“เพื่อไทย” ต้องชัดหลักการโหวต ปธ.สภาฯ

อสมท 21 มิ.ย. – “อ.โอฬาร” ชี้ “เพื่อไทย” ต้องชัดหลักการโหวตประธานสภาฯ ระบุหากซ้อนแผนมองแค่ชนะทางการเมือง มีราคาต้องจ่ายสูง เตือนประชาชนกำลังจับตา อย่าเปลี่ยนเจตนารมณ์ บอก “ดีลลับพลิกขั้ว” เกิดขึ้นได้ แนะขอให้ใจเย็น การเดินต้องสุขุม หาก “พิธา” สะดุด มีสิทธิเป็นแกนตั้งรัฐบาล


รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย เอาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่ชัดเจนจะเกิดการซ้อนแผนหรือไม่ ว่า ขณะนี้เพื่อไทยได้สื่อสารชัดถึงหลักการว่า พรรคอันดับ 1 ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคอันดับ 2 ต้องได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน แต่ไม่ได้บอกว่าใครจะได้ ซึ่งทำให้ทุกคนตีความว่า โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ค่อนข้างสูง แต่ตนเองมองว่า ปัญหาของพรรคเพื่อไทย หลายครั้งคือเมื่อสื่อสารไปแล้วจะมีคนในพรรคมาทำให้หลักการพร่ามัว เช่น การที่นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยถึงหลักการของพรรค แต่แกนนำพรรคบอกว่า ต้องรอมติของพรรคที่ชัดเจนอีกครั้ง จึงทำให้ทุกคนเกิดความกังวลใจต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทย สิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องประเมินให้ดีคือกระแสสังคม เราต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งและแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ ประชาชนคาดหวังให้ 8 พรรคร่วม มัดรวมกันและยืนภายใต้หลักการที่ตรงไปตรงมาต่อประชาชน ดังนั้นเมื่อกระแสเป็นเช่นนี้ ทำให้ผู้คนจับตาไปที่พรรคเพื่อไทยว่าจะผิดหลักการเสียเองหรือไม่ เพราะถ้าหากดูกระแสข่าวว่าจะมีพรรคขั้วฝ่ายค้าน จะเสนอชื่อแกนนำของพรรคเพื่อไทย และจะมีการสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และมองว่าเรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้

“ถ้ามองการเมืองเพียงแค่การชนะกัน ให้ได้มาซึ่งตำแหน่งทางการเมือง เพื่อหวังผลในการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าทำแบบนี้ พรรคเพื่อไทยมีราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก เพราะเที่ยวนี้การทำงานการเมืองที่ใช้เล่ห์เหลี่ยม เพื่อหวังชัยชนะระยะสั้น อาจจะเสียหายระยะยาวได้ เพราะประชาชนส่งเสียงมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเห็นได้จากการที่ประชาชนคอยจับตาดูอยู่ นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องประเมินดีๆ ถ้าจะไม่ทำตามหลักการที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้“ รศ.ดร.โอฬาร ระบุ

เมื่อถามว่า การออกมาบอกเพียงหลักการเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ แต่เมื่อถึงเวลาโหวตบอกว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. หากเป็นไปในแนวทางนั้นจะเป็นอย่างไร รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า หากไปถึงจุดนั้น พรรคเพื่อไทยยากที่จะปฎิเสธ สมมติว่าพรรคเพื่อไทยบอกว่าเป็นการโหวตลับ และโดยมารยาททางการเมืองในการเสนอชื่อประธานสภาฯ จะไม่เสนอชื่อตัวแทนของพรรคตัวเอง คือเปิดโอกาสให้ ส.ส.พรรคไหนก็ได้เสนอ แต่หากมีพรรคไหนเสนอชื่อคนในพรรคเพื่อไทย และคนในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ปฏิเสธ และมีเสียงเกินกว่าซีกที่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลเกินมา จนทำให้ชนะการโหวต จะทำให้พรรคเพื่อไทยตอบสังคมได้ยาก และจะถูกมองว่าพรรคเพื่อไทยไม่ทำตามเจตนารมณ์เดิม ซึ่งจะทำให้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล แตกหักกันได้ รวมถึงอาจมีผลไปถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคเพื่อไทยเล่นเกมนี้

เมื่อถามต่อว่า เปอร์เซ็นต์ที่จะมีการพลิกขั้วได้หรือไม่ เพราะกระแสดีลลับก็กลับมาอีกแล้ว ประจวบกับ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปประเทศอังกฤษ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า นี่คือปัญหาของการเมืองไทย

“มีนักการเมืองส่วนหนึ่งที่ทำงานการเมืองแบบใช้เล่ห์เพทุบาย เพื่อให้ได้ชัยชนะ ให้ได้อำนาจ เป็นความสำเร็จทางการเมือง เขาประเมินประชาชน สังคมต่ำมาก แทบไม่ได้ประเมินเลย แค่ได้ชัยชนะจากการเลือกตั้ง ตัวเองจะไปปู้ยี่ปู้ยำอำนาจอย่างไรก็ได้ นั่นคือการเมืองแบบเดิมที่มีคนคิดแบบนั้น และมีอยู่ในการเมืองไทยจริงๆ เวลานี้ ถามว่าโอกาสเกิดดีลลับ การข้ามฟากข้ามฝั่ง มีขึ้นหรือไม่ คำตอบคือมี ย้ำว่าเที่ยวนี้หากใครทำแบบนั้น ประชาชนจะลงโทษอย่างแน่นอน หากมีพรรคใดพรรคหนึ่งใน 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ขัดคำสัญญา ประชาชนจะรู้สึกว่าคุณเล่นละครตบตา และเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเล่นเกมนี้ จริงอยู่อาจได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีพื้นที่ยืนในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คนในพรรคเพื่อไทยก็ประเมินอยู่ ถ้าจะเล่นการเมืองแบบเดิม มีดีลลับกันทีหลัง หวังจะเปิดทางให้คนอีกฟากหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือเปิดทางให้นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทย หากยังมีวัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ สิ่งที่จะเจอในอนาคตจะเป็นอย่างไร“ รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

เมื่อถามถึงความพยายามรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย จะสูญเปล่าใช่หรือไม่ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า จะจบ ซึ่งตนมองไม่ออกว่าตอนนี้ใครเป็นผู้เดินเกม หากพรรคก้าวไกลเป็นผู้เดินเกม ก็เท่ากับว่าทำให้พรรคเพื่อไทยบิดไปไหนไม่ได้ และส่วนตัวคิดว่ามีบางคนในพรรคเพื่อไทย คิดเพียงกระแสสภาวะตอนนี้ ส่วนคนที่ต้องการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทย อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คนเหล่านี้จะพัง หากพรรคเพื่อไทยไปดีลลับ หรือข้ามฟากก็จบเลย ต้นทุนทั้งหมดจะหายไป ประชาชนจะลงโทษอย่างหนัก

รศ.ดร.โอฬาร กล่าวว่า ตอนนี้มีทางเดียว คือ พรรคเพื่อไทยต้องยืนยันหลักการเอาไว้ ให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะ ส.ว.อาจไม่ยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลก็ได้ แต่ถ้าใน 8 พรรคร่วม คุยกันให้ชัดเจนว่า หากโหวต 3-4 ครั้ง แล้วยังไม่ได้ ก็เป็นความชอบธรรมของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นแกนนำ มันมีทางออกที่จะให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกฯ อยู่ และถ้าถึงที่สุด เชื่อว่ามวลชนจะเข้าใจได้ถึงเงื่อนไขทางการเมืองไทย แล้วพรรคเพื่อไทยก็จะไม่เสียศรัทธาประชาชน และยังได้ตำแหน่งนายกฯ ด้วย

“พรรคเพื่อไทยต้องประเมินให้ออกว่า เส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายพิธา อาจไม่ง่าย และจะรู้ว่าควรเดินอย่างไร แต่ถ้าไม่ตามกระแส ตามข่าวเต้า ข่าวปล่อย ก็จบเลย” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ถึงสูตรที่จะให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า เป็นไปได้ถ้าคิดในมุมการเมืองแบบเดิม เพราะมีคนคิดอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่เที่ยวนี้การเมือง การตื่นตัวของประชาชนค่อนข้างมาก จึงทำให้ทุกอย่างในการตัดสินใจที่ไม่อยู่ภายใต้เจตนารมณ์ของประชาชน มีต้นทุนและมีราคาที่ต้องจ่าย

เมื่อถามว่า ความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเคยประกาศไว้ว่าไม่เอา 2 ลุง รศ.ดร.โอฬาร ย้ำว่า ถ้าข้ามฟากข้ามฝั่ง คงต้องรอเวลาให้สถานการณ์พาไปเอง จนประชาชนเข้าใจว่านี่คือความจำเป็นของพรรคเพื่อไทย เช่น มีแนวโน้มว่า ส.ว.จะไม่โหวตนายกฯ ให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยขอร่วมตั้ง โดยมีพรรคภูมิใจไทยมาหลังจากนั้น ในการจัดตั้งรัฐบาลอาจไม่มีพรรคก้าวไกลก็ได้ ให้เป็นไปตามหลักการเงื่อนไข ซึ่งการเดินต้องสุขุม ต้องยึดเจตนารมณ์ของประชาชนเอาไว้ และประชาชนคาดหวังความตรงไปตรงมาของนักการเมือง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]