“พิธา” ยันก้าวไกลยังดัน 300 นโยบายได้ ผ่านฝ่ายบริหาร-สภา

พรรคก้าวไกล 23 พ.ค.-“พิธา” ยันก้าวไกลยังดัน 300 นโยบายได้ ผ่านฝ่ายบริหาร-สภา ระบุเข้าใจ ”ปิยบุตร” กังวลใจ แต่ใน MOU-รธน. มีทิศทางเดียวกัน เชื่อไม่มีปัญหา ย้ำเดินหน้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท เตรียมเดินสายพบธุรกิจฟื้นเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการลงนาม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ว่าการจัดทำบันทึกความเข้าใจของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการทำงานในวาระร่วมกันขั้นต่ำ ในส่วนของพรรคก้าวไกลมีกว่า 300 นโยบาย ซึ่งการทำงานที่เป็นวาระร่วมกัน 23 ข้อ และยังมีอีกหลายวาระเฉพาะของพรรคก้าวไกลที่จะขับเคลื่อนผ่านกลไกการบริหาร ในฐานะตนเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารจัดการให้วาระของพรรคก้าวไกลที่ได้นำเสนอไว้ให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลที่จะอยู่ในกระทรวงต่างๆ ในการผลักดันวาระ ที่จะดูแลนโยบายที่พรรคก้าวไกลเคยนำเสนอเอาไว้ และหากพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้อยู่ในกระทรวงที่ต้องการขับเคลื่อนนโยบายโดยตรง ก็จะประสานงานผ่านรัฐบาลร่วม ให้ช่วยผลักดันนโยบายให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติผ่าน ส.ส.พรรคก้าวไกล 152 คน เชื่อว่าจะผ่านกฎหมายเพื่อให้เกิดการถกเถียง มีกรรมาธิการ ใช้กลไกฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามาขับเคลื่อน เช่น พ.ร.บ.น้ำสะอาด พ.ร.บ.คำนำหน้าทางเพศ ย้ำว่าการที่มี MOU จึงเป็นวาระร่วมแค่ขั้นต่ำที่ประชาชนจะคาดหวังได้ ส่วนหลายประเด็นที่ประชาชนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฏหมายก้าวหน้ารัฐบาลยังมีวาระเฉพาะที่สามารถจะผลักดันได้


สำหรับกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวไกล โพสต์ข้อความถึงเนื้อหาภายใน MOU ที่ไม่มีการระบุถึงการแก้ไขมาตรา 112 และมีการปรับแก้เนื้อหาก่อนการลงนามนั้น นายพิธา กล่าวว่า เป็นความกังวลใจของนายปิยบุตร แต่ข้อความก็เป็นข้อความตามรัฐธรรมนูญ MOU กับรัฐธรรมนูญเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาหรือเข้าใจผิดอะไรกัน

ส่วนขั้นตอนภายหลังที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ลงนามใน MOU ร่วมกันแล้วนั้น นายพิธา ชี้แจงว่า ระหว่างนี้จะยังคงเดินสายพบปะประชาชน และต่อไปจะเชิญพรรคร่วมมาร่วมรับฟังกันมากขึ้น เพราะรัฐบาลจะต้องทำนโยบายร่วม ซึ่งการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรี จะคำนึงถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งแน่นอน และความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนั้น ก็เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง และระบบที่ผู้ชนะเลือกตั้งจะสามารถตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ซึ่งเป็นผลกระบต่อจากรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้น หากเจตจำนงประชาชนภายหลังการเลือกตั้งไม่สูญเปล่า ตลาดเศรษฐกิจ และตลาดการเงินของไทยไปต่อได้แน่นอน


นายพิธา ยังกล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition Team ได้เริ่มจากการพบปะพูดคุยกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้หารือกันหลายประเด็นทั้งเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการสนับสนุน SME การหาแรงงานได้ตรงกับความต้องการ รวมถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตามค่าเงินเฟ้อ หรือการเติบโตของ GDP พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อบรรเทาทุกข์ประชาชนในช่วงของแพง ค่าแรงถูก ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอ 450 บาท พรรคเพื่อไทยเสนอ 400 บาท แต่ยังมีมุมของผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจเรื่องการสมทบเงินประกันสังคม 6 เดือนแรก การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 เท่า 2 ปีสามารถที่จะหักภาษีได้ หรือมาตรการลดภาษีให้กับ SME ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพใหญ่ในการประชุมของสภาอุตสาหกรรม

“ต้องยืนยันว่าเรายังเดินหน้าเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลผสม ตอนนี้กำลังเดินหน้ารับฟัง โดยในช่วงวันศุกร์นี้ (26 พ.ค.) จะพูดคุยกับหอการค้าแรงงาน สภา SME สภาแรงงาน เพื่อรับฟังอย่างรอบคอบ เรื่องค่าแรงขั้นต่ำมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นและต้องขึ้นอย่างสม่ำเสมอโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ทั้งกลุ่มนายจ้างที่จะควบคุมต้นทุนของตัวเองได้ เพราะไม่ได้ขึ้นแรงมาก แต่ใช้วิธีการขึ้นน้อยและขึ้นบ่อย ส่วนลูกจ้างจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพพลังงานเกิดขึ้นได้จริง”

นายพิธาได้ตอบคำถามเรื่องค่าแรง 450 บาทของพรรคก้าวไกล ว่า มีหลักการว่าที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้มีการขึ้นค่าแรงบ่อยครั้ง นับตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงอาศัยการคำนวนค่าเงินเฟ้อ และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงประสิทธิภาพของแรงงานที่เพิ่มขึ้นจำนวนค่าแรงควรอยู่ที่ประมาณ 425-440 บาทต่อวัน พรรคก้าวไกลจึงได้เสนอ 450 บาท ควบคู่กับมาตรการดูแลผู้ประกอบการไปด้วย ยืนยันไม่ได้ขึ้นค่าแรงตามใจตัวเอง ขึ้นแบบมีหลักการ หลักสากล ตอนนี้ยังมีเวลาก่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ดังนั้นในเวลา 2 เดือนนี้ ผมจึงต้องเดินสายทำงานให้รอบคอบ” นายพิธา กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]