Typhoon Ragasa path

ฮ่องกง-ฟิลิปปินส์เตรียมรับมือไต้ฝุ่น “รากาซา”

ฮ่องกง 22 ก.ย. – ฮ่องกงเตรียมรับมือไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในรอบหลายปี มีรายงานว่าฮ่องกงอาจปิดสนามบินนานาชาติ นานถึง 36 ชั่วโมง ด้านฟิลิปปินส์งดการเรียนการสอนและการทำงานในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศที่คาดว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่ง หอสังเกตการณ์ฮ่องกงซึ่งทำหน้าที่ติดตามและพยากรณ์สภาพอากาศแจ้งผ่านเว็บไซต์เมื่อเวลา 07.45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซาจะเคลื่อนตัวผ่านช่องแคบลูซอนเข้ามายังพื้นที่ตอนเหนือของทะเลจีนใต้ในวันนี้ โดยจะมีการหมุนเวียนเป็นวงกว้างและมีความเร็วในการเคลื่อนตัวค่อนข้างสูง เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง หอสังเกตการณ์ฯ จะแจ้งสัญญาณเตรียมพร้อมหมายเลข 1 ในเวลา 12.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หอสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า เมื่อไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ฮ่องกงมากขึ้น กระแสลมในพื้นที่จะทยอยพัดแรงขึ้นในวันพรุ่งนี้ จากนั้นสภาพอากาศจะเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว หอสังเกตการณ์ฯ จะพิจารณาแจ้งสัญญาณกระสลมแรงหมายเลข 3 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น กระแสลมจะพัดแรงขึ้นในวันที่ 24 กันยายน โดยอาจรุนแรงถึงระดับเฮอริเคนในพื้นที่นอกชายฝั่งและพื้นที่สูง ฝนจะตกหนักและมีพายุฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมในทะเลจะสูงมาก ขอให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับลมพัดแรงและน้ำท่วม และติดตามข้อมูลสภาพอากาศล่าสุดต่อไป บลูมเบิร์กนิวส์รายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวว่า ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเตรียมระงับเที่ยวบินผู้โดยสารทั้งหมดเป็นเวลา 36 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 23 กันยายนถึงเวลา 06.00 […]

“กทพ.-ดีอี” ลงนาม MOU พัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล Easy Pass ภาครัฐ

22 ก.ย.- กทพ. จับมือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงนาม MOU ว่าด้วยการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้บริการบัตรอัตโนมัติ (Easy Pass) ของหน่วยงานภาครัฐ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้บริการ บัตรอัตโนมัติ (Easy Pass) ของหน่วยงานภาครัฐระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับ กทพ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการให้บริการภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการเดินทาง ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่ระบบอัตโนมัติ และสร้างความคล่องตัวในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายภาครัฐ ณ อาคารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ (อาคารซี) ในการนี้ นายพิทยา ธนวณิชย์กุล รองผู้ว่าการ (ดิจิทัล) และนายเทพฤทธิ์ รัตนปัญญากร ผู้อำนวยการ ฝ่ายดิจิทัล 1 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางปิยนุช วุฒิสอน รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนางสาวพิยะดา สุดกังวาล […]

อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นห้องทำงานรองนายกฯ “ธรรมนัส”

ทำเนียบ 22 ก.ย.- คณะทำงาน “ธรรมนัส” อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นห้องทำงาน รองนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าคณะทำงานของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำรถตู้ของสํานักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 คัน ขน โต๊ะหมู่บูชาชุดใหญ่ และอัญเชิญพระพุทธรูป อาทิ พระบูชา ภปร.วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธชินราช พระพุทธศรีสวรรค์ พระเจ้าตากสิน เศียรพระพิฆเนศร และ พระฉายาลักษณ์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขึ้นห้องทำงาน ชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมทำความสะอาดห้องทำงานของรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไว้รอรับรัฐมนตรีใหม่ ที่คาดว่าจะทยอยขนของมาในช่วง 2 วันนี้ ก่อนที่รัฐมนตรีจะเข้าถวายสัตย์ฯ และเริ่มทำงานทันที -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย

สมาคมธนาคารไทย 22 ก.ย.- “อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย ชี้เป็นหัวใจระบบเศรษฐกิจ บอกเคยเป็น Banker มาก่อน ระบุความเห็นเอกชนเป็นประโยชน์ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือดันไทยก้าวสู้ศูนย์กลางอาเซียน-ภูมิภาค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับสมาคมธนาคารไทย โดยมีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการหารือในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤต พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย ด้วยพลวัตใหม่” ว่า วันนี้ตนและทีมงานเศรษฐกิจต้องขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ตั้งใจมาพบกับทุกท่านหลังจากที่มีความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาล และตนได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง ในการคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาบริหารงานด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลของตน ซึ่งพวกท่านน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว และวันนี้มีความจำเป็นต้องพบปะ สถาบันหลัก ทางเศรษฐกิจโดยสัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย เพราะตนก็ออกจากวงการนี้ไปนาน เมื่อไปถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ได้พบกับผู้ประกอบการ ที่เป็นมืออาชีพ […]

“วันนอร์” ยึดเก้าอี้แน่น บอกปธ.สภาฯ ยังทำหน้าที่ได้ตามรธน.

รัฐสภา 22 ก.ย.- “วันนอร์” ยึดเก้าอี้ประธานสภาฯ แน่น ชี้ แม้เปลี่ยนรัฐบาล ก็ยังทำหน้าที่ได้ตามรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สส.พรรคภูมิใจไทย ออกมากดดันให้เปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ นั้น ไม่เคยมีกำหนดในรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับว่าจะเปลี่ยนไปตามรัฐบาล เพราะประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง แต่เป็นตำแหน่งที่เป็นอิสระ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เปลี่ยนรัฐบาล ก็ไม่ได้เปลี่ยน “ถ้าดูประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล สักกี่ครั้งก็แล้วแต่ ประธานสภาก็ไม่ได้เปลี่ยน นี่ไม่ได้หมายความว่าประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ อยากจะเปลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว อย่างไรก็ตาม กลัวเรื่องข้อกังขาที่อาจจะมีตามมาหรือไม่ เพราะอยู่ในซีกของฝ่ายค้าน นายวันมูหะมัดนอร์ ต้องดูหน้างานหากทำได้ก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ว่าไป.-312 -สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” คาดรัฐบาลแถลงนโยบาย 1-2 ต.ค. นี้

รัฐสภา 22 ก.ย.- “วันนอร์” คาดรัฐบาลแถลงนโยบาย 1-2 ต.ค. นี้ แต่อาจเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรัฐบาล ชี้ต้องส่งคำแถลงให้สมาชิกรัฐสภาอ่านก่อน 3 วัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า ขึ้นอยู่กับการกำหนดของรัฐบาล หลังจากวันที่ 24 กันยายนที่จะเข้าถวายสัตย์ฯ และประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ก็จะแจ้งมายังสภา ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะแถลงนโยบายวันใด เมื่อรัฐบาลแจ้งมาแล้วสภาก็จะหารือวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดวันและชั่วโมงในการอภิปราย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้าต้นหรือปลายสัปดาห์ ซึ่งสภาพร้อมที่จะแจ้งให้สมาชิกทราบว่าจะแถลงนโยบายวันไหนและต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะรัฐบาลต้องส่งนโยบายที่แถลงมาให้สมาชิกได้อ่านก่อนวันประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวต่อว่า ถ้าหากทุกอย่างพร้อมไม่มีอะไรติดขัด อาจจะเป็นวันที่ 1 – 2 ตุลาคม โดยจะใช้เวลาทั้ง 2 วันซึ่งจะเท่ากับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิปทั้ง 3 ฝ่าย เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาที่ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่ารัฐบาลจะแบ่งเวลาได้ลงตัวหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า เดี๋ยววิปก็จัดการได้ต้องมีการประชุมหารือเพื่อหาข้อตกลง แต่อย่างไรก็ต้องรอให้รัฐบาลแจ้งความพร้อมในการแถลงนโยบายมาก่อน ถ้าทุกอย่างมีความพร้อมก็คงจะเรียบร้อย.-312 -สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือพร้อมคุยกับสหรัฐหากเลิกกดดันเรื่องอาวุธนิวเคลียร์

โซล 22 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันจันทร์ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงการเจรจากับสหรัฐ หากสหรัฐหยุดยืนกรานให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เขาจะไม่ยอมแลกเปลี่ยนคลังอาวุธนิวเคลียร์กับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร นายคิมกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า โดยส่วนตัวแล้ว เขายังคงมีความทรงจำที่ดีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ โดยผู้นำทั้งสองเคยพบปะกันสามครั้งในช่วงที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก นายคิมกล่าวว่า หากสหรัฐละทิ้งความหมกมุ่นที่ไร้สาระเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์และยอมรับความเป็นจริง รวมถึงต้องการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างแท้จริง ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เกาหลีเหนือจะไม่นั่งลงเจรจากับสหรัฐ นายคิมให้เหตุผลว่า การสร้างอาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องของการอยู่รอดของประเทศ เพื่อปกป้องความมั่นคงจากภัยคุกคามร้ายแรงของสหรัฐและเกาหลีใต้ เขาอ้างถึงการซ้อมรบทางทหารของพันธมิตรทั้งสองที่เขากล่าวว่าได้พัฒนาเป็นการซ้อมรบเพื่อทำสงครามนิวเคลียร์ นายคิมกล่าวว่า ข้อเสนอการเจรจาล่าสุดจากสหรัฐและเกาหลีใต้นั้นไม่จริงใจ เพราะเจตนาพื้นฐานที่จะทำให้เกาหลีเหนืออ่อนแอและทำลายระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และข้อเสนอแบบเป็นขั้นตอนจากเกาหลีใต้เรื่องการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการห้ามส่งอาวุธ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินทุนในการพัฒนาทางทหาร แต่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทรงอานุภาพ ประธานาธิบดีลี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถยับยั้งเกาหลีเหนือได้ ซึ่งปัจจุบันยังคงเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมหาศาล 15 ถึง 20 หัวรบเข้าสู่คลังแสงทุกปี เขากล่าวว่า ในความเป็นจริงคือแนวทางเดิมในการคว่ำบาตรและกดดันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับทำให้มันแย่ลง นายลีได้แสดงท่าทีเป็นมิตรตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน โดยกล่าวว่าการเจรจากับเกาหลีเหนือเป็นสิ่งจำเป็น และได้เสนอขั้นตอนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในที่สุด นายลีกล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีอุปสรรคสำคัญในการรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่เขายังคงเชื่อว่าแนวทางแบบเป็นขั้นตอนในการปลดโครงการนิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่สมจริง และจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมเพื่อนำเกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจา โดยนายทรัมป์มีบทบาทสำคัญในความพยายามเหล่านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

เขื่อนป่าสักฯ ปรับเพิ่มระบายน้ำอีกครั้ง คาดท้ายเขื่อนล้นตลิ่งที่ลุ่มต่ำ

ลพบุรี 22 ก.ย. – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เตรียมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นลำดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน หลังมีแนวโน้มน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดระดับน้ำแม่น้ำป่าสักอาจเพิ่มขึ้น 1.50 – 1.80 เมตรและส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบาย แต่เฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุน้ำเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ออกหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนถึงความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากมีปริมาณน้ำในอ่าง 743 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 77ของความจุอ่างฯ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน 662 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยยังคงมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม กรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทยอยเพิ่มวันละ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป การปรับเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าว คาดว่า จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.50 – 1.80 เมตร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดเช่น ขณะเดียวกันยังคงอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทที่ 2,200 […]

บราซิลประท้วงต้านกฎหมายนิรโทษกรรม

บราซิเลีย 22 ก.ย. – ชาวบราซิลหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในเมืองใหญ่ๆ ในวันอาทิตย์ เพื่อประท้วงความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะปกป้องอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร และสมาชิกสภานิติบัญญัติจากกระบวนการยุติธรรม โดยนับเป็นการประท้วงของกลุ่มฝ่ายซ้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาเปาโล ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมว่า มีผู้ประท้วงราว 40,000 คน เข้าร่วมการประท้วงบนถนนอเวนิดา เปาลีสตา (Avenida Paulista) ในเมืองเซาเปาโล เพื่อต่อต้านความพยายามในสภา และเพื่อเฉลิมฉลองการตัดสินลงโทษนายโบลโซนาโร ครั้งนี้นับเป็นการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดของกลุ่มฝ่ายซ้ายนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ซึ่งในครั้งนั้นก็มีผู้คนจำนวนมากออกมารวมตัวกันบนถนนสายเดียวกันนี้ เพื่อเฉลิมฉลองการได้รับเลือกตั้งของประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้จัดการชุมนุมได้คลี่ธงชาติบราซิลขนาดเกือบ 15 เมตร ซึ่งมีข้อความคัดค้านการนิรโทษกรรม “No Amnesty’ ซึ่งต่างจากการประท้วงของกลุ่มที่สนับสนุนนายโบลโซนาโร เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ผู้ชุมนุมได้กางธงชาติสหรัฐขนาดใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในการแทรกแซงและกดดันผู้พิพากษาบราซิล และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อช่วยเหลือนายโบลโซนาโร การประท้วงครั้งนี้ซึ่งจัดโดยกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคม สหภาพแรงงาน และพรรคการเมือง ได้ประณามสมาชิกสภาที่พยายามหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายสำหรับตนเองและสำหรับนายโบลโซนาโร ซึ่งถูกตัดสินจำคุกจากข้อหาสมคบคิดก่อรัฐประหารหลังจากที่ผู้สนับสนุนของเขาบุกรุกอาคารของรัฐบาลภายหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในปี 2022 เหตุการณ์ในวันอาทิตย์ถือเป็นการประท้วงครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่การตัดสินลงโทษนายโบลโซนาโร ในเดือนนี้ โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมใกล้เคียงกับการประท้วงของกลุ่มฝ่ายขวาที่ต่อต้านการลงโทษเขาในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกที่ชัดเจนในหนึ่งในประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก […]

จบด้วยดี! หนุ่มลวนลาม นศ.สาวบนรถตู้ กล่าวขอโทษ ระบุไม่ได้เจตนา

นนทบุรี 22 ก.ย. – สาวนักศึกษาโวยลั่นบนรถตู้โดยสาร ถูกหนุ่มลวนลาม ล่าสุดจบด้วยดี หนุ่มผู้ก่อเหตุระบุพักผ่อนน้อยทำให้เผลอหลับ มืออาจไปโดน พร้อมกล่าวคำขอโทษผู้เสียหาย ยืนยันไม่มีเจตนาจะกระทำอนาจาร น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกชายคนหนึ่งใช้มือจับต้นขาและพยายามถกกระโปรง บนรถตู้โดยสารระหว่างเดินทางไปเรียน ซึ่งฝ่ายชายไม่ได้ยอมรับ บอกเพียงแต่ว่าหลับอยู่ ก่อนเกิดการโต้เตียงกันรุนแรงบนรถตู้โดยสาร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.30 น. หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดชายคนดังกล่าว โดยมี ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” เข้ามาประสานและให้คำปรึกษาทางกฎหมาย จบด้วยดี! ฝ่ายชายอ้างหลับ ไม่มีเจตนาเมื่อวานนี้ (21 ก.ย. 2568) ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดร.แก้ว เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าพบและพูดคุยไกล่เกลี่ย โดยมีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง […]

โปรตุเกสทะลักเรียนมวยไทย 600 ชีวิต มากที่สุดในยุโรป-‘มาสเตอร์ คลาส’ ลุยต่อที่ออสเตรเลีย

22 ก.ย. – ปิดท้ายทวีปยุโรปที่โปรตุเกส สุดทึ่งคนเรียนมวยไทยทะลุเพดาน 600 คน มากที่สุดในทวีปนี้ ด้านเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน พร้อมสานต่อ ตั้งมวยไทยผนวกท่องเที่ยวในลิสบอน จัดกิจกรรมความเป็นไทยในโปรตุเกส ขณะที่ กกท. ขานรับพร้อมส่งครูมวยไทยแท้ๆ มาร่วมกิจกรรมในอนาคต ส่วน “แสนชัย” สุดเซอร์ไพรส์ เจอแฟนคลับทั่วเมือง เชื่อมวยไทยตอนนี้เบียดกีฬาฟุตบอลในโปรตุเกสแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นประเทศที่ 9 จากทั้งหมด 10 ประเทศ ที่จะเดินทางไปจัดกิจกรรมโปรโมทกีฬามวยไทย โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน ได้มีพิธีเปิดโครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่คลับ เดปอร์ติโว มาริสต้า เด […]

จับหนุ่มพ่นสีสเปรย์บนเสาอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่

เชียงใหม่ 22 ก.ย. – ตำรวจเชียงใหม่จับหนุ่มใช้สีสเปรย์พ่นเสาลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ หลังไม่พอใจเทศกิจยึดอุปกรณ์เล่นสเก็ตบอร์ด วงจรปิดเทศบาลนครเชียงใหม่ บันทึกภาพหนุ่มสวมหมวกมีปีกบังใบหน้า ไถสเก็ตบอร์ดไปที่เสาคอนกรีตขนาดใหญ่ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ พร้อมใช้สีสเปรย์พ่นเขียนข้อความลงบนเสาด้านข้างและด้านหลัง เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุชาวเชียงใหม่รู้สึกถึงความไม่เหมาะสม เพราะจุดนี้เป็นสถานที่สำคัญของเชียงใหม่ เกรงว่าหากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแวะถ่ายภาพและติดข้อความเหล่านี้จะดูไม่สวยงาม วานนี้ ( 21 ก.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จึงไปติดตามจับกุมนายพีรวัฒน์ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ นำตัวมาสอบสวน ทราบว่าก่อนหน้าที่นายพีรวัฒน์จะพ่นสี 1 วัน เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ยึดอุปกรณ์สเก็ตบอร์ดที่วางเกะกะข้างลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จึงทำให้รู้สึกไม่พอใจไปซื้อสีสเปรย์มาพ่น เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ให้ผู้ก่อเหตุไปซื้อทินเนอร์มาเช็ดทำความสะอาดข้อความออก พร้อมให้ไปซื้อสีขาวมาทาทับ ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

1 65 66 67 68 69 34,748