“วิโรจน์” เชื่อก้าวไกลทำงานกับเพื่อไทยได้

พรรคก้าวไกล 7 ส.ค. – “วิโรจน์” บอก “โอกาสมีเสมออย่าไปทิ้งโอกาส” หลังแสดงความรู้สึกให้เพื่อไทยกลับมาจับมือกับก้าวไกลเพื่อ ปชช. มั่นใจทำงานร่วมกันได้ ยกเพลง “ไม่ไหวบอกไหว” เปรียบ พร้อมให้กำลังใจ “เศรษฐา” หลังถูกข้อกังขา เชื่อหากเปลี่ยนตัวเป็น “ชัยเกษม-อุ๊งอิ๊ง” ก็ถูกขั้วอำนาจเก่าหาเรื่องมาอ้างไม่เอาอยู่ดี ขอเพื่อไทยอย่าไปยอมให้ถูกหลอกอีกเลย


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นที่โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “เดินกลับแค่เสียหน้า ถ้าเดินหน้าจะเสียทุกอย่าง” ว่าเป็นความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากประชาชนจึงได้สะท้อนออกไป ส่วนต้องการจะให้พรรคเพื่อไทยกลับมาจับมือกับพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น ไม่ได้เป็นการกลับมาจับมือกับพรรคก้าวไกล แต่กลับมาอยู่กับฝ่ายประชาชนมากกว่า เพราะฝ่ายที่จะต้องอยู่คือฝ่ายเดียวกันกับประชาชน ซึ่งมองว่าจะเป็นทางออกที่จะปกป้องเสียงของประชาชนได้ และเป็นโอกาสเดียวที่จะฟื้นฟูอุดมการณ์ของประชาธิปไตย เพราะอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน

“เป็นความเห็นส่วนตัวของตน ซึ่งจากการติดตามประวัติศาสตร์ทางการเมืองกันมา ฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือฝ่ายอำนาจนิยม เขาก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย และโหดเหี้ยมมากอยู่แล้ว แต่จุดแข็งของฝ่ายอำนาจเก่า คือการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น และใช้ยุทธวิธีเดิมๆ คือการแบ่งแยกและปกครอง อย่าคิดว่าใครมาจับมือกับใคร แต่ตนคิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องเคารพเสียงของประชาชน และปกป้องเสียงของประชาชนที่เขาอุตส่าห์ไปเลือกตั้งมา บางคนเสียสละเวลาในการทำภารกิจ ลางานเพื่อไปเลือกตั้ง ตนจึงคิดว่าฝ่ายประชาธิปไตยควรจะต้องลืมความรู้สึกแบบปัจเจก เรื่องคิดเล็กคิดน้อยกันบ้าง แต่ในเรื่องขององค์กรทางรัฐธรรมนูญ ถ้ามีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง แต่หากมีอุดมการณ์ที่ใกล้เคียงกันจะต้องทำใจให้กว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อยและมองผลประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อไรแตกปุ๊ป จบเลย เพราะฝ่ายโน้นเขาอยากให้แตกกันอยู่แล้ว แล้วถ้าเราเอาเรื่องมาฟื้นฝอยหาตะเข็มมันก็ไม่จบ” นายวิโรจน์กล่าว


นายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีสิทธิที่จะเดินหน้าหรือถอยหลัง แต่หากเรามองจากภายนอกตามประวัติศาสตร์ทางการเมือง ต้องยอมรับว่าฝ่ายประชาธิปไตยก็ถูกกระทำ และถูกหลอกจากฝ่ายอำนาจเก่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และฝ่ายอำนาจเก่าเขาไม่เคยแตกแถวกัน ทำเหมือนแตก แต่จริงๆ เป็นการแยกกันตีแล้วกลับมารวมกันเดิน

ส่วนกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เริ่มถูกตั้งข้อกังขาเหมือนที่พรรคก้าวไกลโดนนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ และตนก็ขอให้กำลังใจนายเศรษฐา เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราเคยคาดการณ์มาก่อน และเราก็เคยพูดเตือนมาแล้ว

“อย่างกรณีของก้าวไกล โดนเรื่อง ม.112 ก็เป็นเพียงข้ออ้าง พอหมดข้ออ้างหนึ่ง ก็หาข้ออ้างสอง พอหมดข้ออ้างสองก็หาข้ออ้างสาม พอเห็นท่าทีของก้าวไกลที่พร้อมจะยืดหนุ่น เปิดใจรับฟัง ก็กลายเป็นว่าอะไรที่เป็นก้าวไกลก็ไม่เอาหมดเลย และนี่แรกๆ ก็บอกไม่มีปัญหา และหลังๆ ก็ค่อยๆ งอกปัญหาออกมาเรื่อยๆ เห็นหรือไม่ว่าฝ่ายนั้นอำมหิตขนาดไหน เราก็แค่บอกว่าอย่าไปยอมให้มันหลอกเลย และประชาชนก็คือคนที่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนี้มันหลอก เพราะหากดูคอนเมนต์ในโซเชียล หรือเจอประชาชนตามตลาด ก็มักจะบอกว่าอย่าไปเชื่อมันหลอก ยอมเรื่องหนึ่งเดี๋ยวก็หาเรื่องอื่นอีก” นายวิโรจน์กล่าว


ส่วนหากเปลี่ยนเป็นเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะมีปัญหาหรือไม่ นายวิโรจน์ บอกว่า เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่หน้าที่ตน แต่เชื่อเถอะ ต่อให้เปลี่ยนเป็นใคร ฝ่ายโน้นก็หาเรื่องอยู่ดี

“เอาง่าย ๆ ของที่มันไม่ซื้ออยู่แล้ว ต่อให้เปลี่ยนเป็นชิ้นนี้ มันก็ติเอาชิ้นใหม่มาก็หาเรื่องติ ต่อให้บอกว่าถ้าไม่ใช่ชิ้นนี้ยังไงก็เอา ก็หาเรื่องติ สุดท้ายคือใจมันไม่เอา ไม่คิดจะซื้ออยู่แล้ว เพราะมันเตรียมของไว้ในกระเป๋าอยู่แล้ว ดังนั้น อย่าให้มันหลอกดีที่สุด นี่ตนพูดด้วยความหวังดี เพราะเขาหลอกประชาชนมากี่ครั้งกี่หนแล้ว จนประชาชนตอนนี้ไม่ยอมให้หลอกแล้ว”

นายวิโรจน์ ยืนยันว่า เรื่องการแก้ไข 112 ก็ไม่ใช่ประเด็น แต่จริงๆ คือกลัวว่าก้าวไปจะเข้าไปปราบทุจริต เข้าไปแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่บิดเบี้ยว หรือกลุ่มทุนผูกขาด กลุ่มทุนอุปถัมภ์ที่กินรวบแล้วกลัวว่าจะเอาเปรียบประชาชนไม่ได้เหมือนเดิม

“เมื่อถึงจังหวะมันก็ต้องฮึบ ต้องลืม เจ็บมันก็ต้อง เคยฟังเพลง ‘ไม่ไหวบอกไหว’ หรือไม่ มันต้องจับมือกันแล้วไปต่อ เพราะนี่ไม่ใช่ปัญหาของนายวิโรจน์ กับนายคนนั้น แต่มันเป็นเรื่องของปัญหาประชาชนเป็นสำคัญ ถ้าอยู่ดีๆ คุณเอาความรู้สึกไม่สบายใจส่วนตัวแล้วมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง แล้วทำให้คนที่ได้รับบาดเจ็บคือประชาชนและอุดมการณ์ประชาธิปไตย ก็คงไม่มีประโยชน์” นายวิโรจน์กล่าว

ส่วนหากเพื่อไทยกลับมาจับมือกับก้าวไกลอีกครั้งจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษอะไรหรือไม่นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงไม่มี แต่ต้องคุยกันว่าโดนแล้วใช่หรือไม่ แล้วจะมารวมมือจับมือสู้ต่อกันยังไง เพราะตนเคยบอกว่าจากเดิมเพื่อไทยก้าวไกล รวมกันได้ 312 เสียง ทำไมดูยากเย็น เพราะไม่ได้สู้กับ 188 เสียง แต่สู่กับ 424 เสียง คือ 188 รวมกับ 236 เสียง คือเสียง สว. แล้วจะเชื่อจริงๆ หรือว่า สว.แต่ละคนมีความเป็นอิสระ ตนมองว่าประชาชนไม่เชื่อ จะต้องมีคนกดปุ่ม ดังนั้น จึงไม่ต้องไปสนใจที่จะคุยกับทีละคน แต่มองว่าจะต้องคุยกับ 2 คนคือ คุยกับ สว. ที่เป็นกลาง 13 คน แต่ก็จะมีอีกกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ที่เป็น สว.ระบบกดปุ่ม ซึ่งต้องไปคุยกับเจ้าของปุ่ม แล้วจะไปเชื่อเจ้าของปุ่มได้หรือ และคิดว่าเขาจะให้ สว.ในคอนโทรล กดปุ่มให้คุณฟรีๆ โดยที่เขาไม่ได้ร่วมรัฐบาลหรือ คงเป็นไปไม่ได้ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี

“ตอนนั้นเรามี 312 งัดกับ 424 ยังเหนื่อย ตอนนี้เหลือแค่ 141 อย่าว่าแต่ 424 เลย เจอแค่ 188 ก็หนาวแล้ว ซึ่งตอนนั้น 188 เสียงยังไม่กล้ามาต่อรองยังไม่กล้าหือ เพราะฝ่ายเรายังมี 312 ทำให้ 188 ก็เลยเงียบ แล้วก็ต้องเรียกกองพลหลังม่านเข้ามาเติม 236 เลยมารวมเป็น 424 แต่ตอนนี้เหลือแค่ 141 ทำให้หลังท่านเงียบไปเลย เพราะเจอแค่ 188 เสียงก็ตายแล้ว” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากเพื่อไทยและก้าวไกลกลับมาจับมือกัน ก็คงทำงานด้วยกันได้เพราะเรื่องการทำงานกับเรื่องความรู้สึกเป็นคนละเรื่องกัน และความไม่สบายใจจะลดทอนไปเองตามกาลเวลา และการทำงานที่มันราบรื่นหากอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงพูดว่า มีลุงไม่มีเรา เพราะอุดมการณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กับพรรคเพื่อไทยเรายังมองว่า เป็นเพื่อนเรา และเคยทำงานร่วมกันตอนเป็นฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ยังตอบไม่ได้ว่าจะตรงกัน 100% แต่ส่วนใหญ่ก็มองตรงกัน ถ้าถึงจังหวะที่จะต้องฮึบๆ บ้าง ไม่ไหวบอกไหวบ้างก็จะต้องทำ เมื่อถามย้ำอีกว่ามีโอกาสที่จะกลับมาจับมือกันได้หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวช่วงท้ายว่า โอกาสมีเสมอ คุณอย่าไปทิ้งโอกาส.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]