สำนักข่าวไทย 26 ก.ย.- รวบรวมข่าวแปลก Amazing News จากสำนักข่าวไทยมาให้ทุกคนได้ชมกันค่ะ
ใช้เทียนพรรษาจับงูเห่า
วันที่ 16 ก.ย. หน่วยกู้ภัยเทศบาล ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุพบงูเห่าขนาดใหญ่อยู่บริเวณใต้บ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกพื้นสูงประมาณ 80 เมตรโดยงูเห่าเลื้อยหลบเข้าไปอยู่ใต้บ้าน ก่อนจะเลื้อยหนีหายไปในซอกปูนที่อยู่ติดกับเหล็กคานบ้านจึงนำสว่านเจาะเหล็กที่งูเห่าเข้าไปหลบอยู่
เพื่อฉีดยาฆ่าปลวกยาฆ่ามดฆ่ายุง ใช้น้ำฉีดแต่ไม่เป็นผลสุดท้ายงัดเทียนพรรษามาลนเหล็กให้เกิดความร้อนงูเห่าค่อยๆโผล่หัวออกมาจากช่องเหล็ก
จนสามารถใช้บ่วงเชือกคล้องแล้วดึงตัวออกมาได้สำเร็จพบงูเห่ามีความยาวประมาณ 1.50 เมตร ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. นำใส่ถุงปุ๋ยแล้วปล่อยคืนธรรมชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กู้ภัยใช้เทียนพรรษาจับงูเห่า
https://tna-99.mcot.net/region-541718
ฮือฮา! กบ 5 ขา
นายวีระพล วงศ์ดวง อาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.พะเยา เลี้ยงกบ กว่า 700 ตัว ในบ่อซีเมนต์เพื่อเป็นอาชีพเสริม ได้สังเกตเห็นมีกบอยู่ 1 ตัว ที่แปลกประหลาดกว่าตัวอื่นๆ
เพราะกบมี 5 ขา งอกออกมาบริเวณ ขาหน้า เนื่องจากปกติกบจะมี 4 ขาจึงคิดว่าแปลกดี และตนเองก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกคิดว่าจะเลี้ยงไว้ เผื่อจะนำโชคลาภมาให้แก่ตนเองเมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็มักจะแวะเวียนมาเที่ยวชมกบ 5 ขาและต่างคนต่างตีเป็นเลขไปต่างๆ นาๆ ตามความเชื่อส่วนบุคคล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮือฮา! กบ 5 ขาที่พะเยา
https://tna-99.mcot.net/region-543941
เลี้ยงบุฟเฟต์ฉลองวันแรดโลก
ทุกวันที่ 22 ก.ย. ของทุกปี ถูกยกให้เป็นวันแรดโลก เพื่อกระตุ้นให้ช่วยกันอนุรักษ์แรดที่มีความเสี่ยงใกล้จะสูญพันธุ์โดยวันที่ 22 ก.ย. ที่ สวนสัตว์สงขลา ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันแรดโลก จัดบุฟเฟต์อาหารให้เจ้าน็อต แรดขาวเพศผู้ตัวเดียวของสวนสัตว์มีการเตรียมหญ้าและกล้วย ของโปรดเจ้าน็อตแรดขาวสุดหล่อต่อด้วยการเกาหลังแรดด้วยแปรงขนนุ่ม ช่วยผ่อนคลายสร้างความสบายให้เจ้าน็อตมีอารมณ์ดีองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ประจำประเทศไทย หรือ WWF รายงานข้อมูลล่าสุดว่าปัจจุบันจำนวนประชากรแรดทั่วโลกเหลืออยู่ไม่ถึง 30,000 ตัวสาเหตุมาจากการถูกล่าเพื่อนำนอของแรดไปขาย ทำเป็นเครื่องประดับหรือนำไปเป็นส่วนผสมของยาตามความเชื่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลี้ยงบุฟเฟ่ต์ฉลองวันแรดโลก
https://tna-99.mcot.net/pick-544900
ทั้งหมดนี้คือข่าวแปลก Amazing News ที่เรานำมาเสนอทุกคนกันค่ะ พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ.-สำนักข่าวไทย
