ปลัด มท.ย้ำทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนพื้นที่น้ำท่วม

กรุงเทพฯ 1 ต.ค. – ปลัด มท. เผยการให้ความช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้เป็นไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ ขอพี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของทุกภาคส่วนในพื้นที่ พร้อมย้ำเตือนแม้สถานการณ์หลายพื้นที่จะคลี่คลายก็ “อย่าประมาท” ด้วยการติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด


วันนี้ (1 ต.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่พี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการเน้นย้ำและกำชับแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์เพิ่มเติมจากแนวทางที่ทุกจังหวัด/อำเภอถือปฏิบัติกันอยู่แล้ว คือ “เรื่องของความรวดเร็ว” ในการที่จะลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยที่สำคัญที่สุดก็คือ ทางผู้นำหน่วยในพื้นที่ อันประกอบไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอ จะต้องมีการดูแล บูรณาการเข้าไปบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน ตามมาตรการที่ได้ซักซ้อมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องใหญ่คือ “ต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบถึงสถานการณ์ของน้ำ” ทั้งน้ำจากฟากฟ้า คือ ฝนตก และน้ำจากต้นทางของแม่น้ำลำคลอง ลำห้วย คือ จากเทือกเขา รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีปริมาณความจุน้ำน้อยที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยใช้กลไกมิสเตอร์เตือนภัย จิตอาสา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ช่วยกันสอดส่อง สังเกต ดูแล และคอยเตือนภัย แจ้งเตือน (warning) เพื่อที่จะรับทราบสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงไปของสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในจุดเสี่ยงภัย เช่น บริเวณตีนเขาที่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดดินสไลด์ หรือเป็นเส้นทางที่อยู่น้ำไหลหลาก เพราะตอนนี้สถานการณ์ของทางภาคเหนือส่วนใหญ่จะเป็นน้ำไหลหลาก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่สูง และมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทั้งนี้ หากประเมินแล้วว่าจะเกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ก็จำเป็นต้องใช้อำนาจตามกฎหมายในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด/อำเภอ อย่างจริงจัง ต้องออกคำสั่งให้เด็ดขาด เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งการสร้างเครือข่ายขยายผลฐานความรู้ หรือฐานข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งน้ำ เกี่ยวกับจุดเสี่ยงภัย เกี่ยวกับช่องทางการสื่อสารที่จะเฝ้าระวังติดตามน้ำ นำข้อมูลข่าวสารจากการเฝ้าระวังติดตามน้ำไปสู่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการดำเนินการ “เมื่อเกิดภัย” ผู้นำหน่วยในพื้นที่ต้องน้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขโดยเร็ว ด้วยการบูรณาการกำลังคน ระดมสรรพกำลัง เครื่องไม้เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งจัดพื้นที่ที่ปลอดภัยไว้ให้เป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราว มีที่หลับที่นอน มีโรงครัวประกอบอาหารการกิน มีน้ำดื่มสะอาด มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องร่วมกับประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดและเหล่ากาชาดจังหวัด เป็นหน่วยหลักเติมเต็มบรรเทาความทุกข์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน นอกเหนือจากความช่วยเหลือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เรามีหลักการแนวทางและกฎหมายรองรับการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว และหากพื้นที่ไหนต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อให้เกิดการบูรณาการเข้าไปช่วยเหลือตามกฎหมาย ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคณะกรรมการตามกฎหมายสามารถพิจารณาประกาศได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ “ภายหลังการเกิดเหตุ” ต้องเข้าสู่การฟื้นฟูและเยียวยาตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการแก้ไขในขั้นต้น และในส่วนการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกับพี่น้องประชาชนจัดทำผังน้ำชุมชน (Geo-Social Map) เพื่อเติมเต็มระบบผังน้ำของประเทศไทยให้เสร็จสมบูรณ์มาเป็นเวลา 1 เดือนเศษ เรามีข้อมูลผังลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำ และผังน้ำชุมชนกว่า 100,000 ผัง ซึ่งขณะนี้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงาน สามารถนำ Geo-Social Map ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แล้ว


“สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้กำชับไปยังทุกจังหวัดในการเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงฤดูฝน ซึ่งทุกจังหวัดได้บูรณาการในการเตรียมความพร้อม และซักซ้อมแนวปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกด้าน แต่ทว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้น ก็ส่งผลทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวม 28 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย น่าน ตาก กำแพงเพชร แพร่ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ตราด กาญจนบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สตูล และยะลา รวม 94 อำเภอ 320 ตำบล 1,361 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,499 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 12 จังหวัด 61 อำเภอ 239 ตำบล 1,057 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,797 ครัวเรือน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ ยังได้กล่าวอีกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตระหนกตกใจ โดยทุกจังหวัดได้บูรณาการภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยเจตนาเดียวกัน คือ มุ่งหมายให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุด และขอเรียนว่า สถานการณ์ที่เกิดในตอนนี้เป็นภาวะน้ำท่วมไหลหลากที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะไหลลงไปสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็ว แล้วก็จะดีขึ้น “แต่ถึงอย่างไรก็อย่าได้ประมาท” ด้วยการติดตามฟังข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งจากผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง และขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของทุกภาคส่วนว่าสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามเกิดสถานการณ์อุทกภัยได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในช่วงเวลานี้ เราอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังประสบกับสถานการณ์ “น้ำท่วม” ในพื้นที่ 28 จังหวัด แต่ก็ต้องอย่าลืม “น้ำแล้ง” ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนมหาดไทยก็ต้องดูแลพี่น้องประชาชนอีกหลายจังหวัดที่ในพื้นที่กำลังประสบกับสถานการณ์ภัยแล้งจากอิทธิพลของเอลนีโญ หรือภาวะฝนแล้ง อย่างเช่นที่ จ.นครสวรรค์ ตอนนี้บึงบอระเพ็ดยังต้องเพียรพยายามสูบน้ำจากแม่น้ำน่าน ซึ่งมีระดับต่ำกว่าบึงบอระเพ็ดเป็นเมตรๆ เพื่อเติมเต็มน้ำในบึงบอระเพ็ดที่จะต้องมีระดับน้ำที่มากพอ เพื่อรักษาสมดุลสภาวะแวดล้อม หรือที่เราเรียกว่า ความหลากหลายทางชีวภาพ อันประกอบด้วย สัตว์น้ำ พืชน้ำ และนกน้ำ ที่มีเป็นหมื่นๆ ชนิดไม่ให้สูญพันธุ์ไป หรือที่ จ.พิษณุโลก ก็ยังมีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย แม้ว่าจะมีน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอที่ติดกับ จ.เลย ซึ่งเป็นที่สูง เช่น อ.วังทอง แต่ปริมาณน้ำในคลองชลประทานและแหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตรยังน้อยอยู่มาก โดยตนได้มีวิทยุแจ้งไปเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.66) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ช่วยกัน Re X-Ray สำรวจว่ามีพื้นที่เสี่ยงภัยในอำเภอและจังหวัดที่มีความเสี่ยงภัยเรื่องภัยแล้ง หรือเรื่องน้ำท่วม อยู่บริเวณไหนบ้าง และมีแนวทางเสนอแนะว่า การแก้ไขปัญหาระยะยาว อยากให้ทำอะไร และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำไปแล้ว ทำอะไร เพื่อนำเข้าสู่ระบบ MOI War Room ที่จะเป็น Big Data การบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ที่กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ สามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำสำหรับประชาชนได้ครอบคลุมทั่วถึงในทุกมิติ เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวทางไว้ว่า “ยามที่เรามีน้ำท่วม ก็ต้องพยายามระบายน้ำให้แห้ง เพื่อให้คนหายจากความเดือดร้อนโดยเร็ว แต่เวลาหน้าแล้ง เราจะไม่มีน้ำใช้” เพราะฉะนั้นดีที่สุด เราจะทำอย่างไรที่จะหาแนวทางจัดเก็บน้ำยามที่มีน้ำมาก ใส่โอ่ง ใส่ตุ่ม ใส่บึง ใส่แก้มลิง ใส่หนองน้ำ หรือถ้ามีระยะเวลายาวพอสมควร สิ่งที่เราเรียกว่า “การบริหารจัดการพื้นที่ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางไว้ในเรื่องของ “อารยเกษตร” คือ ทำให้พื้นที่ของเรามีเรื่องของแหล่งน้ำที่จะตัดมวลน้ำในที่ราบลุ่มไม่ให้ไหลลงไปสู่แม่น้ำทั้งหมด ให้เก็บไว้ในพื้นที่ที่เราสามารถกักเก็บได้


“ข้อมูลจากการ Re X-Ray พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำแล้งและน้ำท่วมที่ชาวมหาดไทยกำลังดำเนินการสำรวจให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ต.ค.นี้ จะได้นำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะท่านให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และจะได้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณานำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การบริหารจัดการงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาด้านการจัดการน้ำของประเทศที่อิงกับ Thai Water Plan : TWP ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ อาจจะไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เพราะการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง ต้องมีแหล่งน้ำขนาดเล็กมากที่จำเป็นต้องดำเนินการจัดทำ เพื่อให้สามารถช่วยตัดมวลน้ำหรือกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในยามหน้าแล้ง ไม่ให้น้ำท่วมในหน้าฝน หรือกรณีที่เจอปัญหาเฉพาะหน้าในยามที่ฝนตกหนักเช่นนี้ แต่แหล่งน้ำขนาดเล็กไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ในระบบ TWP ซึ่งจะได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาหลักการปลดล็อกการบริหารจัดการน้ำ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก TWP เพื่อให้โครงการขนาดเล็ก ขนาดย่อย สามารถได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อให้ระบบการบริหารจัดการน้ำของเราสมบูรณ์แบบ และมีความยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวการระเบิดหินในแม่น้ำชี หรือแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยยืนยันว่า “ไม่มีแนวคิดเรื่องของการใช้งบประมาณจำนวนมากไประเบิดแก่งสะพือ” เพราะกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ทำการศึกษาและมีผลการศึกษาที่สมบูรณ์แบบแล้ว ได้ข้อสรุปว่า ควรจะมีการทำ floodway หรือ “คลองคู่ขนานกับแม่น้ำชี” เพื่อให้บริเวณที่เป็นสันดอนตามธรรมชาติยังคงเป็น Soft Power ของคนไทย และใช้งบประมาณน้อยมาก ไม่ต้องทำลายธรรมชาติอันสวยงามที่แก่งสะพือ แต่บางจุดอาจต้องขยายขอบแม่น้ำที่อาจมีความจำเป็นต้องเวนคืนที่อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่บริเวณที่เป็นที่อยู่อาศัย และขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนทุกคนว่า การทำงานของภาคราชการไม่ได้ทำในลักษณะทุบโต๊ะ แต่เราทำในลักษณะให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมเป็น Partnership เป็นการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม จึงขอให้อย่าเชื่อข่าวลือ และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น สื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร/ข้อเท็จจริงจากทางราชการให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบอย่างสม่ำเสมอ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามระเบียบของทางราชการ ภายหลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ โดยพี่น้องประชาชนที่กลับเข้ายังอาคารบ้านเรือน ขอให้ตรวจสอบความเสียหายและความปลอดภัยของตัวบ้าน ก่อนที่จะกลับเข้าไปในบ้าน เช่น ระบบไฟฟ้า ท่อประปา แก๊ส รวมถึงสัตว์มีพิษที่อาจเข้ามาอาศัยในบ้าน และหากต้องการขอรับความช่วยเหลือในทุกเรื่อง ขอให้แจ้งไปยังผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ในพื้นที่ หรือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]