วุ่นไม่เลิก! ยังหาข้อสรุปคำว่า “ญัตติ” ไม่ได้

รัฐสภา 19 ก.ค. – ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเถียงกันวุ่น ยังไม่ได้ข้อสรุปโหวต “พิธา” นั่งนายกฯ รอบ 2 เป็นญัตติหรือไม่ สส.เพื่อไทย-ก้าวไกล ท้วงกระบวนการเลือกนายกฯ ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ 


การประชุมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมในวันนี้ (19 ก.ค.) เริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. มีวาระสำคัญพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ซึ่งถือเป็นการพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 หลังการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีมติไม่เห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี และวันนี้ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ 8 พรรครวมจัดตั้งรัฐบาล ได้เสนอชื่อนายพิธา ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อท้าชิง

นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นทักท้วง เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ระบุว่า ญัตติใดที่ตกไปแล้ว ห้ามนำเสนอขึ้นใหม่ในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ยังไม่ได้มติ ซึ่งการประชุมรัฐสภาที่ผ่านมามีมติไม่ให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ญัตติการเสนอชื่อนายพิธาจึงถือเป็นอันตกไป และแม้ว่าจะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ก็ไม่มีเหตุการณ์อื่นใดเปลี่ยนแปลงไป แต่อาจจะขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา จึงขอใหพร้อมเสนอญัตติให้พิจารณาว่าการเสนอชื่อนายพิธา ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่


ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา สนับสนุนให้ที่ประชุมได้อภิปราย ประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนลงมติ ตามที่ที่ประชุมพรรคการเมือง และคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา หารือไว้เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) เพื่อไม่ให้ประธานรัฐสภาต้องวินิจฉัย

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เห็นแย้ง เนื่องจาก กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญบัญญัติแล้ว จึงขอให้ประธานรัฐสภาวินิจฉัย รวมถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มั่นใจว่าการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ญัตติ แต่เป็นข้อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 136

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงเนื่องจากระหว่างที่รัฐสภาพิจารณาข้อเสนอเสมือนญัตติตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถเสนอญัตติอื่นๆ ซ้อนได้ ซึ่งขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 31 และจะทำให้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ไปขัดต่อกระบวนการรัฐธรรมนูญไม่ได้ ทำให้นายอัครเดช ลุกขึ้นตอบโต้ว่า กรณีที่นายจุลพันธ์ ระบุว่า ไม่สามารถพิจารณาญัตติ ซ้อนญัตติได้นั่นหมายความว่า ได้ยอมรับแล้วว่าการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นญัตติ โดยนายจุลพันธ์ เห็นว่ากระบวนการที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ รัฐสภา ควรจะใช้เสียงข้างมาก ตัดสินว่าที่ประชุมจะเห็นชอบให้ดำเนินการไปตามทิศทางใด


นายเอกนัฏฐ์ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แนะนำให้ 8 พรรคร่วมไปตกลงกันให้ดีก่อนว่าจะดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ เพราะนายจุลพันธ์ ก็ยอมรับแล้วว่าการเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติ แต่พรรคก้าวไกลกลับเห็นค้านว่ากระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นญัตติ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกรัฐสภา กล่าวว่า อยากให้ประธานรัฐสภาและที่ประชุมพิจารณาให้ชัดเจน ที่เสนอเรื่องบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามระเบียบวาระไม่เป็นญัตติ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าการที่มีการพิจารณาในวันนี้เป็นไปตามหมวด 9 การพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี เริ่มตั้งแต่ข้อบังคับข้อที่ 136-139 ซึ่งข้อบังคับที่ 138 เขียนเอาไว้ว่า ในการพิจารณาญัตติวรรคหนึ่ง ซึ่งก็เขียนอย่างชัดเจนในข้อบังคับว่าเป็นญัตติ อีกทั้งสิ่งที่เสนอในวาระให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่เห็นด้วย และมีข้อต่างจากนายอัครเดช ว่าไม่ใช่การขัดแค่ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ดังนั้น ข้อเสนอจากตนไม่เห็นด้วย จะต้องให้มีผู้รับรองให้ญัตติหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปรายว่า ตนไม่ได้พูดว่าญัตติแต่กระบวนการทำเหมือนญัตติ ถ้าประธานไม่วินิจฉัยแล้วใครจะวินิจฉัย ถ้ารัฐสภาจะวินิจฉัยเกี่ยวกับการบังคับใช้ข้อบังคับ ก็คือการตีความข้อบังคับที่มีปัญหาอยู่ 2 ส่วน ที่เขียนเอาไว้ชัดเจนแล้วว่าข้อ 151 หากมีปัญหาตีความข้อบังคับ ให้เป็นอำนาจรัฐสภาวินิฉัย ซึ่งลงคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เท่ากับต้องได้เสียง 375 เสียงถึงจะสามารถวินิจฉัยข้อบังคับไม่ได้  แต่การโหวตครั้งนี้ถ้ารัฐสภา ได้เสียง 374 เสียง ญัตติที่เสนอมาจะตกไป วินิจฉัยไม่ได้ก็เป็นไปตามข้อบังคับ เดินหน้าเข้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้น ขอให้ประธานวินิจฉัยว่าสมาชิกสามารถเสนอญัตตินี้ได้โดยอาศัยข้อบังคับที่ 151 กรณีมีความเห็นต่างเรื่องการใช้ข้อบังคับฯ ถ้าคะแนนออกมา เสียงข้างมากได้ 375 เสียง ท่านต้องยอม แต่ถ้าไม่ได้หรือท่านได้ 374 เสียง ท่านต้องยอมพวกตนเหมือนกัน เพื่อให้มีการโหวตเลือกนายกฯ ต่อไป

“ทำไมตนถึงเถียงว่าไม่ใช่ญัตติตามข้อบังคับ ข้อ 41 อย่างที่บอกว่ามีกระบวนการเหมือนเสนอญัตติ ตนก็เป็นหนึ่งในคนร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าข้อเสนอของสภาฯ ที่ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง คือให้ไปสายก็ได้ไปขวาก็ได้แล้วแต่สภาฯ แต่รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เขียนไว้ว่าให้สภาฯ ไปเลือกนายกรัฐมนตรี เท่ากับให้ดำเนินการอย่างหนึ่งไม่มีอย่างใด ต้องเลือกอย่างเดียวจึงไม่มีคำว่าญัตตินำหน้า ไม่เหมือนกับอภิปรายทั่วไปต้องมีคำว่าญัตติ ดังนั้น ต้องชัด คือ อภิปรายตาม 151 อภิปรายโต้แย้งกันไป หรือลงมติตาม 151″ นพ.ชลน่าน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมใช้เวลาไปแล้ว เปิดประชุมไปครบ 2 ชั่วโมง ที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทำให้นายวันมูหะนัดนอร์ ต้องเปิดโอกาสให้ สส. และ สว. อภิปรายว่าการเสนอชื่อนายพิธา ถือเป็นญัตติหรือไม่ ตามการเสนอของนายอัครเดช ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดเวลาการอภิปรายไว้ 2 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่าย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 40 นาที, ฝ่าย 10 พรรคร่วมรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน 40 นาที และฝ่ายวุฒิสภา 40 นาที แต่สามารถขยายเวลาได้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดการถกเถียงกันอย่างวุ่นวายเกือบ 3 ชั่วโมง สส.ของพรรคก้าวไกลส่วนหนึ่งพยายามให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และขอให้ประธานรัฐสภาใช้อำนาจชี้ขาดตามที่ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาได้ให้อำนาจไว้ เพื่อให้ที่ประชุมเดินหน้ากระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และสมาชิกวุฒิสภา พยายามให้ที่ประชุมร่วมกันลงมติชี้ขาดว่ารัฐสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไรต่อไป.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]