นักวิชาการ ชี้ กสทช.ทำหน้าที่ถูกต้อง

กทม. 26 ต.ค.- นักวิชาการโทรคมนาคม ชี้ กสทช.เสียงข้างมาก ทำหน้าที่ถูกต้อง ยึดหลักกฎหมาย สร้างโอกาสแข่งขันให้ประเทศ มั่นใจเงื่อนไขคุมเข้มจะเป็นประโยชน์คุ้มครองผู้บริโภค เกิดผลดีต่ออุตสาหกรรม พร้อมเสนอบังคับใช้กับผู้ประกอบการทุกราย คาดทรู-ดีแทค เร่งศึกษาเงื่อนไขตามกรอบเวลา


นายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิชาการด้านโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่บอร์ด กสทช.มีมติเสียงข้างมากรับทราบการควบรวม ทรู – ดีแทค และได้กำหนดเงื่อนไข/มาตรการเฉพาะ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนากิจการโทรคมนาคมว่า ถือเป็นการพิจารณาที่รอบคอบและถูกต้องตามกฎหมายบัญญัติ เนื่องจากเรื่องนี้ตามกฎหมายจะพิจารณาโดยมติ “อนุมัติ” หรือ “ไม่อนุมัติ” ไม่ได้ เนื่องจากการควบรวมในกรณีในลักษณะนี้ของทรูดีแทค ระบุไว้ชัดเจนในประกาศ กสทช.ปี 2561 ซึ่งให้ กสทช. มีอำนาจในการพิจารณารับทราบรายงานและยังมีอำนาจเต็มในการออกมาตรการเสริมเพิ่มเติม ถ้าสังคมมีความกังวลเรื่องของค่าบริการ คุณภาพการให้บริการ และการดูแลลูกค้า ซึ่งบอร์ด กสทช.ก็ได้ออกเงื่อนไข/มาตรการเฉพาะมาคุมเข้ม ไม่ว่าจะเป็นการห้ามรวมแบรนด์กันนานถึง 3 ปี รวมถึงมีมาตรการเรื่องเพดานราคา และยังต้องแบ่งคลื่นให้กับ MVNO ฯลฯ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการควบรวมกิจการทรูดีแทคจะไม่สร้างผลกระทบต่อผู้บริโภค หรือ การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แต่กลับจะทำให้ภาคโทรคมนาคมได้มีโอกาสพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคได้อีกด้วย ทั้งนี้มองว่าเงื่อนไขที่ กสทช.กำหนดคุมเข้มนั้น ถือว่าดีกับทั้งอุตสาหกรรม และน่าจะบังคับใช้กับผู้ประกอบการทุกรายในอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อ 25 ต.ค.65 กสทช.ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งให้ทรูและดีแทค รับทราบการรวมธุรกิจโดยกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะเพื่อกำกับดูแลการควบบริษัท ซึ่งปรากฏว่าภายในวันเดียวกันทรูและดีแทคได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯโดยทันทีว่าจะพิจารณาเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะดังกล่าวเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปที่เหมาะสมและการดำเนินการขั้นต่อไป แสดงให้เห็นว่าทั้งทรูและดีแทคจะเร่งการควบรวมหลังจากที่ได้รับแจ้งมติ กสทช.อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.65 นายสืบศักดิ์ สืบภักดี ได้โพสต์บนเฟสบุ๊ค Suebsak Suebpakdee ในหัวข้อ บทวิเคราะห์ หลัง กสทช. ลงมติเห็นชอบรายงานการควบรวมกิจการ ทรู-ดีแทค เรื่องนี้เรียกได้ว่าจบรึยัง? เพื่อไขข้อข้องใจของสังคมให้กระจ่าง โดยมีประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น 1.ดีลยังไม่จบและอาจเรียกได้ว่ายังมีเรื่องต้องผ่าฟัน 2.ข้อปฏิบัติที่เอกชนเห็นว่าปฏิบัติไม่ได้หรือไม่เป็นธรรมก็อาจร้องแย้งมติ 3.ความเห็นและข้อกังวลที่เกิดหลังมติ กสทช. 20 ตุลาคม 2565


ประเด็นแรก ดีลยังไม่จบและอาจเรียกได้ว่ายังมีเรื่องต้องฝ่าฟัน โดยระบุว่า เงื่อนไขและมาตรการเฉพาะ ที่ กสทช. ออกท้ายมติ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนากิจการโทรคมนาคมเท่าที่เห็นนั้น แม้หลายข้อจะเป็นการปรับจากการหยั่งเสียง และรับฟังข้อมูลก่อนหน้านี้มาเเล้วเพื่อบาลานซ์ทั้งต่อข้อร้องเรียนเเละข้อกังวลขององค์กรผู้บริโภค เเละฝั่งอุตสาหกรรม เเละข้อมูลทางเทคนิคแล้ว จนออกมาเป็นเงื่อนไขที่ดูแล้ว “พอจะ” หาทางไปได้ไม่เกิดการปฎิบัติไม่ได้ หรือได้ยากเเล้ว แต่เมื่อพิจารณารายข้อก็จะยังพบว่าสิ่งที่ทั้ง กสทช. และผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการยังมีรายละเอียดที่ต้องทะลุให้ได้อยู่หลายข้อ
ในการดำเนินการต่อนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยซึ่ง กสทช. เองอาจจะต้องมีการตั้งคณะทำงาน หรืออนุกรรมการเพื่อจัดทำมาตรการ แนวปฏิบัติ หรือคณะทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการทางเทคนิคที่มีการพูดถึงหลายประเด็นทั้งเรื่องการขยายเครือข่าย การสร้างและใช้โครงสร้างพื้นฐานทั้งในแง่คลื่น สถานีฐาน ซึ่งอาจมีระบุในภาพรวมเพื่อคงมาตรฐานบริการที่ไม่ด้อยกว่าเดิม แต่ในความเป็นจริงต้องถูกนำไปปฏิบัติและตรวจสอบอย่างเข้มข้น

รวมไปถึงเรื่องการบริการผู้ใช้บริการตามที่มาตรการท้ายมติกำหนดไว้โดยละเอียดทั้งศูนย์บริการ การคงแบรนด์ให้ผู้บริโภคมีทางเลือก หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ ระดับ Call Center อีกทั้งเรื่องกลไกควบคุมราคา การจัดส่งรายงานและการเฉลี่ยราคาใหม่ ด้วยการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งกำหนดกรอบเวลา 90 วันต่อจากนี้ ทั้งต้องมีการทำ Average Cost Pricing การต้องจัดทำรายงานโดยที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านการสอบทานโครงสร้างต้นทุน อัตราค่าบริการ หรือข้อมูลด้านอัตราต่าง ๆ ของอุตสาหกรรม

ประเด็นที่ 2 ข้อปฏิบัติที่เอกชนเห็นว่าปฏิบัติไม่ได้หรือไม่เป็นธรรมก็อาจร้องแย้งมติ นายสืบศักดิ์ แสดงความเห็นว่า ข่าวจากหน้าสื่ออาจจะทำให้เราทราบเพียงมุมขององค์กรบางแห่งอาจไม่พอใจต่อการตัดสินใจตามมติ กสทช. ด้วยแง่มุมใดก็เเล้วแต่และอาจพึ่งกระบวนการยุติธรรม แต่ในอีกแง่มุมนึงฝั่งผู้ประกอบการก็อาจจะเห็นว่า มาตรการเเละเงื่อนไขที่กำหนดท้ายมตินั้น อาจปฏิบัติไม่ได้หรือไม่สมเหตุสมผลได้เช่นกัน ซึ่งในมุมนี้ฝั่งผู้ประกอบการก็อาจจะรอเอกสารการเเจ้งมติ และรายละเอียดจากสำนักงาน กสทช. เพื่อพิจารณา เนื่องจากดังที่กล่าวมาเงื่อนไขหลายข้อก็ขัดกับเหตุผลและวัตถุประสงค์ของการควบรวมกิจการเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า และแข่งขันได้ แต่อาจเป็นภาระเกินควรต่อการควบรวม และอาจจะแย้ง หรือแม้แต่ฟ้องเพื่อยับยั้งได้เช่นกันหากมองว่าได้รับผลกระทบ หรือไม่เป็นธรรม ซึ่งต้องไม่ลืมว่าในตลาดก็ยังมีคู่แข่งที่ต้องแข่งขันด้วยอยู่

ประเด็นที่ 3 ความเห็นและข้อกังวลที่เกิดหลังมติ กสทช. 20 ตุลาคม 2565 โดยระบุว่า แม้จะมีความชัดเจนจากการตอบข้อสอบถามของ กสทช. จากสํานักงานกฤษฎีกา ถึงกรอบอำนาจของ กสทช. โดยเฉพาะประเด็นอำนาจตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม และให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศ ฉบับปี 2561 จนเกิดการลงมตินั้น มีประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจสำหรับผู้สนใจดังนี้


หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องความหมายตามเจตนารมณ์ของ ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม ปี 2549 เเละ ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม และให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศ ปี 2561 โดยเฉพาะประเด็นที่หยิบยกว่า “ที่ประชุมเห็นว่าการรวมธุรกิจกรณีนี้ ไม่เป็น การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกับตามข้อ 8 ของประกาศ กทช. 2549” โดยคนไปเข้าใจและขยายความว่า ก็เป็นธุรกิจเดียวกัน เเล้วทำไมถึงบอกว่า ไม่เป็น การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียว จนมีการนำไปขยายความจากการเข้าใจแค่รูป “ประโยค” แต่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของ “ประกาศ” กันมาก

กล่าวคือ การที่ กสทช. มีอำนาจในการกำกับดูแลผู้รับใบอนุญาตในกิจการโทรคมนาคม และเป็นธรรมดาของภาคธุรกิจที่อาจมีการ จัดตั้ง เลิก ขยาย ยุบ หรือรวมกิจการ ซึ่งหากเป็นผู้รับใบอนุญาตก็ต้องดำเนินการแจ้งให้องค์กรกำกับทราบ ซึ่งฝั่งองค์กรกำกับอย่าง กสทช. นั้น ก็มีประกาศแต่ละฉบับเพื่อใช่ในการพิจารณาและดูแลกิจการแยกตามกรณีกันไป ในกรณีประกาศฉบับปี 2549 นั้น ว่าด้วยเรื่องการเข้าซื้อกิจการของผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันตั้งแต่ 10% ขึ้นไปจนอาจมีอำนาจในการกำกับควบคุมในกิจการของผู้ประกอบการอีกราย โดยอาจจะเป็นไปได้ทั้งเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ดี อันอาจนำไปสู่การไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ทั้งนี้กรณีดังกล่าว บริษัทที่เข้าไปซื้อ และถูกซื้อ อาจจะยังอยู่ในตลาดทั้ง 2 ราย อาทิ แบรนด์ A ซื้อ แบรนด์ B มีอำนาจในแบรนด์ B เเละทั้ง A และ B ยังอยู่ในตลาด นายสืบศักดิ์ ระบุว่า กรณีแบบนี้มีตัวอย่างเเละการเกิดให้เห็นในอุตสาหกรรมอื่นทั้ง โรงพยาบาล พลังงาน สามารถไปศึกษาดูได้

ดังนั้นประกาศฉบับปี 2549 คำว่า “การรวมธุรกิจในกรณีนี้ ไม่เป็น การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกัน” จึงมาจากกรอบการพิจารณาดังกล่าว แต่การ “ควบรวม” ตามที่เอกชนเสนอมานี้เป็นการรวม A+B เกิดเป็น C หรือเรียกว่า Amalgamation จึงใช้อำนาจและกรอบการพิจารณาตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม และให้พิจารณาดำเนินการตามประกาศ ปี 2561 จริง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจไม่ยาก แต่หากขาดความเข้าใจในองค์รวม บริบทและกระบวนการก็จะสับสน และไม่แปลกที่แม้แต่นักวิชาการที่ไม่คุ้นชินกับระเบียบต่าง ๆ ของ กสทช. ก็อาจไม่ทราบหรือไม่เข้าใจได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]