ก้าวไกลเดินหน้าแก้ ม.112 ในสภาเอง เชื่อสำเร็จ

รร.คอนราด 22 พ.ค.-“พิธา” ย้ำก้าวไกลเดินหน้าแก้ ม.112 เองในสภา เชื่อจะสำเร็จ เพราะสถานการณ์เปลี่ยน ขณะที่พรรคร่วมเห็นต่างขอดูร่างฯ ของก้าวไกล ด้าน “วันนอร์” ขอโอกาสรัฐบาลก้าวไกล หลังให้โอกาสคนที่ยึดอำนาจมาตั้ง 9 ปี

ภายหลังจากการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในจัดตั้งรัฐบาล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถาม โดยคำถามแรกคือเรื่องการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ไม่อยู่ใน MOU แสดงว่ารัฐบาลพรรคก้าวไกล แม้ตั้งรัฐบาลได้ก็คงไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากเสียงไม่พอใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลยืนยันยังทำอยู่ และเมื่อเดือน ก.พ.ปี64 ได้ยื่นต่อสภา แต่ยังไม่มีการบรรจุในวาระ ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยการดำเนินการของพรรคก้าวไกล และตอนนี้บรรยากาศก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ยกตัวอย่างได้อย่างได้จากสื่อมวลชนที่กล้าพูดเรื่องนี้อย่างมีนัยสำคัญ และมีวุฒิภาวะ


เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวยังยืนยันเรื่องการแก้ ม.112 จะมีผลต่อเสียง ส.ว. ที่จะสนับสนุนนายพิธา ให้เป็นนายกฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเรามีทีมเจรจา มีโอกาสได้ตอบข้อกังวลใจหลายเรื่อง ไม่ทำให้กฎหมาย ม.112 เป็นเครื่องมือในการโจมตีทางการเมือง และเมื่อได้อธิบายให้เห็น และเปรียบเทียบกับความเป็นสากล อีกทั้งใน MOU ก็ระบุชัดว่าจะดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์ น่าจะทำให้ ส.ว.และประชาชนจำนวนมากสบายใจ ยืนยัน ม.112 เป็น 1 ใน 45 กฎหมายที่พรรคก้าวไกลจะยื่นต่อสภา พร้อมเชื่อว่าจะพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และเมื่อได้พูดคุยกับ ส.ว.ก็มีแนวโน้มและทิศทางที่ดี เป็นแนวโน้มที่ดีมาก

เมื่อถามว่าหากนำเรื่อง ม.112 และเรื่องทุจริต จะมีคำมั่นสัญญาอย่างไรว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ประชาชนไม่เห็นด้วย และหากพรรคก้าวไกลยืนยันจะยื่นแก้ไข ม.112 พรรคร่วมที่เหลือจะว่าอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า การที่มีบันทึกความเข้าใจตรงกันเป็นหารผลักดันวาระที่เห็นร่วมและความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งมีทั้งวาระร่วมและวาระเฉพาะของแต่ละพรรคเพื่อไม่ให้ขัดแย้งจากข้อตกลง MOU ส่วนเรื่องคอร์รัปชันก็มีระบุใน MOU ชัดเจน


ส่วนจุดยืนในประเด็นมาตรา 112 พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคเพื่อไทย ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย มีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า MOU ที่ทำมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถ้าอะไรที่จะทำให้เกิดความไม่สำเร็จ จะไม่ทำ ดังนั้น ในประเด็นมาตรา 112 ต้องไปดูรายละเอียดตัวร่างกฎหมายที่จะเสนอว่าจะเป็นประโยชน์ หรือมีผลกระทบอย่างไร จะตอบเป็นข้อสรุปทันทีในวันนี้ไม่ได้ ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวยืนยันไม่แก้ไขและไม่ยกเลิกมาตรา 112

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ประเด็นมาตรา 112 ถือเป็นเรื่องในอนาคต แต่ทางพรรคไม่มีนโยบายตรงนี้ แต่ตนเองสามารถให้ข้อเสนอแนะในเรื่องนี้ เพราะตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รู้ในเรื่องที่หลายคนไม่รู้ ก็จะให้คำแนะนำได้

เมื่อถามถึงแผนสำรองของพรรคก้าวไกลกรณีเสนอชื่อนายกฯ และไม่ผ่าน 376 เสียงของรัฐสภา จะดำเนินการอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า กระบวนการในการเจรจาและการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองเป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะไปอยู่ในซิแนริโอนั้น จึงไม่กังวลของตน และการทำงานกันมากับพรรคเพื่อไทย และทุกพรรคร่วม มีความหนักแน่นไม่ว่าจะมีข่าวลือหรือมีการพูดให้สั่นคลอน ทุกพรรคทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกันและให้เกียรติซึ่งกันและกัน


ส่วนการวิเคราะห์ทางการเมืองว่าจะยุบพรรคพลังประชาชนและมี ส.ส.ย้ายมารวมกับพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีกระแสว่าจะมีการยุบพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ ส.ส .ไปรวมกันกับเพื่อไทยได้เสียง 182 เสียง และจัดตั้งรัฐบาล ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยรับรู้ไม่เคยรับทราบ และพรรคเองก็ได้ยินจากการวิเคราะห์ ดังนั้นยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยรับรู้และขอปฏิเสธว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แม้เหตุการณ์จะเกิดจริงหรือไม่จริงการรวมกันหากพรรคพลังประชารัฐยุบพรรค ต้องตอบว่าเป็นไปไม่ได้

“และที่สำคัญที่สุดที่บอกว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลขอยืนยันครั้งที่ 501 ว่า เรายังยึดมั่นตามเจตนารมณ์ที่เราประกาศที่จะสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และร่วมมือกับก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้ได้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวได้รับในการจัดตั้งรัฐบาลที่ฮ่องกง จะสร้างความหวาดระแวงกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอตอบเป็นครั้งที่ 502 ว่า ข่าวลือเป็นสิ่งที่ทุกคนร่ำรือได้ แต่ขอยืนยันแล้ว พรรคเพื่อไทยยังยึดมั่นในเจตนารมณ์ของประชาชน และได้ประกาศชัดเจนว่าเราจะสนับสนุนพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วแต่

เมื่อถามถึงประเด็นการป้องกันการรัฐประหารนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตนนั่งอยู่ในหอประชุมกองทัพบก ต้องนั่งฟังคำประกาศยึดอำนาจด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่งจากอดีต ผบ.ทบ.ขณะนั้นและเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนี้

เมื่อฟังการยึดอำนาจแล้วก็มีความคิดว่าประชาชนคนไทย 70 ล้านกว่าคน ถูกคนไม่กี่คนประกาศยึดอำนาจได้ง่าย ๆ แบบนี้หรือ ขอให้การยึดอำนาจปี 57 เป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทย ไม่ควรมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว ดีใจว่าวันนี้เรามาเพื่อกระจายอำนาจ กระจายความหวังและความสุขให้ประชาชนทุกคน อยากวิงวอนทุกคนทุกฝ่ายที่อาจเห็นตรงกันหรือต่างกัน ขอให้ให้โอกาสพวกเราทำงานให้ประชาชน ในเมื่อให้โอกาสคนยึดอำนาจมาตั้ง 9 ปี ก็ควรให้อำนาจในการคืนความสุขให้ประชาชน ทั้งนี้อาจจะไม่พอใจ 100% ตนอยากวิงวอนว่า การทำงาน การเจรจาใดๆ ไม่มี 100% แต่ต้องถอยคนละก้าว เพื่อก้าวไปข้างหน้า เพื่อประชาชน ตนและอีกหลายคนมีความหวังอยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การขจัดรัฐประหาร ถ้าดู MOU ผลักดันรัฐธรรมนูญของประชาชน ไม่ให้มาจากปลายกระบอกปืน แต่ต้องมาปลายปากกาของประชาชน ต้องเป็นจารีต การรัฐประหารคือ กบฏ ต้องถูกลงโทษ และอยากให้รัฐประหารปี 57 เป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทย

นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องและเคยมีอำนาจจากรัฐประหาร ควรลงจากอำนาจได้แล้ว วันนี้ ประชาชนพิสูจน์ คนมาใช้สิทธิจำนวนมากเรียกร้องประชาธิปไตย ให้ช่วยส่งกำลังใจพวกเราฝ่าฟันอุปสรรคให้ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ

ขณะที่กระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ พรรคก้าวไกลและการเมืองอื่นๆ ผู้ใดจะเป็นผู้นำเรื่องนี้ และทหารจะเป็นผู้นำหรือพลเรือน นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้จะนำโดยตรงซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนบุคคลในแต่ละกระบวนการเป็นเรื่องรายละเอียด แต่ขอให้คำมั่นสัญญาว่า กระบวนการสันติภาพต้องมีพลเรือนอยู่ในกระบวนการ และพลเรือนต้องนำทหารในเรื่องนี้ พร้อมต้องเปลี่ยนให้เป็นเรื่องความมั่งคั่งทางอาหาร ทางสาธารณสุข ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการแก้ไขที่ไม่ถูกวิธีมายาวนาน มีการใช้อำนาจพิเศษ ไม่ได้คำนึงถึงคนในพื้นที่ ซึ่งใน MOU มีการสร้างสันติสุข การกระจายอำนาจ อีกทั้งต้องมีการเจรจาเพื่อให้คนเหล่านั้นกลับสู่แผ่นดินแม่อย่างสงบสุข ยืนยันไม่มีใครคิดอยากแบ่งแยก อาจจะมีแต่น้อยมาก ซึ่งต้องใช้เจรจาให้ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]