คะแนนนิยม “พล.อ.ประยุทธ์” อย่างเดียวไม่พอ

นิด้า 7 มี.ค.-“ผอ.นิด้าโพล” ชี้รทสช.ต้องปรับกลยุทธ์ ดึงคะแนนนิยมพรรคให้ได้ม่กขึ้น แม้ชาวสงขลาจะอยากได้ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ  ด้าน “อ.วรรณธรรม” มั่นใจไม่มีพรรคไหนชนะแลนด์สไลด์สงขลา แม้ปชป.ยังครองใจ ขณะที่ “อ.พิชาย” มอง กลุ่มคนรุ่นใหม่แบ่งใจให้ “เพื่อไทย-ก้าวไกล”


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนสงขลาเลือกพรรคไหน” พบว่าคนสงขลาสนับสนุนให้เป็น พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สูงสุด 26% แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่คนสงขลาจะลงคะแนนเลือก ส.ส.เขตมากที่สุด 23.46% ว่า จากผลสำรวจที่เคยทำไม่ว่าพรรคที่ชอบหรือคนที่ใช่ในจังหวัดภาคใต้จะพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้รับความนิยมหนาแน่นมากในภาคใต้ เรียกว่านำที่หนึ่งมาโดยตลอด

“แต่ถ้าไปดูคะแนนของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือก่อนหน้านี้ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐมีคะแนนสูสีกัน แต่พอพล.อ.ประยุทธ์มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติคนยังเกิดความสับสนว่าอยู่พรรคไหนกันแน่ แต่ก็มีส่วนหนึ่งยังคงชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ และจากสัดส่วนมีความเป็นไปได้ที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีคะแนนนิยมของพรรคในพื้นที่ขึ้นมาใกล้เคียงกับพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งจากผลโพล ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ในจังหวัดสงขลามี 26% แต่พรรครวมไทยสร้างชาติมีคะแนน 15.91% จึงยังมีความต่างกัน ซึ่งหากสามารถเพิ่มความนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติให้ขึ้นมาอยู่ที่ 23 ถึง 24% จะสามารถชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ทันที ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าระยะเวลาในการเลือกตั้งมีไม่มากในช่วงสองเดือน หากรวมไทยสร้างชาติไล่ไม่ทันพรรคประชาธิปัตย์ก็จะกวาดคะแนนขึ้นมาทั้งหมด แม้จะมีพรรคอื่นแซงขึ้นมาได้บ้างในบางเขต” นายสุวิชา กล่าว


เมื่อถามความเป็นไปได้ถึงการเจาะพื้นที่จังหวัดสงขลาและภาคใต้ของพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะมีอดีตขุนพลของพรรคประชาธิปัตย์สังกัดจำนวนมากจะมีความยากง่ายเพียงใด นายสุวิชา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติมีฐานเสียงเดียวกัน การเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคพลังประชารัฐมาร่วมแชร์คะแนน ดังนั้น การที่มีพรรครวมไทยสร้างชาติเกิดขึ้นมาใหม่จึงเปรียบเสมือนการแย่งปลาในบ่อเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่ารอบนี้ใครจะตักปลาขึ้นมาได้มากกว่ากัน ซึ่งตนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบมากกว่า เพราะฐานเก่าฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติต้องใช้กลยุทธ์เพื่อหาทางไล่คะแนนขึ้นมาให้ทัน

ส่วนการประกาศว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัย ในฐานะพรรครวมไทยสร้างชาติที่จังหวัดสงขลาวันที่ 11 มีนาคมนี้ ถือเป็นการช่วงชิงจังหวะที่คะแนนนิยมจะช่วยดันคะแนนของพรรคได้หรือไม่ นายสุวิชา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะดันคะแนนขึ้นมาได้ แต่พล.อ.ประยุทธ์คงต้องอ้อนประชาชนให้มากที่สุดว่าอยากได้พล.อ.ประยุทธ์ต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะจากคะแนนผลสำรวจพบว่าคนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ใน 4 อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี และ1ใน 3 ของคนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐอยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ 1ใน 2 ของคนที่ยังไม่ตัดสินใจก็อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีรวมแล้วอยู่ที่ 8% ถ้าสามารถดึง 8% นี้ได้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะปักเก้าอี้ในจังหวัดสงขลาได้จำนวนมาก ส่วนพรรคการเมืองอื่นที่คาดว่าจะแทรกเข้ามาในพื้นที่สงขลาได้ คาดว่าภูมิใจไทยจะได้ 1 ที่นั่ง

ด้านนายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดสงขลา จะมีพรรคการเมืองใดเจาะพื้นที่ได้บ้างนั้น จากผลสำรวจพบว่าไม่มีพรรคการเมืองใดจะแลนด์สไลด์ในพื้นที่สงขลาได้ ซึ่งคะแนนสามารถพลิกได้ตลอดเวลา อีกครั้งจากผลสำรวจที่น่าสนใจคือ ประชาชนยังต้องการส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยากได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีความย้อนแย้งกัน จึงต้องมาดูว่าในการเลือกตั้งพล.อ.ประยุทธ์จะมีคะแนนจริงหรือไม่ เพราะโพลครั้งนี้เป็นเพียงความคาดหวัง แต่ยังไม่เห็นคะแนนชัดเจน และจากโพลพรรครวมไทยสร้างชาติยังอยู่อันดับ 3


“การที่เรามองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้อยู่ที่พรรคก้าวไกล พรรคไทยภักดีอย่างเดียว แต่คนรุ่นใหม่ยังเกิดในพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ได้เช่นกัน ซึ่งต้องไปดูฝีมือและกลยุทธ์การแข่งขันของแต่ละพรรคการเมือง อีกจุดที่พลาดไม่ได้คือคนที่เข้าไปทำพื้นที่คือพรรคภูมิใจไทยที่ได้พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตหัวหน้าทีมภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมงาน และช่วยพลังประชารัฐเจาะพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ได้มาแล้ว ดังนั้นรอบนี้ต้องจับตาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะรักษาเก้าอี้หรือจะทำให้ครบทั้ง 9 เขตได้หรือไม่ เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่ชูพล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับความนิยม แต่ยังไม่เห็นคะแนนจริง และพรรคภูมิใจไทย ก้าวไกลหรือพลังประชารัฐก็น่าจับตา” นายวรรณธรรม กล่าว

ส่วนชั่วโมงนี้คนในพื้นที่จ.สงขลาให้ความนิยมกับตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองมากกว่ากัน นายวรรณธร กล่าวว่า คนในพื้นที่มีความชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ แม้ยังไม่รู้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะส่งใครเป็นผู้สมัคร และสิ่งที่น่าสนใจคือหากคนสงขลา เลือกตามผลโพลนี้ แต่ไม่ได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในความเป็นจริงต้องไปดูว่าพรรคการเมืองใดที่มีคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ต้องส่งบุคคลนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี  อยู่ที่การตกลงทางการเมือง หรือจตามใจตามผลโพลคือต้องให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่แปลกที่วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในจังหวัดสงขลา เปรียบเสมือนการวัดศักดิ์ศรีและ การรักษาอำนาจฐานเดียวกัน

เมื่อถามว่าการขึ้นป้ายหาเสียงที่มีรูปคู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะช่วยเพิ่มคะแนนเสียงได้หรือไม่ นายวรรณธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความนิยมในพื้นที่ หากจำได้ในอดีตเคยมีวลีที่ว่า ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ ติดภาพนายชวน หลีกภัย  อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้คะแนนเสียงแล้ว ดังนั้น ต้องดูว่าครั้งนี้จะศักดิ์สิทธิ์เหมือนนายชวนหรือไม่ สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ถือว่ามีความท้าทาย เพราะปัจจุบันคนเรียนรู้มากขึ้น คงไม่ใช่เฉพาะเสาไฟฟ้า เพราะต้องดูสายไฟด้วย ดูองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน

ขณะที่นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดสงขลามองข้ามพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งผลสำรวจพบว่าในเขตอำเภอเมืองและเขตหาดใหญ่ 2 พรรคนี้มีความนิยมสูง อีกทั้งคะแนนสูสีกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่ง2 เขตนี้น่าจะแข่งขันเข้มข้นมากและเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล หากใช้กลยุทธ์ที่ดี อาจประสบชัยชนะได้ สำหรับเงื่อนไขที่สำคัญคือสองเขตนี้เป็นพื้นที่ที่พัฒนาเศรษฐกิจสูงและยังมีมหาวิทยาลัย ดังนั้น จังหวัดสงขลาต้องไม่ประมาทพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล

นายพิชาย กล่าวว่า ช่วง 10 ปีมานี้พัฒนาการทางเศรษฐกิจและการศึกษามีมากขึ้น ดังนั้น มีคนที่คิดอยากจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นช่วงอายุ 18 ถึง 35 ปี จากผลสำรวจพบว่าคนในช่วงวัยนี้จะเลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่หากไปดูสัดส่วนจำนวนประชากรจะพบว่าคนในช่วงอายุ 18 ถึง 35 ปี ยังมีไม่มากแต่หากอยู่ในเขตเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในพื้นที่ใต้ จากการสำรวจของนิด้าโพล เมื่อตุลาคม 2565 พบว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีคะแนนในจังหวัดสงขลา 8% แต่จากการสำรวจครั้งนี้เพิ่มขึ้นมา 18% นี่คือการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับคะแนนของพรรคเพื่อไทยที่ขยับขึ้นเป็น20% จึงเป็นสิ่งที่ใครๆก็ประมาทไม่ได้ ดังนั้น จะบอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงแล้วนอนมา ก็แพ้ได้เหมือนกัน ถ้าประมาท ส่วนนโยบายจะมีส่วนช่วยเปลี่ยนใจประชาชนภายหลังหรือไม่

นายพิชาย กล่าวว่า คงมีส่วน โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นส่วนตัดสินใจของกลุ่มคนทำธุรกิจและคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเป็นสัดส่วนกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความชื่นชอบกับนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะยึดติดกับพรรคที่คิดนโยบาย และพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนช่วงวัยกลางคนอายุตั้งแต่ 36 ปีไปจนถึง50ปีจะนิยมและเลือกพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 35 ปีจะเลือกพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]