‘ไบต์แดนซ์’ จะได้ที่นั่งในบอร์ดบริหาร ‘ติ๊กต็อก’ 1 ที่

วอชิงตัน 21 ก.ย. – เจ้าหน้าที่อาวุโสทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผวันเสาร์ว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐ-จีนเกี่ยวกับกิจการ ติ๊กต็อก ในสหรัฐนั้น จะให้สิทธิ์แก่ “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่สัญชาติจีนของติกต็อกในโควตากรรมการจำนวนหนึ่งที่นั่งจากจำนวนทั้งสิ้นเจ็ดที่นั่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทใหม่ ส่วนอีกหกที่นั่งที่เหลือจะเป็นชาวอเมริกันทั้งหมด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามจะป้องกันไม่ให้แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ 170 ล้านคนถูกห้ามให้บริการในสหรัฐ หลังจากที่รัฐสภาสหรัฐผ่านกฎหมายในปี 2024 ที่สั่งให้ติ๊กต็อกปิดบริการภายในเดือนมกราคม 2025 หากเจ้าของอย่างไบต์แดนซ์ ไม่ขายกิจการในสหรัฐ นายทรัมป์ได้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไปจนถึงช่วงกลางเดือนธันวาคม เพื่อเปิดทางให้มีการแยกสินทรัพย์ของ ติ๊กต็อกในสหรัฐ ออกจากแพลตฟอร์มระดับโลกนี้ หาผู้ลงทุนชาวอเมริกัน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเป็นเจ้าของใหม่นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายปี 2024 กำหนดไว้ ความคืบหน้าของข้อตกลงที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการเจรจาที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งพยายามจะคลี่คลายสงครามการค้าที่สร้างความกังวลให้กับตลาดโลก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าเขาและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อตกลงติ๊กต็อกในการสนทนาทางโทรศัพท์ และจะพบปะกันแบบตัวต่อตัวในอีกหกสัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงจากฝั่งจีนยังไม่ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าความคืบหน้าดังกล่าวอยู่ในระดับใดแล้ว รายละเอียดของข้อตกลงที่เจ้าหน้าที่อาวุโสทำเนียบขาวเปิดเผยนั้น ส่วนใหญ่สอดคล้องกับรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์และสื่ออื่นๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่านายทรัมป์จะขยายเวลาการระงับการบังคับใช้กฎหมายปี 2024 ออกไปอีก 120 วัน ซึ่งหมายความว่ากำหนดเส้นตายถัดไปสำหรับการสรุปข้อตกลงการซื้อ-ขายกิจการติ๊กต็อกจะอยู่ในเดือนเมษายนปีหน้า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าข้อตกลงในสถานะปัจจุบันจะเข้าข่ายการขายกิจการทั้งหมดตามที่รัฐสภากำหนดไว้ในกฎหมายปี 2024 หรือไม่ นายทรัมป์เคยให้เครดิตกับติ๊กต็อกว่าช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว […]

เพื่อไทย ลับมีดเตรียมชำแหละรัฐบาลภูมิใจไทย

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ย.-เพื่อไทย ลับมีดเตรียมชำแหละรัฐบาลภูมิใจไทย ล็อกเป้า 2 ประเด็น บริหารราชการแผ่นดิน-คุณสมบัติ รมต. หวั่นรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชั่น สร้างปัญหาในการตรวจสอบและดำเนินคดีของหน่วยงานต่างๆ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยว่า รัฐบาลชุดใหม่ควรจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพวกพ้องหรือมีเจตนาในการเข้ามาสะสางปัญหาคดีที่พรรค ภูมิใจไทยกำลังเผชิญอยู่ เพราะวันนี้สิ่งที่หลายคนมีความกังวลต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ปรากฏออกมานั้น คือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลการเมือง ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐมนตรีที่เป็นสายล่อฟ้าที่เคยครหาในอดีต แต่ปัจจุบันอาจเรียกว่าเป็นรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชั่นที่อาจะเข้าไปสร้างปัญหาในการตรวจสอบและดำเนินคดีของหน่วยงานต่างๆ นายชนินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรค เพื่อไทยได้เตรียม สส. ของพรรคในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ นโยบายนายกรัฐมนตรีจะแถลงต่อรัฐสภา โดยจะลงรายละเอียดเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ภายในระยะเวลา 4 เดือนตามกรอบที่รัฐบาลได้ทำสัญญากับพรรคประชาชนไว้ รวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญที่จะเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งหน้า นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า เรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน ความรู้ความสามารถรวมถึงการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งในคดีการบุกรุกที่ดินเขากระโดง คดีฮั้วสว. รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่มีข้อครหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จากประชาชนรวมถึงถูกชี้มูลความผิด โดยสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) […]

รองโฆษกเพื่อไทย เรียกร้อง ภท.เปิดร่างแก้ รธน. ที่มา ส.ส.ร.

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ย.-รองโฆษกเพื่อไทย ชี้ 19 ปีรัฐประหาร 19 กันยา จะปลดล็อกการเมืองวนลูบบั่นทอนการพัฒนาประชาธิปไตย ด้วยทำ รธน.ฉบับใหม่ เรียกร้อง ภท.เปิดร่างแก้ รธน. ที่มา ส.ส.ร. หวั่นไม่ทันกรอบ MOA ยุบสภา 4 เดือน จี้ ปชน.เร่ง “อนุทิน” ขอเสียง สว. สีนำเงิน 1 ใน 3 หนุน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงรำลึกครบรอบ 19 ปีรัฐประหาร วันที่ 19 กันยายน 2549 ว่าการแก้ไขปัญหาระบอบทักษิณทำลายล้างพรรคไทยรักไทยและความต่อเนื่องทางการเมืองเป็นการบั่นทอนโอกาสการพัฒนาระบบประชาธิปไตย การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศอย่างมหาศาลการเลือกตั้งของประชาชนหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียง ถูกทำลายลงไปกับการฉีกรัฐธรรมนูญ อันเป็นการไม่เคารพเสียงประชาชนและเขียนกติกาขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างได้เปรียบทางการเมือง แบบวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า พรรคเพื่อไทยบอกว่าสิ่งนี้จะไม่จะเกิดขึ้นอีกกับสังคมไทยการเมืองไทย และโอกาสนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่สามารถปลดล็อครัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ที่มีความยึดโยงกับประชาชน และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น นายชนินทร์ ยังกล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 […]

เพื่อไทย จี้รัฐบาลเร่งเคาะสานต่อรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือไม่

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ย.- เพื่อไทย จี้รัฐบาลภูมิใจไทย ถก ครม. นัดแรก เคาะสานต่อรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือไม่ ก่อนโครงการจะยุติ 1 ต.ค. หากไม่ต่อ เพื่อไทยจะผลักดันให้สำเร็จ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แถลงถึงโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยนำร่องไว้ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2566 หรือตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และอาจจะต้องยุติลง หรือต้องกลับไปใช้ค่าโดยสารอัตราสูงสุด 42 บาท เพราะยังไม่แน่ชัดว่า รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาต่ออายุโครงการนี้หรือไม่ พรรคเพื่อไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลใหม่จะสานต่อสิ่งดีๆ ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำ เพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน และรัฐบาลจะยึดเอาประโยชน์พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าการปฏิเสธบางโครงการ เพียงเพราะเป็นโครงการที่เคยทำโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเท่านั้น นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่มีมติที่ชัดเจนในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ในการนำร่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ก่อนที่โครงการจะถูกยุติลงในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากโครงการนี้มีประชาชนที่อาศัยย่านเมืองได้รับประโยชน์กว่า 100,000 ราย และโครงการนี้ไม่ได้ใช้งบมากมายจนเป็นภาระงบประมาณแผ่นดินมากเกินไป […]

อุดพนังกั้นน้ำสำเร็จ น้ำท่วมหล่มสักเริ่มคลี่คลาย

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย.-น้ำท่วมตัวอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งย่านการค้า เริ่มลดลงแล้ว หลังเจ้าหน้าที่อุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จ และน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลง จุดที่พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำป่าสักแตกยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่สามารถปิดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้แล้ว แม้จะยังไม่ 100% ทำให้ยังมีน้ำรั่วซึมเข้ามาบ้าง แต่ช่วยลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักที่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและอาคารร้านค้าหลายร้อยหลังในย่านการค้าของหล่มสักลงได้ ส่งผลให้น้ำที่ท่วมหลายจุดตั้งแต่เมื่อวานลดลง บางจุดเริ่มเห็นผิวถนนแล้ว และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านตัวอำเภอหล่มสัก ลดลงเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร จนต่ำกว่าพนังที่ทางเทศบาลเสริมขึ้นมาแล้ว แต่ยังมีบ้านเรือนตามชุมชนที่อยู่ริมน้ำใกล้จุดพนังแตก ถูกน้ำท่วมขังอยู่บ้าง ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งนำข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายออกมาล้างทำความสะอาด เร่งล้างคราบโคลนภายในบ้านกันบ้างแล้ว หลังต้องเจอน้ำท่วมหนักถึง 2 รอบ ในช่วง 3 สัปดาห์ และกว่าจะอุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามตลอดทั้งคืน ระดมกำลังคนและเครื่องจักรหนักเข้ากู้สถานการณ์ อุดรอยรั่วซ่อมพนังกั้นน้ำ ตรงข้ามสวนดงตาล ที่พังลงมายาวกว่า 10 เมตร โดยใช้แบริเออร์ กระสอบทรายบิ๊กแบ็ก วางอุดรอยรั่วได้สำเร็จ แม้ตอนนี้ยังคงมีน้ำรั่วซึมเข้ามาจากจุดพนังแตกอยู่บ้าง แต่หากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่องแบบนี้ คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักจะลดลงต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ปภ. อัปเดตน้ำท่วมเหนือ-อีสาน-กลาง รวม 13 จังหวัด

กทม. 21 ก.ย.-ปภ. อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมเหนือ-อีสาน-กลาง รวม 13 จังหวัด เมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต้องช่วยเหลือและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ วันนี้ (21 ก.ย. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 13 จังหวัด (จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา) รวม 57 อำเภอ 340 ตำบล 1,810 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 66,963 ครัวเรือน 221,187 คน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ปัจจุบันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ […]

ทบ.ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท กรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อ 20 ก.ย.68 ระบุว่า “กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยมีรายละเอียดกล่าวหาฝ่ายไทยว่า ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท โดยการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวของไทยละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2(3) และ 2(4)) เป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ขอเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงต่อกรณีนี้ว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่า พื้นที่ที่ฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องดำเนินการก่อนนั้น ไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2(3) ที่ได้ระบุไว้ว่า “รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย” นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่า ฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก […]

‘ทรัมป์’ ขู่ ‘สิ่งเลวร้าย’ จะเกิดหากอัฟกานิสถานไม่คืนฐานทัพบากรัม

วอชิงตัน 21 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวเตือนว่า “สิ่งเลวร้าย” จะเกิดขึ้นกับอัฟกานิสถาน หากไม่ยอมคืนฐานทัพอากาศบากรัม (Bagram Air Base) ให้สหรัฐเข้าไปควบคุมดูแลอีกครั้ง และปฏิเสธที่จะตอบอย่างชัดเจนว่าจะส่งทหารเข้าไปยึดคืนฐานทัพหรือไม่ นายทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม “ทรูธโซเชียล” (Truth Social) ว่า หากอัฟกานิสถานไม่คืนฐานทัพอากาศบากรัมให้แก่ผู้ที่สร้างมันขึ้นมา ซึ่งก็คือสหรัฐ สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐได้พยายามที่จะทวงคืนฐานทัพแห่งนี้ ซึ่งเคยเป็นฐานหลักของกองทัพสหรัฐ หลังเหตุวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 และในวันศุกร์เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ากำลังเจรจากับอัฟกานิสถานเรื่องนี้ การถอนกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานในปี 2021 ส่งผลให้กลุ่มตอลิบานเข้ายึดครองฐานทัพต่างของสหรัฐและโค่นล้มรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐในกรุงคาบูล เจ้าหน้าที่ของอัฟกานิสถานเองก็แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะให้มีทหารอเมริกันในประเทศอีก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหรัฐต่างแสดงเห็นส่วนตัวแสดงความกังวลเว่า การกลับเข้าไปยึดครองฐานทัพอากาศบากรัมอีกครั้งอาจเหมือนกับการกลับไปรุกรานอัฟกานิสถานอีกครั้ง ซึ่งอาจต้องใช้ทหารกว่า 10,000 นาย พร้อมระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย ทรัมป์ ซึ่งเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องการให้สหรัฐเข้าครอบครองดินแดนและสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่คลองปานามาไปจนถึงกรีนแลนด์ ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับฐานทัพบาแกรมมาหลายปีแล้ว เมื่อถูกถามในวันเสาร์ว่าเขาจะส่งทหารสหรัฐเข้าไปยึดคืนฐานทัพหรือไม่ นายทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะตอบตรงๆ โดยกล่าวว่า เขาจะไม่พูดถึงเรื่องนั้น และเสริมว่า ตอนนี้สหรัฐกำลังคุยกับอัฟกานิสถาน และต้องการฐานทัพคืนโดยเร็วที่สุด ถ้าพวกไม่ทำ ก็รอดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป สนามบินที่กว้างใหญ่ของฐานทัพอากาศบากรัมเคยเป็นฐานทัพหลักของกองกำลังอเมริกันในอัฟกานิสถานตลอดช่วงสงครามสองทศวรรษ […]

จับตาปลาย ก.ย. พายุถี่ขึ้น ลุ้นเคลื่อนเข้าไทย

กรุงเทพฯ 21 ก.ย.- กรมอุตุฯ เผยแนวโน้มเกิดพายุถี่ขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ย. ทั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ขณะที่พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้มีแนวโน้มเกิดพายุถี่ขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26–27 กันยายน มีโอกาสเกิดพายุลูกใหม่เพิ่มอีก แม้ขณะนี้ยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยหรือไม่ แต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปัจจุบัน พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) ยังคงเคลื่อนตัวอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก แม้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ส่งอิทธิพลต่อสภาพอากาศในประเทศ ทำให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขณะเดียวกันมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยก็มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนเพิ่มขึ้น และบางแห่งมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 21–27 กันยายน 2568 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนตกสะสม ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด รวมถึงภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เช่น แม่ฮ่องสอน […]

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 21 ก.ย.-กรมอุตุฯ ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ […]

พระอัฐมรามาธิบดินทร

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอภิลักขิตสมัยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ครบ ๑๐๐ ปี รัชกาลที่ ๘

๒๐ ก.ย. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอภิลักขิตสมัยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ครบ ๑๐๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง วันนี้ ( ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘) เวลา ๑๗.๒๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอภิลักขิตสมัย วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ครบ ๑๐๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งประดิษฐานที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้า […]

1 70 71 72 73 74 34,748