“สมชัย-วีระ ” ร้องกกต.สอบ รทสช.ผิด กม.เลือกตั้ง

กกต. 19 ม.ค.- “สมชัย-วีระ ” ร้องกกต.สอบ รทสช. 5 ประเด็น จัดประชุมใหญ่พรรคผิดกฎหมายเลือกตั้ง แนะดูตัวอย่างรุ่นพี่ติดคุกพ้นยกชุดทำคดีเอื้อพรรคใหญ่ ขีดเส้นตาย 1 เดือนรู้ผล ขู่ฟ้อง ม.157 หากไร้คำตอบ


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย พร้อมนายวีระ สมความคิด ยื่นหนังสือให้กกต.ตรวจสอบกรณีการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยนายสมชัย กล่าวว่า ในวันนี้ยื่นให้กกต.ตรวจสอบ โดยมีหลักฐานเป็นคลิป 8 คลิป ภาพถ่าย 19 ภาพ และพยานบุคคล 1 คน ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค และเอกสารคำร้องจำนวน 26 หน้า เพื่อขอให้กกต.ตรวจสอบใน 5 ประเด็น โดยประเด็นแรกคือการใช้รถหรือยานพาหนะ รถบัส หรือรถตู้ จำนวนมากกว่า 100 คัน ขนคนข้ามจังหวัด มาฟังการปราศรัยในวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาซึ่งในกฎหมายเลือกตั้งระบุว่าการใช้ยานพาหนะขนคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งถือว่ามีความผิด แต่ในประเด็นนี้การขนคนไปฟังการปราศรัยไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจน จึงจำเป็นขอให้กกต.วินิจฉัย ในประเด็นนี้เนื่องจากการขนคนก็ถือว่าเป็นการให้ประโยชน์ ที่สามารถตีมูลค่าเป็นเงินได้ เพราะการขนคนจากต่างจังหวัดมากรุงเทพฯ ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังมีความสงสัยว่าอาจจะมีการจัดเลี้ยง เช่นข้าวกล่อง น้ำดื่ม หรือการจ่ายค่ายานพาหนะ ค่าเสียเวลาในการมาฟังการปราศรัยหรือไม่

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ 2 การแจกเสื้อ หมวก และธง เพื่อใช้ในการปราศรัยและไม่เรียกคืน สามารถทำได้หรือไม่ โดยตรวจสอบแล้วพบว่ามีการแจกประมาณ 4 พันชุด มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แม้ที่เสื้อจะเขียนว่าเป็นทรัพย์สินของพรรค แต่เมื่อเสร็จกิจกรรมก็ไม่มีการเรียกคืนทุกคนนำกลับไปที่บ้าน ซึ่งเรามีหลักฐานแจกเสื้อ แจกหมวกในห้องประชุม และยังมีพยานบุคคลที่พร้อมเป็นพยานยืนยันว่า เขาไม่ใช่สมาชิกพรรคได้รับการแจกเสื้อ แจกหมวกจริง ไม่มีการเรียกคืน สามารถนำกลับไปได้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานพยานบุคคล


นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นที่ 3 การจัดมหรสพการนำศิลปินระดับชาติ นายชัชชัย สุขขาวดี หรือหรั่ง ร็อคเคสตร้า มาขึ้นเวทีปราศรัยมาช่วยในการหาเสียงร้องเพลงของพรรคจำนวน 3 เพลง ในช่วงของการพักเบรคการประชุม แม้ไม่ใช่เพลงมหรสพหรือบันเทิงสามารถทำได้หรือไม่ เพราะในเชิงปฏิบัติแม้เราเคยบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการที่นำศิลปินมาเดินช่วยหาเสียงไม่สามารถทำได้ แต่กรณีนี้การนำศิลปินขึ้นมาบนเวที ก็จะเข้าข่ายการจัดมหรสพ

ประเด็นที่ 4 การปราศรัยของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครทสช.มีการกล่าวถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง และพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทางที่ไม่เหมาะสม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อระเบียบการหาเสียงของกกต.อย่างชัดเจน และประเด็นที่ 5 เกี่ยวกับการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครทสช.โดยจากการดูป้าย จากการกล่าวการปราศรัยของหัวหน้าพรรคก็ดี ได้ระบุว่าวันไหนเป็นประชุมวิสามัญของพรรค แต่หากติดตามรายละเอียดการประชุมในวันนั้น จะไม่มีการลงชื่อของผู้เข้าร่วมประชุม ไม่มีการประชุมตามวาระ เช่นประธานกล่าวเปิดประชุม มีการพิจารณาเป็นวาระ หรือแม้กระทั่งการลงมติที่จะเลือกกรรมการสรรหานั้นก็ไม่มีการปรากฎให้เห็นถือว่าเป็นการจัดประชุม ซึ่งอาจจะไม่จริง เพียงแต่ว่าใช้ชื่อการประชุมเพื่อบังหน้า เป็นการจัดประชุมเพื่อหาเสียง
นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า อยากให้กกต.มีคำวินิจฉัยใน 5 ประเด็นที่ชัดเจน หากวินิจฉัยว่าสามารถทำได้ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้กับพรรคการเมืองอื่นๆทำได้เช่นกัน หากไม่สามารถทำได้กกต.ต้องมีมติส่งต่อไปยังศาลฎีกาเพื่อให้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว และลงโทษตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมองว่าเป็นความผิดในมาตรา 73 (1) ถึง (5)ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกำหนดโทษพรรคการเมือง ผู้สมัคร กรรมการบริหารพรรค หรือผู้หนึ่งผู้ใด กระทำความผิดจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสน และแต่สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี

“หากมองว่าการยุบสภาคดีดังกล่าวจะสิ้นสุดลงไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่ขอเตือนกกต.ว่าในกฎหมายที่เขียนไว้เรื่องของการรับค่าใช้จ่ายชัดเจนว่า หากยุบสภาการนับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจะเริ่มนับตั้งแต่มีกฤษฎีกาให้ยุบสภา คือรีเซ็ตค่าใช้จ่าย แต่ในของคดีความเป็นเรื่องที่กกต.ต้องวินิจฉัยว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ หากกกต.วินิจฉัยว่าจะเดินหน้าในคดีนี้ต่อ ก็เดินหน้าต่อไป แต่หากกกต.ไม่เดินหน้าต่อกกต.จะมีปัญหา เพราะจะถือว่าตัดสินเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ ซึ่งการตัดสินเช่นนี้เคยมีบทเรียน ในกกต.ชุดที่ 2 ถึงขั้นติดคุกติดตาราง และพ้นจากตำแหน่งยกชุด ดังนั้นจึงอยากให้กกต.คิดให้ดีว่าแม้จะมีการยุบสภา คดีจะต้องไม่สิ้นสุดต้องเดินหน้าต่อไป หรือระหว่างนี้ก่อนที่จะถึงช่วงยุบสภา หรือเลือกตั้งก็ต้องแสดงความกระตือรือร้นในการทำคดี มิใช้รับเรื่องนี้เข้ามาและมีการสอบอย่างล่าช้า รอให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อน คนก็จะลืมไป ถือเป็นการจงใจให้เกิดความล่าช้า จนเป็นเหตุให้พรรคใหญ่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ซึ่งเป็นข้อหาของกกต.ชุดที่ 2 และศาลเคยมีคำสั่งว่ากกต.ผิด เนื่องจากล่าช้า ถึงขั้นจำคุก ซึ่งการจำคุกเพียงแค่ 1 วันก็ขาดจากการเป็นกกต. อยากฝากเป็นบทเรียนให้กับกกต.ชุดนี้ด้วย อะไรผิดก็ถือว่าผิด ชี้แจงให้สังคมเห็นว่า อะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ตนมั่นใจพยานหลักฐานที่มอบให้ ปรุงให้เสร็จพร้อมให้ท่านเคี่ยว ถ้าท่านวางเฉยอยู่บนโต๊ะก็จะมีปัญหาได้” นายสมชัย กล่าว


นายวีระ กล่าวว่า เราได้นำหลักฐานที่เป็นเสื้อ และหมวกที่ประชาชนที่เข้าในงานวันนั้นแล้วได้รับแจก ซึ่งเขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนี้เลย เรื่องนี้ทางเราจะให้เวลากับ กกต.ไม่เกิน 1 เดือน แล้วกกต.ต้องมีความชัดเจนในการวินิจฉัยในข้อร้องเรียนนี้ เพราะถือว่าไม่ได้มีความยากเย็นอะไรเลย แต่ถ้า กกต.ไม่ดำเนินการอะไรเลยเราเองก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ กกต. ที่อาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ย้ำว่าไม่เกิน 1 เดือนถ้ากกต.ยังเพิกเฉยไม่ทำอะไรเลยเราจะดำเนินคดีกับ กกต.

“สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จะเริ่มตั้งแต่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ในวันนี้เรายื่นเรื่องให้กับ กกต. และกกต.ออกเลขรับเรื่องแล้วถือว่า กกต.รับรู้แล้ว แล้วถ้า กกต.ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรื่องนี้อายุความมันยาวไป 15 ปี ถ้าอยากจะท้าทายกฎหมาย อยากจะลองของก็เชิญ ผมบอกแล้วว่าไม่เกิน 1 เดือนถ้ากกต.อยากลองของก็เอาเลย ไปสู้กันในศาลเลย” นายวีระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]