พรรคการเมืองลุยพื้นที่เปิดหน้าชนไม่เกรงใจกันแล้ว

อสมท. 2 มี.ค. –“วันวิชิต” อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ มองพรรคการเมืองลุยลงพื้นที่เร็ว ไม่รอยุบสภา เป็นการเปิดเกมชน หมดเวลาเกรงใจ มีโอกาสตอบโต้จุดอ่อน โชว์จุดแข็งผ่านนโยบายมากขึ้น


นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงจัดเวทีปราศรัยโดยไม่รอวันยุบสภา ว่า นับจากนี้พรรคการเมืองคงไม่รอให้วันยุบสภาเป็นวันที่นับหนึ่งในการหาเสียงแล้ว เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว และต้องเปิดเกมชนอย่างตรงไปตรงมา หมดเวลาเกรงใจกันแล้ว เพราะท้ายที่สุดความได้เปรียบทางการเมืองคือตัวเลขที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ถ้าได้เกินเป้าหรือตามเป้า อำนาจต่อรองจะยิ่งมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการทบทวนว่าตลอด4 ปีที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองมีผลงานอะไรบ้าง ติดขัดอุปสรรคปัญหาอย่างไร เพราะอาจมีบางพรรคการเมืองที่เล่นการเมืองแบบตัดแข่งตัดขาจะได้ชี้แจงกับประชาชนได้ถูก

นายวันวิชิต กล่าวว่า การทำการเมืองต่อเนื่องหลายวันจะได้แก้เกม แก้แท็คติก และยังได้ โปรโมทนโยบายใหม่ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อแต่ละพรรคมีนโยบายออกมาก็จะเกิดการเปรียบเทียบ ระหว่างนโยบายเก่ากับนโยบายใหม่และยังมีพรรคการเมืองอื่นด้วย จากนั้นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็จะมาเลือกว่านโยบายใดที่จูงใจและสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองได้รับประโยชน์ เพราะฉะนั้นการทำนโยบายในการหาเสียงกกต. ต้องตรวจทานว่าเป็นนโยบายที่ทำได้หรือโฆษณาเกินจริง


“แต่ที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง พอมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ จะอ้างเรื่องงบประมาณหรือปัจจัยแทรกอื่นอย่างสถานการณ์ โควิด-19 แม้ดูว่าเป็นคำแก้ตัวแต่ก็ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของพรรคการเมืองนั้น ๆ เช่น พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายกัญชา ขับเคลื่อนโครงสร้างคมนาคมถือว่ามีความโดดเด่น แม้ว่าจะถูกจับผิดวิพากษ์วิจารณ์ แต่อย่างน้อยการบรรลุเป้า ทำตามนโยบายก็เห็นแนวคิด ความรู้สึกและกระแทกไปถึงประชาชนว่าตอบรับมากน้อยแค่ไหน หากไม่ดีก็หยุด หากดีก็ทำต่อเนื่อง” นายวันวิชิต กล่าว

นายวันวิชิต กล่าวว่า นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติประกาศออกมาก็แสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้จะเป็นการกระตุ้นไปยังฐานเสียงของกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ส่วนพรรคเพื่อไทยก็โยนนโยบายแนวคิดเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 25,000 บาท ตามเงื่อนไขความสามารถ และค่าแรงขึ้นต่ำตามขึ้นบันไดภายใน 4 ปี แน่นอนว่าเป็นนโยบายดึงดูดและนำไปสู่การกระตุ้นความรู้สึกว่านำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมาแนวคิดที่แปลกใหม่หรือความมั่นใจที่พรรคเพื่อไทยคิดว่ามีโอกาสซึ่งก็เป็นทางเลือกอีกแบบนึง ขณะที่พรรคก้าวไกลมีความโดดเด่นเน้นเรื่องการปฏิรูปทั้งการเมือง กองทัพ และระบบสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งต้องการพุ่งเป้าไปยังฐานเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล จึงเป็นช่วงที่ต่างฝ่ายต่างเน้นจุดแข็งของตนเอง เพื่อนำไปสู่การแข่งขัน

“ในช่วงแรกของการหาเสียง แต่ละพรรคการเมืองจะเน้นไปที่นโยบายเบื้องต้นและกลุ่มฐานเสียงของแต่ละพรรค ส่วนกระบวนการต่อไปจะเป็นการเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเชิญชวนว่าทำไมต้องเลือกนโยบายของพรรค จะเห็นว่าในช่วงหลังตอบโต้ลักษณะว่านโยบายเช่นนั้นทำไม่ได้จะเอาเงินงบประมาณมาจากไหน ซึ่งเป็นการลดคุณค่าหรือโจมตีไปยังจุดอ่อน พรรคที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องแก้ต่าง หรือสร้างชุดคำอธิบายมาทักท้วง ซึ่งวิธีการนี้ทำให้สังคมมีความสร้างสรรค์ เกิดการแลกเปลี่ยน และนำนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองมาศึกษา พูดคุยกันมากกว่าการโจมตีใส่ร้ายกัน เป็นการยกระดับคุณภาพการหาเสียง เมื่อก่อนจะใช้รูปแบบการกล่าวหากันโดยตรงว่าพรรคการเมืองนั้นซื้อเสียง พรรคนั้นคอรัปชั่น และอาจจะเป็นเพราะกฎหมาย การเลือกตั้งว่าหากมีการหาเสียงแบบใส่ร้ายป้ายสีก็อาจถูกฟ้องและถูกยุบพรรคได้ และทำให้เกิดอุปสรรคเท่ากับเป็นการบังคับให้ทุกภาพอยู่ในเกมที่สร้างสรรค์” นายวันวิชิต กล่าว


ส่วนรูปแบบที่พรรคการเมืองจะใช้สู้ศึกเลือกตั้งจะเปลี่ยนไป เน้นใช้นโยบายหาเสียงมากกว่าการโจมตี ซึ่งเป็นจากการเมืองแบบเดิมใช่หรือไม่ นายวันวิชิต  กล่าวว่า แน่นอนว่าการต่อสู้เชิงนโยบายจะแตกแขนงหลากหลายมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2562 โดยเฉพาะเวทีดีเบตที่ไม่ยึดติดตัวบุคคล ว่าต้องเป็นระดับหัวหน้าพรรคหรือแกนนำระดับต้น แต่พบว่ามีผู้เชี่ยวชาญแต่ละเรื่องของแต่ละพรรค เช่น นโยบายด้านพลังงาน นโยบายด้านความมั่นคง ฯ ซึ่ง แต่ละพรรคการเมืองก็จะส่งขุนพลที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคมา เพื่อสร้างความหลากหลายและถือเป็นอาวุธเด็ด ว่าแต่ละพรรคมีบุคลากรที่มีความหลากหลาย มากความสามารถนำไปสู่การจูงใจ และดึงดูดใจประชาชนได้ศึกษากึ๋น และเห็นแนวทางของแต่ละพรรคการเมือง ว่านโยบายทำได้จริงหรือโฆษณาชวนเชื่อเท่ากับว่าเวทีดีเบตแบบนี้ ทำให้ประชาชน ได้เห็นและเรียนรู้ไปด้วยกันขณะเดียวกันเป็นการบังคับให้แต่ละพรรคการเมืองต้องปรับตัว หากไม่มีความพร้อมทุกมิติอย่างรอบด้าน ทุกนโยบาย พรรคนั้นอาจจะไม่ได้รับการเชิญไปร่วมเวทีดีเบตสุดท้ายก็จะเป็นตัววัดว่าพรรคไหนมีความเจนจัดรอบด้านเรื่องนโยบายมากกว่ากัน เป็นเรื่องเรียงลำดับของพรรคที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล และการออกเวทีดีเบต จะทำให้เห็นถึงการชิงไหวชิงพริบกันมากขึ้น

เมื่อถามว่าตัวบุคคลมีความสำคัญอย่างไร อย่างกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ในช่วงนี้ นายวันวิชิต กล่าวว่า เป็นการยกระดับความมั่นใจ และเป็นการทำให้เห็นถึงความหลากหลาย ซึ่งกรณีของนายเศรษฐาเป็นการโยนก้อนหินถามทางมาหลายเดือนแล้ว และยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แต่การเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ ช่วยสะท้อนภาพให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยจริงจังกับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นการจุดประกายความหมาย ว่าต้องการเอาชนะในพื้นที่เขตเมือง ต้องยอมรับว่าในต่างจังหวัดพรรคเพื่อไทยถือว่ามีฐานเสียง ดังนั้นการมีมือเศรษฐกิจระดับมืออาชีพ ประสบความสำเร็จ ผ่านแวดวงธุรกิจมาก่อน จะเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากขึ้น พร้อมมองว่าจากนี้คนระดับมีชื่อเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ถ้าจะไปดีเบตแบบแข่งขันซึ่งหน้า อาจจะเลี่ยง เพราะบางพรรคการเมืองระดับแกนนำไม่เจนจัดในการพูด แต่อาจเลือกวิธีการพูดเปิดใจมากกว่า เชื่อว่าจะได้เห็นแบบนี้มากขึ้น

ส่วนการเลือกตั้งจะจะดุเด็ด เผ็ดมันส์เพียงใด เพราะตอนนี้ก็เริ่มโจมตีดิสเครดิตกันแล้ว นายวันวิชิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าข่าวลือ หรือเฟคนิวส์ เริ่มมีมากขึ้นรายวัน อาจมาจากความไม่พอใจ ซึ่งประชาชนต้องดูว่านี่เป็นเกมการเมือง เห็นความไม่ตรงไปตรงมาทางการเมืองก็น่าจะปล่อยของออกมานานแล้ว แต่ดันมาปล่อยช่วงการเลือกตั้งเมือง เป็นการลดคุณค่า อย่างกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องการเมืองล้วน เป็นการเมืองที่มีเรื่องเบื้องหลัง และใช้ความมีวาทะศิลป์ของนายชูวิทย์ หากมองในมุมการเมืองก็จะรู้ว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ แต่จะไปกระทบกับความรู้สึกของคนที่ไม่ได้สนใจการเมืองอย่างจริงจังกับน้ำหนักที่นายชูวิทย์กล่าว นี่ไม่ใช่กรณีแรกอาจมีกรณีบุคคลที่มีชื่อเสียงออกมาร้องเรียน เปิดโปง ส่วนหลักฐานจะมีหรือไม่ไม่ทราบ แต่เพื่อให้สังคมคล้อยตาม ซึ่งการทำให้มีเฟคนิวส์ลักษณะนี้เชื่อว่าจะมีไปจนถึงวันเลือกตั้ง

“การแข่งขันนโยบายเป็นการชี้วัดว่าประชาชนต้องการ ทิศทางประเทศอย่างไรทั้งเศรษฐกิจสังคม หากนโยบายไหนถูกใจกระชากใจประชาชนก็จะเป็นทิศทางบังคับว่าประเทศไทยจะก้าวไปในทางใดซึ่งการชูนโยบายในการแข่งขันทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองมากขึ้นไม่ยึดโยงกับปัจเจกบุคคลไม่ยึดโยงกับจิตวิญญาณของพรรคแต่ยึดโยงเรื่องการต่อสู้เชิงนโยบายที่สร้างสรรค์มากขึ้น” นายวันวิชิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]