“อ.ยุทธพร” มอง “พิธา” ส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” เป็นทางออกดีที่สุด

อสมท 15 ก.ค. – “อ.ยุทธพร” ประเมินโหวตเลือกนายกฯ 19 ก.ค. คะแนนไม่ต่างรอบแรก มอง “พิธา” ประกาศส่งไม้ต่อให้ “เพื่อไทย” หากก้าวไกลทำไม่สำเร็จ เป็นทางออกที่ดีที่สุด วิเคราะห์ “ก้าวไกล” ยื่นแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นเกมสกัดกั้นเพื่อไทย-เชิงสัญลักษณ์


รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ผ่าน เพราะ ส.ส.บางส่วน และ ส.ว. ติดเงื่อนไขไม่เอาก้าวไกล ต้องให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน ว่า พรรคก้าวไกลต้องเผชิญกับโมเมนตัมทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการโหวตนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 1 ไม่ผ่าน แล้วจะต้องมีการโหวตรอบที่ 2 รอบที่ 3 หรือไม่ ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โมเมนตัมทางการเมืองก็จะเหวี่ยงกลับมาที่พรรคก้าวไกลและนายพิธา เพราะการที่นายพิธาได้รับการเสนอชื่อหลายครั้ง ก็อาจเกิดคำถามว่า ระหว่างผลประโยชน์ทางการเมืองของนายพิธา ของพรรคก้าวไกล และผลประโยชน์ของประเทศที่ไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้ อะไรคือหมุดหมายที่สำคัญกว่ากัน นี่คือโมเมนตัมที่รออยู่ข้างหน้า อีกทั้งยังมีเรื่องการเมืองของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ซึ่งมีเสียงสะท้อนออกมาบ้างแล้ว สำหรับความต้องการปรับสมการทางการเมือง เช่น ให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันและนำไปสู่การข้ามขั้วทางการเมือง

ส่วนมองเกมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.นี้ อย่างไรนั้น รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า เกรงคะแนนวันที่ 19 ก.ค. จะคล้ายกับวันที่ 13 ก.ค. เพราะในระยะเวลาไม่กี่วัน การจะไปเปลี่ยนความคิดทัศนคติของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะมีกลไกต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยการมีคณะทำงานและการไปพูดคุยกับ ส.ว. แต่ก็ไม่เห็นความชัดเจนรายชื่อของ ส.ว. ที่จะสนับสนุนออกมาให้เห็น แม้จะมีคำยืนยันจากพรรคก้าวไกล สุดท้าย ส.ว.หลายคนที่เคยมีชื่อว่าจะสนับสนุนนายพิธา กลับไม่เข้าร่วมประชุม หรืองดออกเสียง หรือบางคนโหวตไม่เห็นชอบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอนในวันที่ 19 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ประเมินคะแนนที่ออกมาน่าจะไม่ต่างกับวันที่ 13 ก.ค. หรืออาจจะน้อยกว่าเดิม เนื่องจากมีการยื่นแก้ไขกฎหมายมาตรา 272 ที่เป็นการตัดอำนาจ ส.ว.


เมื่อถามว่า อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นที่มาทำให้นายพิธา โพสต์คลิปวิดีโอประกาศจะสู้ต่อ แต่ถ้าไม่สามารถเดินต่อไปได้ จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร มองว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคก้าวไกล ในชั่วโมงที่พรรคก้าวไกลอาจจะไม่มีความเป็นไปได้ในการเป็นแกนนำ และนายพิธา อาจจะไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจับมือกันของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ที่เป็นเอกภาพ เป็นภาพที่ดูดีและสวยงามในการสะท้อนเจตจำนงของประชาชน เพราะที่ผ่านมาการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นเอกภาพมาโดยตลอด ดังนั้น ถ้าวันใดวันหนึ่งพรรคก้าวไกลไม่สามารถเดินต่อได้ นายพิธาไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้การเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล

ส่วนในสมการที่ยังมีก้าวไกล จะยังเป็นไปได้หรือไม่ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ยังพอเป็นไปได้ แม้ ส.ว.บางส่วนระบุว่า ไม่มีพรรคก้าวไกลถึงจะโหวตให้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกล แม้จะเป็นพรรคเพื่อไทยก็จะไม่โหวตให้ พร้อมมองว่า ส.ว.หลายคนก็ยังพอมีเหตุผล แม้จะมีก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงสมการที่พรรคก้าวไกลยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 ในชั่วโมงที่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. อย่างไรบ้างนั้น รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า สมการในการแก้มาตรา 272 เป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. เป็นการแก้ในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้สังคมและสมาชิกรัฐสภาได้เห็นว่า มาตรา 272 มีปัญหาจริงๆ ในการทำให้โครงสร้างรัฐสภาบิดเบี้ยว จึงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่ทำโดยไม่ได้หวังผล ตามที่พรรคก้าวไกลได้วางแผนว่า ภายใน 3-4 สัปดาห์ จะสามารถแก้ไขกฎหมายได้เรียบร้อย คิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะกลไกในการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องอาศัยเสียง ส.ว. ในวาระแรกไม่น้อยกว่า 84 เสียง และยังต้องมีเสียงของพรรคที่ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอีกร้อยละ 20 ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้เป็นไปได้ยาก แต่จุดสำคัญอยู่ในประการที่ 2 คือ การยื่นขอแก้ไขมาตรา 272 คือเกมสกัดพรรคเพื่อไทย โดยการพยายามตีให้พรรคเพื่อไทยหงายไพ่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทย และ ส.ว. ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 จนอาจจะมีการพูดถึงดีลลับ ระหว่างเพื่อไทย กับ ส.ว. หรือไม่ อีกประการหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 272 เท่ากับว่า พรรคเพื่อไทยจะก้าวเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งร่วมกับพรรคก้าวไกล ในการยืนฝั่งตรงข้ามกับ ส.ว. เพราะวันนี้ชัดเจนว่า ฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ว. คือ พรรคก้าวไกล นั่นหมายถึงว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ยากขึ้น


เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของด้อมส้ม ที่มีปฏิกิริยาถึง ส.ว. สะท้อนอะไรบ้าง รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นปัจจัยของการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนต้องการเข้ามาเป็นผู้เล่นทางการเมือง ซึ่งทุกวันนี้มีโซเชียลมีเดียที่ทำให้คนเข้ามารับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารไปยังผู้คนในสังคมและผู้มีอำนาจทางการเมือง นอกจากเรื่องการเคลื่อนไหวของผู้คน ก็ยังมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น การประกาศวางมือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมีนายกฯ ในดวงใจแล้ว จึงประกาศวางมือทางการเมือง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคำถามเรื่องการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี แต่ก็ยังไม่เคยประกาศวางมือทางการเมือง รวมถึงต้องเช็กเสียงแล้วว่า นายกฯ ในดวงใจมีเสียงที่ไปได้และทุกฝ่ายให้การยอมรับ อีกประการหนึ่งคือ การกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถ้าจะกลับประเทศไทย ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้น ทางการเมืองแบบมวลชนและการวางมือของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือประเด็นนายทักษิณกลับบ้าน ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]