาน เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีน เป็นประธานการประชุมฯ และมีผู้นำจากหลายประเทศร่วมกล่าวถ้อยแถลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]