“ก้าวไกล” เปิด 7 ขุนพลทีมเศรษฐกิจ

พรรคก้าวไกล 22 มี.ค.- “ก้าวไกล” เปิด 7 ขุนพลทีมเศรษฐกิจ ประกาศวาระสู่อนาคตสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม ตั้ง 3 เป้าหมาย รากฐานชีวิตคนไทยมั่นคง – กติกาแข่งขันเป็นธรรม – พาธุรกิจไทยบุกตลาดโลก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลเปิดตัวแกนนำหลักทีมเศรษฐกิจ 7 คน ที่มาจากหลากหลายวิชาชีพ ทั้ง ส.ส. นักวิชาการ ข้าราชการ นักธุรกิจ เชี่ยวชาญครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจภาคเมือง เศรษฐกิจภาคชนบท เศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมไฮเทค ประกอบด้วย 1.นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองศาสตราจารย์จาก GRIPS มหาวิทยาลัยด้านนโยบายสาธารณะ ประเทศญี่ปุ่น 2.นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล อดีตผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อดีตกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi 3. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล 4.นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล อดีตผู้อำนวยการ TCDC และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5. นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการเงินและนักยุทธศาสตร์ด้านข้อมูล6. นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center)และ 7.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

สำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล คือ การเติบโตอย่างเป็นธรรม (Inclusive Growth) ด้วยการทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ขณะเดียวกัน ดอกผลของการพัฒนาต้องถูกกระจายอย่างเป็นธรรม โดยมี 3 เรื่องหลักที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ การสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้มั่นคง (Firm Ground) การสร้างกลไกภาครัฐและกติกาการแข่งขันที่เป็นธรรม (Fair Game) และ การผลักดันเครื่องจักรเศรษฐกิจตัวใหม่ๆ ที่เติบโตไปพร้อมกับซัพพลายเชนโลก (Fast Forward Growth)


นายวีระยุทธ ประกาศวาระ ‘หมดยุค Made in Thailand ถึงเวลา Made with Thailand’ โดยนโยบาย Made in Thailand ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี คือการชวนคนเข้ามาลงทุน ลดแลกแจกแถม มีมาตรการภาษีสร้างแรงจูงใจ ทำให้จีดีพีประเทศโตขึ้น แต่คนไทยได้ส่วนแบ่งดอกผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนโยบายนี้ไม่เหมาะกับธรรมชาติอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ที่ห่วงโซ่การผลิตไม่ได้ยึดติดกับดินแดนของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น การผลิตสมาร์ทโฟน ซึ่งประเทศไทยตกขบวนไปแล้ว มีการออกแบบในสหรัฐอเมริกา ใช้ชิปจากไต้หวัน ตัวเก็บประจุจากญี่ปุ่น จอภาพจากเกาหลีใต้ ประกอบในจีนและอินเดีย ใช้สิทธิบัตรจากสวีเดน ดังนั้น ประเทศไทยต้องไม่ยึดติดกับคำว่า ‘In’ หรือการลงทุนในดินแดน แต่ต้องคิดใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้ คนไทย การผลิตแบบไทย สิทธิบัตรไทย เข้าไปเชื่อมโยงเป็นส่วนผสมหนึ่งของซัพพลายเชนโลก

“พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมและภาคการผลิต ให้เป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีการ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ รวมถึงเปลี่ยนผู้ทำนโยบายเท่านั้น ถึงจะเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยได้”นายวีระยุทธ กล่าว

นายสิทธิพล ประกาศวาระ “เปิดโอกาส เปิดตลาด SME” โดยกล่าวว่า ปัจจุบันไทยมี SME 3 ล้านราย จ้างงานถึง 1 ใน 3 ของประเทศ แต่ที่ผ่านมา SME อ่อนแอลงเรื่อยๆ พรรคก้าวไกลเสนอนโยบาย 5ต. ทำให้ SME กลับมาเข้มแข็งเป็นพลังของเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย (1) ‘เติมทุน’ คือทุนตั้งตัว 100,000 บาท และทุนสร้างตัว 1,000,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น โดยภายใน 4 ปีภายใต้รัฐบาลก้าวไกล ตั้งเป้าจะสร้างผู้ประกอบการ SME ที่เข้มแข็งกว่า 1 ล้านราย (2) ‘เติมตลาด’ เพื่อให้ SME เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น (3) ‘ตั้งสภา’ SME ให้สามารถรวมกลุ่มกันได้ มีปากเสียงทัดเทียมกับทุนใหญ่ รวมถึงกำหนดนิยาม SME ให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาบริษัทขนาดใหญ่แตกบริษัทขนาดย่อยมาแข่งขัน (4) ‘ตัดรายจ่าย’ โดยปรับโครงสร้างภาษีนิติบุคคลในระบบก้าวหน้า ให้ SME เสียภาษีอัตราต่ำลง และ SME สามารถนำค่าจ้างมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าเป็นเวลา 2 ปี และ (5) ‘แต้มต่อ’ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทขนาดใหญ่ที่สนับสนุน SME สร้างระบบบริษัทใหญ่ช่วยบริษัทเล็ก เติบโตไปด้วยกัน รวมถึงนโยบายทีเด็ดอย่าง “หวยใบเสร็จ” ที่จะทำให้การอุดหนุนสินค้าจากร้านรายย่อย ลุ้นได้เงินล้านทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย


นายวรภพ ประกาศวาระ ‘ทลายทุนผูกขาดเพื่อลดค่าครองชีพ’ โดยกล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ SME จำเป็นต้องจัดการกับทุนผูกขาด ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสุราที่มีมูลค่าเกือบ 500,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งพรรคก้าวไกลจะแก้กฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิเติบโตไปแข่งขันกับรายใหญ่ได้ การผูกขาดพลังงานหรือค่าไฟฟ้า ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเสนอให้ยุติการผูกขาดสายส่ง เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า ปลดล็อคหลังคา เปิดให้บ้านเรือนใช้ ระบบ Net Metering ได้ ประชาชนติดตั้งโซลาร์บนหลังคา กลางวันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าก็ขายคืนเข้าระบบ และจัดสรรก๊าซธรรมชาติของอ่าวไทยใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่กลุ่มทุนเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลจะยกเครื่องกฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ เปลี่ยนที่มาและเพิ่มอำนาจในการยุติการควบรวม และสามารถสั่งให้แยกกิจการที่ผูกขาดเพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม

นายอภิสิทธิ์ ประกาศวาระ ‘ระเบิดพลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์’ โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท มีคนทำงานในอุตสาหกรรมราว 900,000 คน พรรคก้าวไกลพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยให้เทียบเท่านานาอารยประเทศ โดยจะเข้าไปแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกทั้งหมด 4 อย่าง ประกอบด้วย (1) เติมงบประมาณ โดยต้องมีทิศทางการใช้จ่ายที่ชัดเจนไปในทางเดียวกัน ผ่านการเติมเงินกองทุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคนตัวเล็กในการแสดงความสามารถ และกองทุนนี้ต้องทำหน้าที่เหมือนกองทุนตั้งตัวของ SME (2) สร้างสวัสดิการให้แก่คนทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งมีทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังหลายส่วน เช่น คนยกของ คนจัดไฟ ทุกคนต้องมีสวัสดิการรองรับ ให้มีคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่ดี รองรับความไม่แน่นอน (3) เพิ่มทักษะความรู้และคุณภาพแก่คนในอุตสาหกรรม รวมถึงเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในจังหวัดต่างๆ โดยนำพื้นที่ราชพัสดุหรือพื้นที่ทหารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และ (4) ให้เสรีภาพแก่คนทำงาน ทบทวนแก้ไขกฎหมายที่กดทับวิธีคิดสร้างสรรค์ เช่น กฎหมายเซ็นเซอร์

นายชัยวัฒน์ ประกาศวาระ ‘แปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์’ โดยกล่าวว่า ข้อมูลเปรียบเหมือนน้ำมันดิบในโลกยุคใหม่ จากประสบการณ์การทำงานในภาคการเงินและธนาคาร เห็นอุปสรรคมากมายที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจเพียงเพราะขาดทรัพยากรข้อมูล ดังนั้น บทบาทของรัฐภายใต้รัฐบาลก้าวไกล จะปรับเปลี่ยนเป็นผู้สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล 3 อย่าง ได้แก่ (1) การพัฒนามาตรฐานข้อมูลและสร้าง “ถนนข้อมูล” ที่จะทำให้ข้อมูลสามารถเชื่องโยงกันได้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน (2) การสร้างกฎจราจรให้มีกลไกควบคุมเรื่องความเป็นส่วนตัวและคุ้มครองความปลอดภัย และ (3) การสร้างพื้นที่จัดเก็บทรัพยากรข้อมูลให้พร้อมใช้ เป็นขุมทรัพย์สำหรับภาคเอกชน นำมากลั่นสร้างธุรกิจแพลตฟอร์มบริการใหม่ๆ ต่อยอดมูลค่าให้สูงขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวกระโดด ช่วยลดต้นทุนและกำแพงในการริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ อย่างมหาศาล เช่น การมีข้อมูลด้านสุขภาพที่ครอบคลุมสามารถช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับความจำเป็นของแต่ละคนได้ดีขึ้นด้วยราคาที่ถูกลง

นายเดชรัต ประกาศวาระ ‘หยุดแช่แข็งชนบทไทย’ โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาโอกาสของภาคเกษตรไทยน้อยกว่าภาคการผลิตอื่น ในขณะที่เราหวังให้เกษตรกรอยู่คู่กับเมืองไทย แต่เราไม่เคยมีสวัสดิการและความมั่นคงในที่ดินให้เกษตรกร ทั้งหมดนี้นำมาสู่ปัญหาเรื้อรัง ในขณะที่ตนเป็นข้าราชการ สามารถออกจากระบบได้เพราะมีบำนาญรองรับ แต่พี่น้องเกษตรกรที่มีอายุมากกว่า 70 ปี กว่า 400,000 คน ไม่สามารถออกจากภาคการเกษตรได้เพราะยังอยู่ในวงจรหนี้ ดังนั้น รัฐบาลก้าวไกลจะเปิดทางเลือกให้เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการ เกษตรกรที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ต้องได้รับเบี้ยยังชีพ 3,000 บาทต่อเดือน หากเจ็บป่วยติดบ้านติดเตียงต้องมีคนดูแลรักษา เด็กที่เกิดในครอบครัวเกษตรกรต้องได้รับสวัสดิการ 1,200 บาทต่อเดือน ส่วนเรื่องที่ดินทำกิน พรรคก้าวไกลพร้อมตั้งกองทุนพิสูจน์สิทธิและรับรองสิทธิในที่ดินทำกิน 10 ล้านไร่ โดยมีมาตรการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบหรือแสวงหาผลกำไรจากนายทุน พี่น้องเกษตรกรที่อยู่มาก่อนรัฐประกาศทับที่จะต้องได้รับโฉนด หน่วยงานราชการที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินต้องคืนให้แก่ประชาชน รวมถึงการปลดล็อกหนี้สิน เช่น รัฐช่วยเช่าที่ดินของเกษตรกรเพื่อปลูกป่าและนำมาชำระหนี้ พรรคก้าวไกลเชื่อว่านโยบายทั้งหมดนี้ จะเพิ่มทางเลือกในชีวิตให้แก่เกษตรกร และหยุดการแช่แข็งภาคการเกษตรและชนบทไทย เปลี่ยนชนบทไทยให้ไม่เหมือนเดิม

น.ส.ศิริกัญญา ประกาศวาระ ‘ยกเครื่องภาครัฐ นำเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า’ โดยกล่าวว่า การเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย ต้องอาศัย 5 กลไก ได้แก่ (1) งบประมาณ หากก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะมีการทำงบประมาณฐานศูนย์ (zero based budgeting) จัดงบประมาณโดยจัดลำดับความสำคัญใหม่ เนื่องจากที่ผ่านการจัดงบประมาณของภาครัฐไม่สะท้อนทิศทางนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น แผนงบประมาณของภาครัฐ มีแต่การใช้หนี้สร้างถนนหรือแหล่งน้ำ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมมีงบประมาณเพียงแค่หลัก 10 ล้านบาท (2) กิโยตินกฎระเบียบ เพราะกฎระเบียบยิ่งมาก คนที่ต้องแบกรับภาระคือ SME หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล ต้องมีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ ลดกฎระเบียบให้ได้ 50% หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องยาก แต่จากประสบการณ์ในสภาฯ 4 ปี ตนเห็นแล้วว่าสามารถทำได้ ถ้ารัฐบาลมีเจตจำนงแน่วแน่ ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าเราพร้อมงัดข้อกับระบบราชการ ปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ในการประกอบธุรกิจให้สะดวกยิ่งขึ้น

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กลไกที่ (3) ปรับโครงสร้างกระทรวง เพื่อให้การยุบ-ควบรวมหน่วยงานรัฐ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (4) การกระจายอำนาจ เนื่องจากท้องถิ่นมีศักยภาพมหาศาลที่จะระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ รัฐบาลก้าวไกลจะเติมงบประมาณ อำนาจและทรัพยากร ไม่ให้ท้องถิ่นถูกแช่แข็ง แต่จะเป็นตัวจุดพลังทางเศรษฐกิจไทยให้กลับมา สร้างงานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และ (5) การต่างประเทศ หากจะดำเนินนโยบายแบบ Made with Thailand ต้องมีสำนักงานผู้แทนการค้าที่ดูทั้งเรื่องการค้าและการลงทุน เพื่อแสวงหาโอกาสของประเทศไทย วางตำแหน่งและยุทธศาสตร์ของแต่ละอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน เพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของโลก

“ต้องปรับใหญ่ทั้ง 5 กลไก เพื่อให้การทำงานของภาครัฐตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปข้างหน้าท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก เราเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยให้ไม่เหมือนเดิมและเติบโตไปสู่อนาคตได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]