เคารพเสียง ปชช. แต่ต้องป้องสถาบันหลักชาติ

รัฐสภา 13 ก.ค. – “เสรี” ยันไม่เลือก “พิธา” ต่อให้บอกไม่แก้ ม.112 ตอนนี้ก็ไม่เชื่อ โอด ส.ว. ทนเสียงก่นด่าตลอด 4 ปี ย้ำเคารพเสียงของประชาชน แต่ต้องทำหน้าที่ปกป้อง 3 เสาหลักของชาติ พร้อมดักทางถ้าไม่ได้อย่ายุยง-ปลุกม็อบ


นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวอภิปรายว่า การพิจารณาให้ความเห็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ สิ่งที่ตนเสนอต่อที่ประชุมไม่ได้เกิดจากความอคติ หรือความไม่ชอบนายพิธาหรือพรรคก้าวไกล แต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่บัญญัติชัดเจนว่าให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำว่าสมควรอยากให้ที่ประชุมได้พิจารณา โดยเห็นว่านายพิธาไม่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเหตุผลสำคัญในฐานะวุฒิสภา ที่ถูกพูดเสมอว่าเราจะไม่เลือกนายพิธาตามมติมหาชนในการเลือกตั้ง และต้องทำความเข้าใจว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนลงคะแนนเลือกแต่ละพรรคการเมืองมาก็ต้องทำตามฉันทามติของประชาชน ถามว่าเราไม่ให้ความเคารพประชาชนหรือไม่ ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าเราก็ให้ความเคารพ แต่การทำหน้าที่ในรัฐสภาเป็นกระบวนการอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

นายเสรี กล่าวว่า วันนี้มีการนัดหมายประชาชาให้ออกมาแสดงเจตจำนงร่วมกันในต่างจังหวัดทั่วประเทศ จนสื่อมวลชนถามตนไม่กลัวเสียงประชาชนนอกสภาฯ ที่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกฯ หรือ ก็ต้องตอบว่ากลัว กลัวมาก ว่าจะเข้าใจผิดว่าวุฒิสภาไม่ให้ความเคารพเสียงของประชาชน แต่ด้วยความเกรงกลัวเสียงของประชาชน ก็คำนึงถึงหน้าที่วุฒิสภาที่ต้องทำงานปกป้องรักษาประเทศ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ตอนนี้เป็นภารกิจหน้าที่สำคัญที่เป็นคนละส่วนของการทำหน้าที่ในรัฐสภา และการทำหน้าที่ในรัฐสภาก็มีเสียงพูดว่าเสียงที่สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีจากหลายพรรคการเมือง จนรวมกัน 8 พรรคตั้งรัฐบาล เมื่อรวมเสียงกันแล้วได้ถึง 30 ล้านเสียง ทำให้ประชาชนก่นด่าวุฒิสภาที่จะไม่เลือกนายพิธา แต่พรรคก้าวไกลได้ 14 เสียง อย่าสำคัญว่าตัวเองได้ 30 ล้านเสียง และเสียงที่เหลือเป็นของพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนนจากประชาชนถึง 10 ล้านเสียง เท่ากับว่าไม่ได้เลือกนายพิธาเป็นนายกฯ แต่เลือกแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เท่ากับว่า ส.ส. แต่ละพรรครวมเสียงกันเพื่อเลือกนายพิธา เป็นนายกฯ จึงต้องทำความเข้าใจว่าวุฒิสภาเคารพเสียงของประชาชนแล้ว


นายเสรี ยังกล่าวถึงคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 ที่กำหนดเรื่องคุณสมบัติห้ามถือหุ้นสื่อตามมาตรา 98(3) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ต้องใช้ดุลพินิจเห็นชอบบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นความเห็นชอบอยู่ที่คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม เป็นสิ่งที่วุฒิสภาให้ความสำคัญตลอด นายกรัฐมนตรีที่จะเข้าไปบริหารประเทศต้องมีความชัดเจนที่จะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการลบหลู่ ดูหมิ่น ไม่ปกป้องสถาบัน และหากพูดถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นวาระสำคัญที่ต้องแก้ไขหรือไม่ ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดมีความตระหนักว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านเมืองก่อนการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เกิดจากเหตุผลว่าให้เป็นสากล ไม่ได้เกิดเป็นเหตุผลว่าต้องสร้างแนวทางกฎหมายเป็นเพียงปกป้องดูแลประชาชนที่ถูกกันแกล้งในทางการเมือง หรือทางคดีต่างๆ ดังนั้น คนที่จะมาบริหารประเทศต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน ซึ่งตัวเลขของผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากการยุยง เสนอแนวคิดให้ละเมิดจาบจ้วงสถาบันเป็นคดีมากมาย อีกทั้งยังใช้สถานะ ส.ส. ไปรับรองขอประกันตัวเด็กและเยาวชน ซึ่งหากจะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ควรออกมาห้ามปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้น สิ่งที่ทำมาปรากฏชัดเจนว่าเป็นการล้มล้าง หากเป็นเช่นนี้จะให้วุฒิสภาสนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะผิดวิสัย

“ตนขอพูดเผื่อเอาไว้เลยว่า หากตนพูดแล้ว ท่านอยากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วมาพูดว่าจะไม่แก้ไขมาตรา 112 หรือจะไม่ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว อยากพูดก็พูดมาแต่ตนไม่เชื่อแล้ว เพราะตนไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมาเป็นประวัติศาสตร์ยาวนาน จะมาพูดคำเดียวว่าตนไม่แก้ 112 แล้ว ตนคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง วันนี้พูดแบบนี้ วันหน้าไม่กลับมาแก้อีกหรือ สิ่งที่ตนพูดไม่ได้ เกิดจากความไม่ชอบ และรู้สึกไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา ที่ถูกพูดจาด่าทอ และอดทนเพื่อปกป้องสถาบัน และเสี่ยงที่จะลงคะแนนเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเราไม่ได้คิด ที่จะไม่ให้ความเคารพประชาชนและหลังจากลงมติไปแล้วหากได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนจนทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ตนก็ยินดี แต่หากเสียงไม่ถึง ท่านต้องไม่แสดงพฤติกรรมการกระทำใดๆ ที่จะไปปลุกม็อบ ไปเรียกร้องไปดำเนินการใดๆ ให้คนในประเทศนี้ออกมาสนับสนุนผลักดันให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะนี่เป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญ และหากสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยไม่ใช่ใครอื่น มันเกิดจากที่พวกท่านไปยุยงส่งเสริมประชาชนให้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย“ นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า เสียงในการลงคะแนนมติต่างๆ อยากจะขอกราบเรียนด้วยความเคารพ ว่าเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดที่จะไม่ให้ความเคารพพี่น้องประชาชน หลังจากลงมติไปแล้วถ้าได้เสียงประชาชนสนับสนุนจนเกิดให้ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ยินดี แต่ถ้าหากเสียงไม่ถึงก็ต้องกราบเรียนด้วยความเคารพ ว่าท่านจะต้องไม่แสดงพฤติกรรมการกระทำใดๆ ที่จะปลุกม็อบ ไปเรียกร้องไปดำเนินการใดๆ ให้คนในประเทศนี้ออกมาสนับสนุน ผลักดัน เรียกร้องให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะการโหวตเป็นกติกาทางรัฐธรรมนูญ หากว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยไม่ใช่ใครอื่น มันเกิดจากที่พวกท่านไปยุยงส่งเสริมประชาชนให้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย


“มีประชาชนมาเรียกท่านนายกพิธา ตนก็เห็นว่าเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน เป็นความรัก เป็นความเชื่อ เป็นความศรัทธา แต่พออยู่ในกระบวนการในการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ความประพฤติ ตนไม่อยากเห็นภาพที่นายพิธาเดินลงพื้นที่ และมีประชาชนมาก้มกราบท่าน ทั้งที่ยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ตนได้คิดว่าสิ่งที่ปรากฏ อันเกิดจากการที่ประชาชนเขาอยากจะกราบจริงหรือ หรือจ้างคนมา ซึ่งมันไม่ควร สิ่งที่เกิดขึ้นเอาเด็กมาขึ้นเวทีเชียร์ อายุ 10 ขวบเชียร์ ทางวุฒิสภา ตนรู้สึกว่าตนลำบากเหมือนกันนะครับ ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน คนที่เชียร์นายพิธา ถ้าฟังแล้ว จะเลือกคนที่มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญกระทำการอันเป็นการที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงมาตรา 112 ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอให้นำเรื่องเหล่านี้ไปพิจารณา ก่อนที่จะออกมาชุมนุมเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสนับสนุนให้เป็นนายกอีกครั้ง ตนไม่เห็นด้วยที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลเป็นผู้บริหารประเทศหรือเป็นนายกรัฐมนตรี” นายเสรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]