“ธนกร” แจง นายกฯ ตั้งที่ปรึกษาฯ เป็นไปตาม กม.

รัฐสภา 12 ม.ค.-เพื่อไทย ตั้งกระทู้ถาม นายกฯ เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาฯ ช่วงใกล้เลือกตั้ง พร้อมขอให้ชี้แจงการใช้งบฯ ด้าน “ธนกร” บอก หากพบไม่ถูกต้อง ยินดีให้ตรวจสอบ ยันรัฐบาลทำตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และ ใช้ระเบียบ ข้อบังคับถูกต้องหรือไม่ เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้งแล้ว โดยจริยธรรม ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ไม่มีใครทำกัน ขณะเดียวกัน ได้นำประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2566 ซึ่งมีคำสั่งให้ ส่วนราชการสนับสนุนภารกิจของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มาประกอบการตั้งคำถามด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไม่มีเงินเดือน หรือค่าใช้จ่าย ซึ่ง ย้อนแย้งกับ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี นายจิรายุ อ้างว่า มีส่วนราชการ สอบถามมาที่ตนเองว่า เมื่อย้อนแย้งกันแบบนี้ ส่วนราชการจะต้องปฏิบัติอย่างไร

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีมี 2 แบบ คือ ที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีที่ผ่านความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรี ปัจจุบัน มี 4 คน เป็นการแต่งตั้ง ตามมาตรา 8 (1) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง ปี 2535 มีอัตราเงินเดือน  57,660 บาท และเงินประจำตำแหน่ง 15,000 บาท ซึ่งทำหน้าที่ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ส่วนแบบที่ 2 คือตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นการแต่งตั้ง ตาม มาตรา11 (6) แห่งพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีอัตราเงินเดือน นายกรัฐมนตรีพิจารณา แต่งตั้งได้เลย ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ปัจจุบันมี 6 คน ทั้งนี้รัฐบาลในอดีตก็มีการตั้งที่ปรึกษามากกว่า10 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งคนที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาในครั้งนี้ ก็มีความรู้ความสามารถ มาให้คำปรึกษากับนายกรัฐมนตรี

ส่วนเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ หากฝ่ายค้านเห็นว่ามีความผิดปกติ ก็ยินดี ให้ตรวจสอบ ตามกฎหมาย ตนเองยืนยันมาตลอดว่า รัฐบาล ปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายธนกรย้ำว่า ตนเองมีหน้าที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ชี้แจงผลงานของรัฐบาลตามปกติ.-สำนักข่าวไทย